ไทย-มองโกเลียตั้งเป้าทำการค้าเพิ่มลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น

มองโกเลีย 6 ก.ย.- รัฐมนตรีพาณิชย์เผยผลนำคณะเยือนมองโกเลียได้ผลเกินคาดตั้งเป้าหมายเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันในอีก 5 ปีข้างหน้า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐและลงทุนเกินกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ย้ำไทยมีความพร้อมเป็นแหล่งผลิตหรือส่งออกอาหารให้กับมองโกเลีย เพื่อความมั่นคงทางอาหารเต็มที


นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee : JTC) ไทย-มองโกเลีย ครั้งที่ 1 กับนางบัตต์เซตเสก บัตมุนห์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมองโกเลีย( Mrs. Battsetseg Batmunkh, Minister of Foreign Affairs of Mongolia) พร้อมด้วยคณะผู้บริหารของกระทรวงพาณิชย์ในช่วงนำคณะเยือนมองโกเลียอย่างเป็นทางการว่า การประชุม JTC เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยและมองโกเลีย โดยปีนี้เป็นปีแรกที่มองโกเลียเป็นเจ้าภาพได้ข้อสรุป 5 ข้อหลัก คือ 1.ทั้งสองฝ่าย ตั้งเป้าหมายทางการค้าและการลงทุนร่วมกันในปี 2027 ในอีก 5 ปีข้างหน้า เป้าหมายทางการค้า จะทำตัวเลขการค้าใน 5 ปี ให้ได้ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 55 ล้านดอลลาร์สหรัฐและเป้าหมายการลงทุน ตั้งเป้า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะนี้ตัวเลขการลงทุนอยู่ที่ 1,034 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

2.เพื่อให้บรรลุเป้าหมายถือโอกาสเชิญมองโกเลียประสานกับผู้นำเข้า นักธุรกิจ นักลงทุนมองโกเลีย เดินทางร่วมงานแสดงสินค้าสำคัญในประเทศไทย 3 งาน 1)งาน STYLE Bangkok วันที่ 22-26 มี.ค.66 2)งาน THAIFEX – Anuga Asia วันที่ 23-27 พ.ค. 66 และ 3) งาน Bangkok Gems & Jewelry Fair จะจัดขึ้นในเดือน ก.ย.66 และกระทรวงพาณิชย์จะช่วยประสานงานจัดให้มีการพบปะเจรจาระหว่างหน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของมองโกเลียกับนักลงทุนจากประเทศไทย


3.ประเทศไทยจะเป็นแหล่งผลิตหรือส่งออกอาหารให้กับมองโกเลีย เพื่อความมั่นคงทางอาหาร โดยสินค้าที่ไทยจะส่งออกไปมองโกเลียสำคัญประกอบด้วย ไก่แช่เย็น-แช่แข็ง อาหารทะเลแช่เย็น-แช่แข็งและแปรรูป ผลไม้ น้ำผลไม้ ผลไม้สด ผลไม้กระป๋อง อาหารสำเร็จรูปและขนมขบเคี้ยว เป็นต้นและมองโกเลียจะเป็นแหล่งส่งออกวัตถุดิบสำคัญให้กับประเทศไทย เช่น สินแร่รวมทั้งหนังสัตว์ ผ้าแคชเมียร์ เป็นต้น

4.ทั้งสองฝ่ายจะจัดให้มีความร่วมมือในสาขาที่สนใจร่วมกันต่อไปไม่ว่าจะเป็นการเกษตร อาหาร การท่องเที่ยวรวมถึงโลจิสติกส์ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะช่วยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย อำนวยความสะดวกมองโกเลียต่อไป 5.การส่งเสริมการค้าการลงทุนและการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่ายตกลง 1.จะทำความตกลงและคุ้มครองการลงทุนของทั้งสองฝ่ายโดยฝ่ายไทยกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นเจ้าภาพ 2.เดินหน้าทำอนุสัญญายกเว้นการเก็บภาษีซ้อนช่วยส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกันได้เป็นอย่างดี และประการสุดท้ายมองโกเลียสนใจเปิดเที่ยวบินตรงอูลานบาตอร์เมืองหลวงของมองโกเลียไปภูเก็ต เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวกับนักท่องเที่ยวชาวมองโกเลียในช่วงฤดูหนาว ซึ่งขณะนี้สายการบิน Mongolian Airlines แจ้งความจำนงไปประเทศไทย และกระทรวงพาณิชย์ประสานงานกับสถาบันการบินพลเรือนจะเร่งพิจารณาคำขอนี้ให้เสร็จภายใน 2 สัปดาห์คาดว่า Mongolian Airlines จะพานักท่องเที่ยวบินตรงไปภูเก็ตได้ต่อไป

นอกจากนี้ ยังได้นำคณะเอกชนไทยพบปะภาคธุรกิจของมองโกเลียด้วย โดย 6 บริษัทเป็นบริษัทที่ลงทุนด้านพลังงาน 3 บริษัทและด้านสุขภาพ 1 บริษัท และบริษัทที่สนใจมาเปิดตลาดสินค้าที่นี่ 2 บริษัท มูลค่าการค้าการลงทุนไทย-มองโกเลีย ยังถือว่าไม่มากแต่หลังจากที่ได้มีการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-มองโกเลีย ครั้งที่ 1 ได้เป้าหมายร่วมกันสำหรับการค้าและการลงทุน ซึ่งเรื่องการลงทุนผู้ประกอบการไทยมาลงทุนที่นี่อย่างน้อย 4 บริษัทขนาดใหญ่ ถือเป็นเงินก้อนใหญ่ประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมีบริษัทบ้านปู  บริษัท เสริมสร้าง (Sermsang Power Corporation Plc.)  บริษัท เอ็นเสิร์ฟ( Enserv UB llc.) และโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์มูลค่าการลงทุนประมาณ 36,000 ล้านบาทและอนาคตคิดว่าคนไทยสามารถมาขยายการลงทุนที่นี่ได้ โดยเฉพาะด้านพลังงานสะอาด ซึ่งจำนวนหนึ่งมาลงทุนสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ขายให้กับรัฐบาลมองโกเลีย และตนทราบว่าโซล่าเซลล์ถ้าอากาศเย็นและแดดแรงจะเพิ่มผลผลิตไฟฟ้าได้ถึง 30% ซึ่งที่นี่ตรงสเป็คเพราะแดดแรงมากและอากาศเย็น จะเป็นการลงทุนที่มีอนาคต รวมถึงด้านอื่นด้วย


ทั้งนี้ นักลงทุนของไทยมาแสดงให้เห็นว่ามีศักยภาพในการลงทุนที่ประเทศมองโกเลียและต่อไปไทยและมองโกเลีย จะจัดกิจกรรมพิเศษให้หน่วยงานส่งเสริมการลงทุนของมองโกเลียพบกับผู้สนใจลงทุนชาวไทย และ BOI (สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน) ของเราจะได้พบกับนักลงทุนชาวมองโกเลีย เพื่อดึงนักลงทุนไปลงทุนในไทยด้วย ซึ่งวิน-วินทั้งคู่ต่อไปในอนาคต ซึ่งเมื่อมีกำไรก็จะนำกลับประเทศสุดท้ายรายได้ก็จะกลับไปยังประเทศไทย และไทยยังสามารถใช้มองโกเลียเป็นประตูการค้าสู่รัสเซียหรือกลุ่มประเทศที่แตกตัวจากรัสเซียได้ ขณะเดียวกันมองโกเลียก็สามารถใช้ไทยเป็นประตูการค้าสู่อาเซียนได้ ปัจจุบันมูลค่าการค้าไทย-มองโกเลีย ในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา (2560-2564) เฉลี่ยปีละ 55.64 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยในปี 2564 การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 53.94 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 147% จากปีก่อนหน้า สินค้าส่งออกศักยภาพของไทย ได้แก่ กระดาษและผลิตภัณฑ์กระดาษ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ สิ่งปรุงรสอาหารและผลิตภัณฑ์ยาง ส่วนสินค้าที่ไทยนำเข้าจากมองโกเลีย ได้แก่ สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ สัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ สินค้าอุปโภคบริโภคอื่นๆ สบู่ ผงซักฟอกและเครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์สิ่งทออื่นๆ เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ลุ้นผลประชุม JBC ไทย-กัมพูชา

14 มิ.ย.- ประชาชน 2 ประเทศลุ้นผลการประชุม JBC ด้านกัมพูชายันหากไทยไม่ไปศาลโลก จะยื่นเอกสารไปฝ่ายเดียว นายเปง สุเพีย ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานว่าก่อนการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา ขณะนี้เป็นการประชุมกลุ่มเล็ก ผ่านไปกว่า 2 ชม. ยังไม่ออกมา ประชาชนสองประเทศลุ้นผลการประชุม ด้านกัมพูชายันหากไทยไม่ไปศาลโลก จะยื่นเอกสารไปฝ่ายเดียว .-สำนักข่าวไทย

Cambodia and Thailand hold a closed-door meeting ahead of the official meeting of JBC in Phnom Penh

ไทย-กัมพูชา หารือกลุ่มเล็กก่อนประชุม JBC

พนมเปญ 14 มิ.ย. – สื่อกัมพูชารายงานว่า กัมพูชาและไทย ได้เปิดการหารือกลุ่มเล็กฝ่ายละ 5 คน ก่อนการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม หรือเจบีซี (JBC) ที่กรุงพนมเปญ ในวันนี้ เว็บไซต์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานว่า ในการหารือกลุ่มเล็กที่มีผู้ร่วมเข้าเพียง 10 คน ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายเจีย ฬำ  รัฐมนตรีผู้รับผิดชอบกิจการชายแดน ส่วนฝ่ายไทยนำโดยนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศด้านกิจการชายแดน ซึ่งเป็นนักการทูตผู้เชี่ยวชาญช่วงข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร พร้อมกับเผยแพร่ภาพชุดการหารือดังกล่าว.-814.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! โจรชิงทองที่ลำพูน หนีกบดานพัทยา

พัทยา 14 มิ.ย.- หนีไม่รอด! รวบโจรบุกเดี่ยวชิงทอง จ.ลำพูน หนีกบดานพัทยา สารภาพติดการพนันออนไลน์ จากกรณีเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2568 เกิดเหตุคนร้ายรูปร่างสูงประมาณ 160-165 ซม. ทราบชื่อต่อมาคือ นายประกร อายุ 47 ปี ขี่รถจักรยานยนต์สีดำ บุกเดี่ยวเข้าไปชิงทองคำรูปพรรณ จากห้างทองฯ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ได้สร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 5 บาท ไปจำนวน 2 เส้น มูลค่ากว่า 500,000 บาท แล้วหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ล่าสุดตำรวจ สภ.จว.ชลบุรี ได้เบาะแสว่า นายประกร ที่มีหมายจับศาลจังหวัดลำพูน ในข้อหากระทำความผิดฐาน “วิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม” หลังก่อเหตุได้หนีมากบดานในพื้นที่จังหวัดชลบุรี จึงนำกำลังออกติดตาม กระทั่งพบตัวนายประกร อยู่ภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านพัทยากลาง เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าจับกุม เจ้าตัวให้การยอมรับ เป็นผู้ก่อเหตุวิ่งราวทองจากห้างทองในพื้นที่จังหวัดลำพูนจริง หลังก่อเหตุได้หนีมายังพื้นที่เมืองพัทยาและนำทองไปขายในห้างทองแห่งหนึ่ง ตอนแรก คิดว่าจะเดินทางเข้ามาตัว แต่ก็สายไปเนื่องจากมาโดนเจ้าหน้าที่ติดตามจับกุมตัวได้เสียก่อน ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุลงไปนั้นเนื่องจากตนเองติดการพนันออนไลน์ จนเงินหมด […]

“ทวีวัฒน์” เจ้าของเงิน 12 ล้าน ลาออกจากกรรมการไต่สวนฯ ป.ป.ช.แล้ว

กรุงเทพฯ 14 มิ.ย. – ป.ป.ช. แจง “ทวีวัฒน์” เจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ลาออกจากกรรมการไต่สวนฯ ของ ป.ป.ช. แล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย. 68 วันนี้ (14 มิ.ย.) นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการนำเสนอข่าวนายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว แสดงตนเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ที่ถูกทิ้งที่คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี เป็นอนุกรรมการชุดต่างๆ ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. จำนวน 3 คณะนั้น สำนักงาน ป.ป.ช. ขอชี้แจงว่า นายทวีวัฒน์ เส้งแก้ว ได้ทำหนังสือขอลาออกจากการเป็นกรรมการไต่สวน ในคณะกรรมการไต่สวนของสำนักงาน ป.ป.ช.ทุกคณะแล้ว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ทั้งนี้ สำนักงาน […]