บริษัทประกันภัยทยอยจ่ายค่าสินไหมเหยื่อกราดยิงแล้ว

กรุงเทพฯ 8 ต.ค. – เลขาธิการ คปภ. แจงบริษัทประกันภัยทยอยจ่ายค่าสินไหมแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุกราดยิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จังหวัดหนองบัวลำภู แล้ว


กรณีเกิดเหตุกราดยิงที่จังหวัดหนองบัวลำภู ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งสำนักงาน คปภ. ได้ติดตามและลงพื้นที่แล้ว รวมทั้งได้มีการตั้งศูนย์เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับครอบครัวของผู้ประสบเหตุที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ และได้มีการรายงานการช่วยเหลือด้านการประกันภัยไปแล้วนั้น

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ห่วงใยในเรื่องนี้อย่างมากและได้กำชับให้สำนักงาน คปภ. เข้าไปช่วยเหลือดูแลอย่างเต็มที่


สำหรับความคืบหน้าการดำเนินการช่วยเหลือด้านประกันภัยนั้น หลังจากที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าศูนย์พัฒนาเด็กเล็กได้ทำประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่ม ไว้กับบริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) ซึ่งกรมธรรม์ประกันภัยยังไม่หมดอายุ โดยคุ้มครองกรณีการเสียชีวิต รายละ 50,000 บาท และคุ้มครองกรณีค่ารักษาพยาบาลต่ออุบัติเหตุแต่ละครั้ง 5,000 บาทต่อราย โดยมีผู้เสียชีวิตที่ได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ จำนวน 17 ราย รายละ 50,000 บาท ผู้บาดเจ็บที่ได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขกรมธรรม์ 3 ราย ๆ ละ 5,000 บาท ซึ่งจากการประสานงาน บริษัทผู้รับประกันภัยได้นัดจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิต ในวันที่ 8 ตุลาคม 2565 เวลา 14.00 น. ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู

นอกจากนี้ บริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) มอบเงินช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ ในวงเงิน 820,000 บาท สำหรับผู้ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บทุกราย โดยเฉลี่ยจ่ายให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิต จำนวน 36 ราย ๆ ละ 20,000 บาท สำหรับผู้บาดเจ็บ จำนวน 10 ราย ๆ ละ 10,000 บาท โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารของทายาท หากได้รับเอกสารครบถ้วนบริษัทฯจะเร่งดำเนินการจ่ายโดยเร็ว

จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่ามีผู้เสียชีวิต 3 ราย ทำกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลไว้กับ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) จำนวน 3 ราย ซึ่งมีความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต เป็นเงิน 50,000 บาท จำนวน 1 ราย และคุ้มครองการเสียชีวิต จำนวน 2 ราย รายละ 100,000 บาท โดย บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการจ่ายโดยโอนเงินเข้าบัญชี (วันที่ 7 ตุลาคม 2565) เรียบร้อยแล้ว


ส่วนรถยนต์ของผู้ก่อเหตุที่เฉี่ยวชนประชาชนรอบบริเวณที่เกิดเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และผู้บาดเจ็บ 5 ราย ตรวจสอบพบว่า ในขณะที่ถูกเฉี่ยวชนอยู่ในระหว่างขับขี่และโดยสารรถจักรยายนต์ ซึ่งมีการจัดทำประกันภัยรถภาคบังคับ จำนวน 1 ราย กับบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด โดยบริษัทฯ ได้จ่ายค่าเสียหายให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย เป็นเงิน 35,000 บาท เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2565 สำหรับผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ซึ่งอยู่ในรถจักรยานยนต์ที่ไม่ได้จัดทำประกันภัยภาคบังคับ ทายาทสามารถรับเงินค่าเสียหายเบื้องต้นจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย สำหรับค่าปลงศพ จำนวน 35,000 บาท และค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 30,000 บาท ซึ่งอยู่ระหว่างที่ทายาทติดต่อขอรับค่าเสียหายเบื้องต้นจากกองทุนฯ โดยสำนักงาน คปภ. จะเร่งให้กองทุนฯ จ่ายเงินค่าเสียหายเบื้องต้นให้โดยเร็ว และยังพบว่ามีผู้เสียชีวิต 4 ราย ทำกรมธรรม์ประกันชีวิตไว้กับ บริษัท ไทยสมุทรประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้ประสานบริษัทเพื่อให้ดำเนินการชดใช้ โดยบริษัทได้โอนเงินเข้าบัญชีผู้รับประโยชน์ทั้ง 4 ราย จำนวนเงิน 1,200,500 บาท (วันที่ 7 ตุลาคม 2565) เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนั้นกลุ่มตัวแทนบริษัท เอฟดับบลิวดี ประกันชีวิต จํากัด (มหาชน) จังหวัดหนองบัวลำภู ได้ช่วยเหลือเป็นค่าปลงศพให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิต จำนวน 36 ราย ๆ ละ 1,000 บาท รวม 36,000 บาท เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2565 เรียบร้อยแล้ว

“สำนักงาน คปภ. ได้เร่งระดมสรรพกำลังบุคลากรของสำนักงาน คปภ. เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในครั้งนี้อย่างเต็มกำลังความสามารถ อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บเป็นจำนวนมาก สำนักงาน คปภ. ยังคงเร่งติดตามตรวจสอบการประกันภัยที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอย่างใกล้ชิด และจะดำเนินการอย่างเต็มที่และสุดความสามารถเพื่อให้ผู้บาดเจ็บและครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้รับการช่วยเหลือเยียวยาอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม ทั้งนี้หากมีความคืบหน้าในการช่วยเหลือด้านประกันภัยเพิ่มเติมจะได้แจ้งให้สาธารณชนทราบต่อไป” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

เน้นเครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B, C คาดมีผู้ติดค้างจำนวนมาก

ฝนตกหนักช่วงเช้า เพิ่มอุปสรรคค้นหาผู้ประสบภัย และการรื้อซากอาคาร สตง.ถล่ม เจ้าหน้าที่ทุกส่วนต้องหยุดปฏิบัติภารกิจชั่วคราว วันนี้ยังเน้นใช้เครื่องจักรหนักเข้าถึงโซน B และโซน C ที่มีลักษณะคล้ายร่างกายมนุษย์ติดอยู่ในซาก ด้านทีม K9 ประกาศยุติภารกิจค้นหาผู้สูญหาย

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม

K9 หยุดปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม เพราะปฏิบัติหน้าที่ครบ 10 วันแล้ว เป็นปกติของการทำงาน หากปฏิบัติภารกิจต่ออาจจะทำให้บาดเจ็บได้ และการกู้ภัยที่เหลือตอนนี้จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรใหญ่เท่านั้น