พังงา 13 พ.ย.- รมว.พาณิชย์ พบปะเกษตรกร อ.คุระบุรี จ.พังงา โชว์ผลงานประกันรายได้ช่วยเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา-ปาล์มน้ำมัน มีรายได้เพิ่มขึ้น และผนึก “เกษตร” ทำยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” ช่วยดันราคาสูงขึ้นอีก บวกมีมาตรการเสริม ทำราคาพุ่งต่อเนื่อง ส่วนปุ๋ยเคมี เร่งแก้ปัญหาขาดแคลนจบแล้ว หลังซื้อจากซาอุฯ เจรจาซื้อรัสเซีย คาซัคสถาน และล่าสุดจีน
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีมอบใบรับรองการจัดการหนี้ให้กับเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ติดตามความคืบหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกร และตรวจเยี่ยมโครงการ “คาราวาน พาณิชย์…ลดราคา! ช่วยประชาชน Lot 20 ที่สนามหน้าที่ว่าการอําเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ว่า งานวันนี้เป็นงานเกี่ยวข้องกับโครงการประกันรายได้ พาณิชย์ลดราคา! ช่วยประชาชน และกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร โดยตั้งแต่ตนมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ดำเนินการดูแลเกษตรกร ซึ่งที่นี่ส่วนใหญ่ทำเกษตรปลูกปาล์มน้ำมัน ปลูกยางพารา ตอนนี้กระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นรัฐมนตรี จับมือภายใต้วิสัยทัศน์ “เกษตรผลิตพานิชย์ตลาด” โดยยุทธศาสตร์ “ตลาดนำการผลิต” ช่วยให้ขายยางและปาล์มได้ราคาขึ้น
ทั้งนี้ ก่อนเป็นรัฐบาล ยางพาราสามโลร้อย ตอนนี้ดีขึ้นมาก ยางแผ่นดิบจาก 30 กว่าบาทเป็น 40-60 บาท/กก. ในบางช่วง ขี้ยางสมัยก่อน 7-10 บาท/กก. วันนี้เข้ามาแก้ปัญหาทำงานร่วมกับรองผู้ว่าการยางแห่งประเทศไทย ประกันรายได้ราคายาง ขี้ยางกิโลกรัมละ 20-25 บาท บางช่วงเกือบ 30 บาท/กก. สถานการณ์ดีกว่าก่อน แต่ตอนนี้ที่ราคาลดลงบ้างเกิดจากปัญหาเศรษฐกิจโลกไม่ดี คนซื้อรถน้อยลง ส่วนปาล์มน้ำมันสมัยก่อน กิโลกรัมละ 2 บาทกว่า วันนี้กิโลกรัม 6-7 บาท เคยขึ้นสูงสุดถึง 12 บาท/กก. เพราะนโยบายกระทรวงพาณิชย์ รัฐบาล และกระทรวงเกษตรฯ ที่ช่วยกัน ไม่ให้มีการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์ม วันนี้กระทรวงพาณิชย์ห้ามนำเข้าน้ำมันปาล์มทางบก และได้พาเอกชนไปขายน้ำมันปาล์มที่อินเดียเปิดตลาดน้ำมันปาล์ม และที่ยกเลิกไปแล้ว คือ การปรับน้ำมันดีเซลจาก B5 เป็น B10 ตอนหลังราคาแพงจึงเหลือ B5 ตอนนี้เราจะเพิ่มจาก B5 เป็น B7 คอยมติคณะรัฐมนตรี เพื่อใช้น้ำมันปาล์มมากขึ้น จะให้ราคาน้ำมันปาล์มขึ้น
“เป็นหัวใจและจิตวิญญาณของความเป็นผม โดยผมเกิดที่พังงา พ่อก็นอนอยู่ในสวนปาล์ม เข้าใจพี่น้อง ไม่ต้องห่วง ถ้าวันไหนปาล์มตกหนักยางตกหนัก มีนโยบายสำคัญของรัฐบาลนี้ คือ นโยบายประกันรายได้เกษตรกร ซึ่งเป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นเงื่อนไขก่อนร่วมรัฐบาล ถ้าราคาต่ำกว่ารายได้ที่ประกันจะมีเงินส่วนต่างโอนเข้าบัญชี ธ.ก.ส.โดยตรง ทำให้มีรายได้ 2 ทางจากที่ขายในตลาดและส่วนต่างจากรายได้ที่ประกัน ช่วยเหลือเกษตรกรและคนปักษ์ใต้บ้านเรา”นายจุรินทร์กล่าว
นายจุรินทร์กล่าวว่า เรื่องปุ๋ยที่แพงมาก แต่แพงน้อยลงมานิดหน่อย แพงมาประมาณ 2 ปีแล้ว เพราะประเทศไทยทำปุ๋ยเองไม่ได้ นำเข้า 100% ปุ๋ยเคมีทุกสูตรทุกแบบ เพราะปุ๋ยทำจากก๊าซธรรมชาติ ซึ่งราคาแพงขึ้นช่วงสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ก๊าซในโลกราคาพุ่ง ทำให้ปุ๋ยโลกแพง เวลานำเข้าจากต่างประเทศ ก็ต้องใช้น้ำมัน ค่าขนส่งจึงแพง ทำให้ปุ๋ยในประเทศไทยราคาแพง มี 2 เรื่องที่ต้องแก้ คือ 1.ไม่ให้ปุ๋ยขาดแคลน ซึ่งตนเจรจากับแหล่งผลิตปุ๋ยสำคัญอย่างซาอุดิอาระเบียซื้อปุ๋ยราคาพิเศษ สามารถนำเข้าจากซาอุฯ ได้แล้ว 400,000 ตัน แก้ปัญหาปุ๋ยขาดแคลนได้ และคุยกับคาซัคสถานและรัสเซีย ยังติดขัดระบบแลกเปลี่ยนเงินตรา และตนจะถือโอกาสเจรจากับจีนตอนประชุมเอเปก เพื่อขอนำเข้าปุ๋ยลดราคาพิเศษจากจีน 2.ปุ๋ยแพง เรามาควบคุมราคากำหนดโครงสร้างราคาใหม่ ให้ผู้นำเข้าได้กำไรน้อยลง ให้พอนำเข้าได้ ในอนาคตถ้าสงครามรัสเซีย-ยูเครน คลี่คลายแล้ว ราคาปุ๋ยก็จะลดลง
ทั้งนี้ ไม่เพียงแต่ตนมาพบปะเกษตรกรเท่านั้น โดยมีผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมในงานมีนี้ด้วย เช่นนายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายไชยยศ จิรเมธากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นางกันตวรรณ ตันเถียร กุลจรรยาวิวัฒน์ ส.ส.พังงา นายสาคร เกี่ยวข้อง ส.ส.จังหวัดกระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ นายสไกร พิมพ์บึง เลขาธิการสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน เข้าร่วมด้วย และภายในงานนายจุรินทร์ได้มอบใบรับรองการจัดการหนี้ให้กับเกษตรกรจังหวัดพังงา ของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร จำนวน 5 ราย และจากนั้นนายจุรินทร์ได้เปิดโครงการพาณิชย์ลดราคา!ช่วยประชาชน Lot 20 นำสินค้าราคาพิเศษที่จำเป็นต่อการอุปโภคบริโภค มาจำหน่ายเพื่อลดค่าครองชีพ ลดสูงสุดถึง 60% ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดี.-สำนักข่าวไทย