สนข. เร่งผลักดันการประกาศใช้ พ.ร.บ.ระบบตั๋วร่วม

กรุงเทพฯ 9 พ.ย.-สนข. จัดสัมมนา “โครงการศึกษาจัดทำแผนการกำกับการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม” ครั้งที่ 3 เพื่อนำเสนอผลศึกษาจัดทำแผนบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม เร่งผลักดันการประกาศใช้ พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ระบบขนส่งมวลชน และอำนวยความสะดวกการเดินทาง

นางสาวกรุณา เนียมเอี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานโครงการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมเป็นประธานเปิดงานสัมมนา “โครงการศึกษาจัดทำแผนการกำกับการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม” ครั้งที่ 3 ที่จัดโดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม


ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมและสนข. ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีที่มอบนโยบายให้ดำเนินการพัฒนาระบบตั๋วร่วมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการขนส่งมวลชนโดยใช้บัตรโดยสารใบเดียวสามารถเดินทางได้ทุกระบบขนส่ง และสนับสนุนให้ประชาชนเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางจากรถยนต์ส่วนบุคคลมาสู่ระบบขนส่งมวลชน เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ระบบขนส่งมวลชน

สนข. ได้ดำเนินโครงการศึกษาจัดทำแผนการกำกับการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางในการกำกับดูแลการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมให้สมบูรณ์ และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีแนวคิดในการศึกษาจัดทำแผนการกำกับการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมให้สอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาระบบตั๋วร่วมและรูปแบบการชำระเงินประเภท Open-loop System บนพื้นฐานการใช้ Account-Based Ticketing (ABT) และการรองรับระบบ EMV ในการชำระค่าโดยสาร รวมถึงการใช้งานและชำระเงินกับบริการอื่นๆ นอกภาคขนส่ง (Non-Transit) ได้


ที่ผ่านมาสนข. ได้นำเสนอผลการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นจากผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญ และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนเกี่ยวกับประเด็นโครงสร้างอัตราค่าโดยสารร่วมที่เหมาะสม แนวทางการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมทางการเงินในระบบตั๋วร่วมที่ และการจัดทำร่างกฎหมายว่าด้วยการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย”

สำหรับการจัดสัมมนา “โครงการศึกษาจัดทำแผนการกำกับการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม” ครั้งที่ 3 ที่ สนข. จัดขึ้นในวันนี้ เป็นการนำเสนอผลการศึกษาแก่ผู้เข้าร่วมสัมมนาและร่วมกันเสนอแนะข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้การกำกับการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมมีประสิทธิผลและสามารถขับเคลื่อนไปสู่การปฏิบัติได้จริง

ปัจจุบันสนข. อยู่ระหว่างผลักดันการประกาศใช้ “พระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ…..” ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อรองรับการดำเนินงานทั้งในส่วนของอัตราค่าโดยสารร่วม และมาตรฐานด้านเทคโนโลยีระบบตั๋วร่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสาระสำคัญของร่าง “พระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ…..” ประกอบด้วย


  • แผนการพัฒนาระบบฐานข้อมูลการเดินทางและค่าโดยสาร
  • โครงสร้างอัตราค่าโดยสารร่วม/อัตราค่าโดยสารเดียว และอัตราค่าธรรมเนียมทางการเงิน
    ในระบบตั๋วร่วม
  • แผนการลงทุนและพัฒนาระบบตั๋วร่วม
  • การจัดหาเงินทุนที่จะนำมาใช้ในการชดเชยรายได้จากค่าโดยสารร่วม
  • แผนและแนวทางการติดตามประเมินผล
  • แผนการกำกับการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม

หากพัฒนาระบบตั๋วร่วมแล้วเสร็จอย่างสมบูรณ์และประกาศใช้พระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ….. แล้ว จะเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยลดเวลาการเดินทางและประหยัดค่าโดยสาร จูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชน ช่วยลดปัญหาการจราจร ลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ลดปัญหามลพิษทางอากาศ ส่งเสริมเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลตามนโยบายรัฐบาลได้อย่างเป็นรูปธรรม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว

ช้างพลายขุนเดช

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” ไปสถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” สู่สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง จบดราม่า หลังฝากเลี้ยงที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่