นนทบุรี 9 ก.ย.-รัฐมนตรีพาณิชย์ระบุงานแสดงอัญมณีและเครื่องประดับ ครั้งที่ 67 (Bangkok gems and Jewelry fair :BGJF 67th Edition) หวังให้ผู้ส่งออกไทยกับผู้ซื้อทั่วโลกเจรจาซื้อขายช๊อปสินค้ากว่า 15,000 ราย มั่นใจตลอดจัดงาน 5 วันดันยอดขายในงานกว่า 3,000 ล้านบาท คาดว่าในปี 65 ยอดส่งออกจะสูงถึง 234,000 ล้านบาท หากดูในช่วง 7 เดือนส่งออกมีมูลค่าสูงถึง 149,842 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 50.64
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ว่าว่า งานแสดงอัญมณีและเครื่องประดับ ครั้งที่ 67 (Bangkok gems and Jewelry fair :BGJF 67th Edition) จัดขึ้นที่ Hall 2 อิมแพ็ค เมืองทองธานีเป็นการจัดงานอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกในรอบ 2 ปีในช่วงปีที่ผ่านมา โดยอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยเผชิญความท้าทาย ต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน การผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน การระบาดของโรคโควิด-19 จนถึง การเพิ่มขึ้นของต้นทุนโลจิสติกส์ ที่ส่งผลกระทบกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจการค้าโลกในปัจจุบัน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์เร่งรัดการส่งออกเชิงรุกมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้า อัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญของโลก มุ่งเน้นรักษาตลาดเดิม เปิดตลาดใหม่ และฟื้นฟูตลาดเก่าที่เคยเป็นตลาดสำคัญ และใช้ยุทธศาสตร์การสร้างพันธมิตรในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับกับตลาดเป้าหมาย ด้วยการจัดทำ Mini FTA ที่ลงลึกระดับเมือง/รัฐ/มณฑลที่มีศักยภาพ ที่ผ่านมา ได้มีการจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการเป็นพันธมิตรในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ กับเมืองโคฟุ จังหวัดยามานาชิ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับของญี่ปุ่น เพื่อเสริมศักยภาพของกันและกันในการยกระดับอุตสาหกรรมของทั้ง 2 ประเทศร่วมกันผลการผลักดันการส่งออกเชิงรุก
อย่างไรก็ตาม ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา การส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 29.8 ในปี 2564 ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ถึง 4 เท่า สามารถนำรายได้เข้าประเทศ 194,950 ล้านบาท และในปี 2565 ตั้งเป้าไว้ที่ 234,000 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 7 เดือนที่ผ่านมา การส่งออกมีมูลค่าสูงถึง 149,842 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 50.64
อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับเป็นอุตสาหกรรมมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างมาก เนื่องจากมีผู้ประกอบการ SMEs ที่อยู่ในอุตสาหกรรมถึงกว่าร้อยละ 90 มีการจ้างแรงงานในห่วงโซ่อุปทานถึงกว่า 664,000 คน
นอกจากนี้ อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยยังมีความโดดเด่นในด้านต่างๆ ที่มีทั้งความเชี่ยวชาญด้านการผลิต ช่างฝีมือที่เปี่ยมด้วยทักษะและฝีมืออันประณีตในการคัดสรร การเจียระไน การขึ้นรูป รวมถึงการออกแบบ ซึ่งจากศักยภาพดังกล่าว รัฐบาลไทยจึงมีนโยบายส่งเสริมการจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าอัญมณีและเครื่องประดับที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก
งาน Bangkok Gems and Jewelry Fair เป็นงานแสดงและเป็นเวทีการค้าสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทยได้พบเจรจาการค้ากับผู้ซื้อจากทั่วโลก ในช่วงระยะเวลาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้มีการปรับรูปแบบการจัดงานสู่งานแสดงสินค้าเสมือนจริง ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าการซื้อขายผ่านการจับคู่เจรจาการค้าออนไลน์ครั้งละกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งงานแสดงสินค้า Bangkok Gems and Jewelry Fair สามารถกลับมาจัดงานได้อย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งผู้ซื้อ และผู้ขายที่มาร่วมงานในครั้งนี้ โดยมีผู้ประกอบการสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับมาจัดแสดงสินค้า จำนวน 1,020 บริษัท พื้นที่ 2,004 คูหา โดย Exhibitor มีจำนวนสูงกว่าเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ถึงร้อยละ 30 คาดว่าจะมีผู้ซื้อจากทั่วโลกเดินทางมาเจรจาการค้ามากกว่า 15,000 ราย จะมียอดการซื้อขายภายในงานสูงถึง 3,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยส่งผลให้การส่งออกสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับขยายตัวเพิ่มขึ้นได้ร้อยละ 20 ตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์ได้ตั้งไว้.-สำนักข่าวไทย