นครศรีธรรมราช 11 พ.ย. – พาณิชย์ปลื้มขยายตลาด GI สินค้า “ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง” ทำสัญญาล่วงหน้ากว่า 100,000 กก. กับห้างใหญ่ “ท็อปส์” ดันราคาพุ่งเพิ่มอีกลูกละ 60 บาท เตรียมขึ้นทะเบียน GI ส่งออกที่จีน พร้อมพัฒนากล่อง “มังคุดเขาคีรีวง” การันตีคุณภาพพรีเมียม มั่นใจสินค้า GI ไทยเป็นที่ต้องการตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานสักขีพยานการเซ็นสัญญาซื้อขายล่วงหน้าสินค้า GI “ส้มโอทับทิมสยามปากพนัง” และมอบบรรจุภัณฑ์สินค้า GI “มังคุดเขาคีรีวง” ที่วิสาหกิจชุมชนเทศบาลตำบลเกาะทวด อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช โดยนำผู้ซื้อพบกับผู้ผลิตคือผู้ขาย ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า ให้มีหลักประกันว่ารับซื้อไม่ต่ำกว่ากี่ตัน และราคาไม่ต่ำกว่าเท่าไร เพื่อเป็นหลักประกันให้เกษตรกรผู้ปลูกส้มโอทับทิมสยามปากพนัง รวมทั้งพืชเกษตรอื่นทั่วประเทศ ได้มั่นใจว่าสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพสูงมีความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างมาก
ทั้งนี้ กิจกรรมดังกล่าวโดยดึงห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ เช่น ท็อปส์ มาร์เก็ต มาซื้อส้มโอทับทิมสยามปากพนัง ซึ่งกรมทรัพย์สินทางปัญญาพามารับซื้ออย่างน้อย 100,000 กิโลกรัม ช่วยดึงราคาให้สูงขึ้น และซื้อสูงกว่าราคาตลาดปกติประมาณ 60 บาทต่อลูก และปัจจุบันนี้กระทรวงพาณิชย์มาช่วยพี่น้องขึ้นทะเบียน GI หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ให้กับส้มโอทับทิมสยามปากพนังแล้ว จะช่วยให้ราคาส้มโอแพงขึ้นเป็นเท่าตัว เช่น สมัยก่อนส้มโอทับทิมสยาม ถ้าไม่เป็น GI ลูกละ 150 บาท เป็นจีไอลูกละ 500 บาทแล้ว เป็นสิ่งที่ได้ทำให้กับพี่น้อง และปัจจุบันสามารถโพสต์ขายส้มโอทับทิมสยามออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Shopee Lazada และปัจจุบันส้มโอทับทิมสยามปากพนังไม่ได้ขายแต่ในประเทศเท่านั้น ยังขายไปต่างประเทศ เช่น ลาว ฮ่องกง และไต้หวัน ปีละกว่า 10 ล้านบาท
ทัังนี้ นอกจากจดทะเบียน GI ส้มโอทับทิมสยามปากพนังในประเทศไทยแล้ว จะไปช่วยจดทะเบียนให้ที่ตลาดใหญ่ที่สุดในโลกของส้มโอ คือที่ประเทศจีนด้วย และมังคุดเขาคีรีวง จดทะเบียนเป็น GI แล้วเมื่อปีที่แล้ว ดังนั้น จากดารติดตามดูในเรื่องของราคาหลังขึ้นทะเบียนแล้วทำให้ราคาสูงขึ้นโดยอัตโนมัติ และกระทรวงพาณิชย์ขอให้ขยายตลาดออฟไลน์และออนไลน์ โดยนำกล่องมาให้จำนวน 5,000 กล่อง ใส่ได้กล่องละ 5 กิโลกรัม
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของกรมทรัพย์สินทางปัญญา ระบุว่าส้มโอทับทิมสยามปากพนัง เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ ด้วยรสชาติหวานนุ่ม และเนื้อสีชมพูเข้มคล้ายสีทับทิมที่เป็นเอกลักษณ์ สร้างรายได้แก่เกษตรกรผู้ปลูกส้มโอในพื้นที่ อ.ปากพนัง กว่า 700 ครัวเรือน และสร้างมูลค่าการตลาดกว่า 238 ล้านบาทต่อปีอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย