นนทบุรี 23 ก.ย.- รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์เผย ช่วง 8 เดือนปี 65 ต่างชาติลงทุนในไทย กว่า 83,282 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากปี 2564 เกือบ 33,156 ล้านบาท หรือ 66 % ญี่ปุ่นนำโด่ง 32,897 ล้านบาท ตามด้วย จีน 14,719 ล้านบาท และสิงคโปร์ 10,665 ล้านบาท จ้างงานคนไทยรวมกว่า 3,762 คน หลังเปิดประเทศและการติดเชื้อโควิดเบาลงทำให้เศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว
นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่าคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวได้รายงานถึงตัวเลขของการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในช่วง 8 เดือนแรก (ม.ค. – ส.ค.) ปี 65 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 381 ราย โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว แบ่งเป็น ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 141 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 240 ราย มีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น83,282 ล้านบาท จ้างงานคนไทยกว่า 3,762 คน
ทั้งนี้ ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น 96 ราย (ร้อยละ 25) เงินลงทุน 32,897 ล้านบาทสิงคโปร์ 64 ราย (ร้อยละ 17) เงินลงทุน 10,665 ล้านบาท สหรัฐอเมริกา 49 ราย (ร้อยละ 13) เงินลงทุน 3,277 ล้านบาท ฮ่องกง 28 ราย (ร้อยละ 7.4) เงินลงทุน 7,788 ล้านบาท เยอรมนี 17 ราย (ร้อยละ 4.5) เงินลงทุน 1,203 ล้านบาทเนเธอร์แลนด์ 16 ราย (ร้อยละ 4.2) เงินลงทุน 4,907 ล้านบาท และ จีน 16 ราย (ร้อยละ 4.2) เงินลงทุน 14,719 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 64 (มกราคม – สิงหาคม) พบว่า อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย เพิ่มขึ้น 51 ราย คิดเป็นร้อยละ 15 (ปี 2565 อนุญาต 381 ราย ปี 2564 อนุญาต 330 ราย) เม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 33,156 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 66 (ปี 2565 ทุน 83,282 ล้านบาท ปี2564 ทุน 50,126 ล้านบาท) และจ้างงานคนไทยเพิ่มขึ้น 953 ราย คิดเป็นร้อยละ 34 (ปี 2565 จ้างงาน 3,762 คน ปี2564 จ้างงาน 2,809 คน) โดยปี 2564 ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนสูงสุด คือ ญี่ปุ่น สิงคโปร์ และ สหรัฐอเมริกา เช่นเดียวกับปี 2565
ทั้งนี้ 8 เดือนแรกปี 65 ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตส่วนใหญ่เป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐและสนับสนุนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ อาทิ บริการออกแบบ ก่อสร้าง ติดตั้ง และตรวจสอบระบบกักเก็บพลังงาน สำหรับโครงการโรงผลิตไฟฟ้าแบบผสมผสานสำหรับสนามบินอู่ตะเภาบริการขุดเจาะปิโตรเลียม บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า (Electric Vehicle Charging Station) สำหรับรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าบริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การให้คำปรึกษา เชิงเทคนิคแบบครบวงจรในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ การช่วยเหลือด้านการออกแบบ การพัฒนา และทดสอบระบบ เป็นต้น รวมถึงบริการออกแบบด้านวิศวกรรม จัดหาก่อสร้าง ติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตน้ำยาอะคริลิก บริการให้ใช้แพลตฟอร์มแอปพลิเคชัน และเว็บไซต์ สำหรับการขนส่งผู้โดยสารและสินค้า และสั่งซื้อสินค้าและบริการ บริการพัฒนาและให้บริการซอฟต์แวร์ด้านวิเคราะห์และเชื่อมโยงเพื่อบริหารจัดการข้อมูล Big Data, Data Analytics
ขณะที่ การลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ 8 เดือน (ม.ค. – ส.ค.) ปี 65 นั้น มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 69 ราย คิดเป็นร้อยละ 18 ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมดใน 8 เดือนนี้ โดยมีเงินลงทุนในพื้นที่EEC กว่า 33,236 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 40 ของเงินลงทุนทั้งหมด ทั้งนี้ เป็นนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น 31 รายลงทุน 21,983 ล้านบาท สิงคโปร์ 7 ราย ลงทุน 1,826 ล้านบาท และ สหรัฐอเมริกา 5 ราย ลงทุน 1,074 ล้านบาทธุรกิจที่ลงทุน อาทิ 1) บริการรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ FUEL PUMP MODULE 2) บริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่นการให้คำปรึกษาเชิงเทคนิค และการออกแบบเครื่องจักร เครื่องกล เครื่องมือ และอุปกรณ์ และ 3) บริการบุรอง(Lining) ชิ้นส่วนของเครน รอก ลิฟท์ และแม่แรง และคาดว่าอีก 4 เดือนที่เหลือ (ก.ย. – ธ.ค.) ปี 65 จะมีนักลงทุนต่างชาติเข้ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เป็นผลมาจากภาครัฐมีมาตรการส่งเสริมการลงทุน กระตุ้นเศรษฐกิจโดยผ่อนคลายให้มีการเปิดประเทศ และเพิ่มการอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน ส่งผลให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศเพิ่มขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเสริมให้เศรษฐกิจของไทยฟื้นตัวได้เร็วขึ้น
ทั้งนี้ หากดูตัวเลขเฉพาะเดือนสิงหาคม 65 มีการอนุญาตให้คนต่างชาติ 58 ราย ประกอบธุรกิจในประเทศไทย โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว แบ่งเป็น ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 19 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 39 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 9,648 ล้านบาท จ้างงานคนไทยกว่า 454 คน ส่วนใหญ่เป็นคนต่างชาติจากประเทศญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาและสิงคโปร์ รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุนให้แก่คนไทย เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับความรู้ทางเทคนิคเฉพาะทางการติดตั้งและซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้าของรถไฟฟ้า องค์ความรู้เกี่ยวกับการใช้เครื่องมือส่งเสริมการขายของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และธุรกิจอื่นๆเป็นต้น.-สำนักข่าวไทย