บาทผันผวนเคลื่อนไหวตามสกุลเงินภูมิภาค

กรุงเทพฯ 11 พ.ย. – ธปท. ชี้แม้บาทวันนี้ผันผวน แต่เคลื่อนไหวตามสกุลเงินภูมิภาค แนะเอกชนบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนสม่ำเสมอ


นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวแข็งค่าของเงินภูมิภาคในช่วงที่ผ่านมา สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ปรับดีขึ้น จากการคาดการณ์แนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ FED ว่าอาจผ่อนคลายความเข้มงวดลงได้บ้าง โดยเฉพาะหลังตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐชะลอลงมากกว่าคาด รวมถึงเริ่มเห็นสัญญาณการผ่อนคลายมาตรการ Zero Covid-19 จากทางการจีน ส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐปรับอ่อนค่าลงกว่า 3% สู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

ขณะที่เงินบาทปรับแข็งค่าสอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของสกุลเงินภูมิภาค โดยปรับแข็งค่าขึ้นจากสิ้นเดือนตุลาคม ประมาณ 5% โดยในเดือนพฤศจิกายนนี้ นักลงทุนต่างชาติมีฐานะเป็นซื้อสุทธิในหลักทรัพย์ไทยประมาณ 1.07 แสนล้านบาท โดยเป็นการซื้อสุทธิในตลาดหุ้นประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท และซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร ประมาณ 8.9 หมื่นล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 10 พ.ย. 2565)


ทั้งนี้ ความผันผวนในตลาดการเงินยังมีแนวโน้มที่จะทรงตัวในระดับสูงในระยะถัดไป ภาคเอกชนควรบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ

สำหรับเงินบาทวันนี้ผันผวน ปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ 36.02 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าต่อเนื่อง จากเปิดตลาดเมื่อเช้าที่ระดับ 36.11 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันลงไปแตะ 35.70 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ค่าเงินบาทวันนี้แข็งค่าค่อนข้างเร็ว หลักๆ มาจากต่างชาติลดสถานะถือดอลลาร์ ทำให้มีการขายดอลลาร์ออกมาจากพอร์ตค่อนข้างมาก หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ ต่ำกว่าที่คาด โดยเฉพาะเงินเฟ้อพื้นฐาน ส่งผลให้การคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐที่จุดสูงสุดเปลี่ยนไป โดยนักลงทุนมองว่าจุดสูงสุดธนาคารกลางสหรัฐอาจขึ้นดอกเบี้ยได้ไม่ถึงระดับ 5% เพราะเงินเฟ้อที่ลดลงเร็วกว่าคาด ส่งผลให้ต่างชาติเทขายสกุลเงินดอลลาร์


สำหรับสัปดาห์หน้า คาดว่ามีโอกาสที่จะเห็นเงินบาทแข็งค่าอีก โดยจะมีการเปิดประมูลบอนด์ระยะสั้นต่ำกว่า 1 ปี ของ ธปท. ที่ราว 5 หมื่นล้านบาท ดังนั้น อาจเป็นช่องให้ต่างชาติเข้ามาพักเงินระยะสั้นๆ ได้ คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์หน้าอยู่ที่ 35.5-36.20 บาทต่อดอลลาร์ได้

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ ttb analytics มองว่า ในระยะต่อไปคาดว่าเงินบาทจะไม่อ่อนค่าลงมาก แม้เฟดจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่า ณ สิ้นปี 66 เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ 36.50 บาท/ดอลลาร์ จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่จะทำให้การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดปรับดีขึ้น ขณะที่การปรับดอกเบี้ยของเฟดมีแนวโน้มสูงสุดที่ 4.75% ในช่วงกลางปี 66 และอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยจะขยับขึ้นไปที่ระดับ 2.00%

ttb analytics ระบุว่า จากการที่ค่าเงินบาทอยู่ในทิศทางอ่อนค่ามาตั้งแต่ต้นปี 65 อ่อนค่ามากที่สุดในรอบ 16 ปี โดยอยู่ที่ 38.31 บาท/ดอลลาร์ หรืออ่อนค่าลงกว่า 14% โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นมาก จากการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย

นับตั้งแต่ต้นปี 65 ที่ผ่านมา เฟดได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแล้วถึง 3.00% และคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 50 Basis Points (BPS) อีก 1 ครั้ง ในการประชุมเดือน ธ.ค. ของปีนี้

ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังคงปรับอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยปรับเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% และคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นอีกเพียง 25 BPS ในการประชุมครั้งสุดท้ายของปีในวันที่ 30 พ.ย.นี้

อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา เริ่มเห็นสัญญาณเงินบาทแข็งค่าขึ้น โดยล่าสุดอยู่ที่ 36.85 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ จากการที่ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้เร็ว หนุนดุลบัญชีเดินสะพัดมีแนวโน้มปรับดีขึ้นในปีหน้า ทำให้ ณ สิ้นปี 66 เงินบาทมีแนวโน้มแข็งขึ้นเล็กน้อย อยู่ที่ระดับ 36.50 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก