South Korean protests linger after botched martial law

ชาวเกาหลีใต้เดินหน้าประท้วงต่อ

โซล 9 ธ.ค.- ชาวเกาหลีใต้ยังคงเดินหน้าประท้วงต่อ หลังจากประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล รอดพ้นจากการลงมติถอดถอนของสภา โดยได้ตั้งสิ่งกีดขวางเป็นอุปสรรคต่อการจราจรในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเช้าวันนี้ เช้าวันนี้ยังมีกลุ่มต่อต้านออกมาชุมนุมในย่านจัตุรัสกวางฮวามุน ซึ่งอยู่ใจกลางกรุงโซล ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนัก เป็นการเคลื่อนไหวหลังจากที่นายยุนรอดจากการถูกสภาถอดถอนเมื่อค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยที่กลุ่มผู้สนับสนุนและกลุ่มต่อต้านต่างก็ประกาศว่าจะเดินหน้าชุมนุมกันต่อตลอดทั้งสัปดาห์นี้ หลังจากเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ชุมนุมของทั้งฝ่ายจำนวนหลายหมื่นคนออกมาชุมนุมกันในกรุงโซล.-816(814).-สำนักข่าวไทย

Syrian rebel flag seen hanging outside consulate in St. Petersburg

แขวนธงกบฏซีเรียหน้าสถานกงสุลซีเรียในรัสเซีย

เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 9 ธ.ค.- มีผู้นำธงของกลุ่มกบฏซีเรียไปแขวนไว้ที่ด้านหน้าสถานกงสุลซีเรียในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กของรัสเซียเมื่อวานนี้ โดยยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นฝีมือของผู้ใด  ธงของกลุ่มกบฏประกอบด้วยแถบแนวนอนสีเขียว ขาว และดำ โดยมีดาวสีแดง 3 ดวงอยู่บนแถบสีขาว ขณะที่ธงชาติซีเรียประกอบด้วยแถบแนวนอนสีแดง ขาว และดำ โดยมีดาวสีเขียว 2 ดวงอยู่บนแถบสีขาว กลุ่มกบฏหรือฝ่ายต่อต้านในซีเรียประกอบด้วยกลุ่มต่าง ๆ ที่ต่อต้านตระกูลอัลอัสซาดซึ่งผูกขาดปกครองประเทศมาตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีฮาเฟซ อัล-อัสซาดในปี 2514 ต่อด้วยประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดที่สืบทอดตำแหน่งเมื่อบิดาถึงแก่อสัญกรรมในปี 2543 กลุ่มกบฏรวมตัวกันและได้รับการรับรองจากนานาชาติในช่วงปลายปี 2554 หลังจากสงครามกลางเมืองปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมในปีเดียวกัน จากนั้นได้เคลื่อนไหวทั้งทางการเมืองและทางการทหารมาโดยตลอด จนกระทั่งเปิดฉากบุกโจมตีพร้อมกัน นำมาซึ่งการล่มสลายของตระกูลอัสซาดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2567 เมื่อกลุ่มกบฏสามารถบุกยึดกรุงดามัสกัสและโค่นล้มรัฐบาลได้สำเร็จ ทำให้นายอัสซาดและครอบครัวต้องหลบหนีมายังรัสเซียในวันเดียวกัน โดยได้รับอนุญาตจากทางการรัสเซียให้ลี้ภัยอยู่ในประเทศ การโค่นล้มรัฐบาลซีเรียถือเป็นการปิดฉากการผูกขาดบริหารประเทศแบบเผด็จการของตระกูลอัสซาดที่ยาวนานกว่า 50 ปี.-816(814).-สำนักข่าวไทย

Flight tracker shows plane departing Latakia, Syria and arriving in Moscow

ผู้นำซีเรียหนีไปลี้ภัยที่รัสเซีย

มอสโก 9 ธ.ค.-  ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรียและครอบครัว เดินทางถึงกรุงมอสโก โดยรัสเซียให้ลี้ภัยอยู่ในประเทศ หลังจากต้องหลบหนีออกนอกประเทศ ช่วงที่กลุ่มกบฏบุกยึดกรุงดามัสกัสเมื่อวานนี้ เว็บไซต์ไฟลต์เรดาร์รายงานว่า เครื่องบินทหารของรัสเซียขึ้นบินเดินทางออกจากเมืองท่าลาตาเกียของซีเรีย มุ่งหน้าไปยังกรุงมอสโกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา แต่ไม่รู้แน่ชัดว่าใครอยู่บนเครื่องบินลำดังกล่าว ต่อมา โฆษกกระทรวงต่างประเทศรัสเซียแถลงว่า  ประธานาธิบดีอัล-อัสซาดได้ลาออกจากตำแหน่งผู้นำซีเรียและเดินทางออกนอกประเทศแล้ว หลังจากสั่งการให้มีการส่งผ่านอำนาจโดยสันติ สื่อรัสเซียรายงานอ้างแหล่งข่าวจากทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียที่ยืนยันว่า ผู้นำซีเรียและครอบครัว เดินทางถึงกรุงมอสโกเมื่อวานนี้ และได้รับสถานะผู้ลี้ภัยเข้าอยู่ในรัสเซียด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม เป็นการยืนยันว่า การปกครองซีเรียยาวนาน 24 ปีของนายอัล-อัสซาด ได้จบลงแล้ว และปิดฉากการปกครองของตระกูลอัล-อัสซาดที่ดำเนินมานาน 50 ปี นับตั้งแต่สมัยประธานาธิบดี ฮาเฟซ อัล-อัสซาด ผู้เป็นบิดา ส่วนที่มัสยิดกลางอุมัยยะห์ ในกรุงดามัสกัส ซึ่งเป็นมัสยิดที่ใหญ่ที่สุดและเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งโลก ฝูงชนรุมล้อมและต้อนรับอาบู โมฮัมเหม็ด อัล-โจลานี ผู้นำกองกำลังฮายอัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม หรือเอชทีเอส (HTS) แกนนำกลุ่มกบฏซีเรียที่นำกำลังบุกโจมตีเข้ายึดเมืองต่าง ๆ ทั่วซีเรีย รวมถึงกรุงดามัสกัสได้ภายในเวลา 11 วัน หลังจากเริ่มปฏิบัติการแบบสายฟ้าแลบตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน นายอัล-โจลานีกล่าวว่า ชัยชนะของฝ่ายกบฏคือจุดเปลี่ยนของภูมิภาค […]

flag of Syria Opposition

ลำดับเหตุการณ์ซีเรียก่อนรัฐบาลล่มสลาย

ดามัสกัส 8 ธ.ค.- การล่มสลายอย่างฉับพลันของรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย หลังจากสู้รบกับฝ่ายต่อต้านมาร่วม 14 ปี ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของสงครามกลางเมืองในซีเรียที่ปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2554 ข้อมูลในวิกิพีเดียระบุว่า สงครามคร่าชีวิตคนไปแล้วทั้งสิ้น 580,000-617,910 คน ในจำนวนนี้เป็นพลเรือน 219,223-306,887 คน ส่วนผู้มีชีวิตอยู่กลายเป็นผู้พลัดถิ่นในประเทศราว 6.7 ล้าน เป็นผู้ลี้ภัยในต่างประเทศราว 6.6 ล้านคน และเปิดช่องให้มหาอำนาจต่างชาติเข้ามามีบทบาทในสงคราม โดยมีลำดับเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ก่อนที่ฝ่ายต่อต้านหรือกลุ่มกบฏประกาศโค่นล้มรัฐบาลสำเร็จในวันนี้ดังนี้ ปี 2554 : การประท้วงต่อต้านประธานาธิบดีอัล-อัสซาดที่ปกครองประเทศตั้งแต่ปี 2543 เริ่มแพร่กระจายไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว ทางการตอบโต้ด้วยการส่งกองกำลังความมั่นคงกวาดจับและใช้กระสุนจริง ผู้ประท้วงบางส่วนลุกขึ้นจับอาวุธและตั้งกองกำลังขึ้นเป็นกลุ่มต่อต้านติดอาวุธ โดยในภายหลังได้รับการสนับสนุนจากชาติตะวันตกและทูร์เคียหรือตุรกีที่มีพรมแดนติดทางเหนือของซีเรีย ปี 2555 : แนวร่วมนุสรา (Nusra Front) ซึ่งเป็นเครือข่ายในซีเรียของอัลกออิดะห์วางระเบิดครั้งแรกในกรุงดามัสกัส แนวร่วมนี้เริ่มมีอำนาจและเผยแพร่แนวคิดชาตินิยม ประชาคมโลกได้ประชุมในนครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ และเห็นพ้องว่าจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง แต่ตกลงกันไม่ได้ว่าจะดำเนินการอย่างไร ประธานาธิบดีอัล-อัสซาดใช้ปฏิบัติการทางอากาศถล่มฐานที่มั่นของฝ่ายต่อต้าน ขณะที่ฝ่ายต่อต้านยึดพื้นที่ได้เพิ่มขึ้น การสู้รบทวีความรุนแรงเป็นเหตุนองเลือดของทั้ง 2 ฝ่าย ปี […]

Trump and Macron during Notre-Dame re-opens

“ทรัมป์” เผยก่อนกบฏยึดซีเรียว่าสหรัฐไม่ควรยุ่ง

ปารีส 8 ธ.ค.- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐเผยก่อนที่กลุ่มกบฏในซีเรียยึดเมืองหลวงและประกาศว่าโค่นรัฐบาลสำเร็จว่า กองทัพสหรัฐไม่ควรข้องเกี่ยวกับความขัดแย้งในซีเรีย นายทรัมป์ซึ่งไปร่วมพิธีเปิดมหาวิหารนอเทรอดามในกรุงปารีสของฝรั่งเศสโพสต์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์เมื่อวันเสาร์ตามเวลาปารีสว่า “ไม่ใช่การสู้รบของสหรัฐ” และว่าประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียไม่สมควรได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐให้อยู่ในตำแหน่ง สหรัฐมีกำลังพลอยู่ในซีเรียราว 900 นาย บางส่วนทำงานร่วมกับพันธมิตรชาวเคิร์ดที่อยู่ในพื้นที่ยึดครองของฝ่ายต่อต้านทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อสกัดกั้นการฟื้นคืนชีพของกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส (IS) นับเป็นครั้งแรกที่ว่าที่ผู้นำสหรัฐแสดงความเห็นในเรื่องนี้ หลังจากกลุ่มกบฏในซีเรียเปิดฉากรุกแบบสายฟ้าแลบตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน กลุ่มกบฏเผยในขณะนั้นว่า ต้องเริ่มการบุกเนื่องจากกองทัพอากาศซีเรียและรัสเซียได้เพิ่มการโจมตีพลเรือนในจังหวัดอิดลิบ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏ และต้องการชิงลงมือก่อนที่จะถูกกองทัพซีเรียโจมตี รัฐบาลอัล-อัสซาดซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกองทัพรัสเซียและอิหร่าน สู้รบกับฝ่ายต่อต้านมานาน 13 ปีแล้ว เป็นสงครามที่เริ่มจากการลุกฮืออย่างสันติของประชาชนชาวซีเรียในปี 2554 ต่อต้านการปกครองของตระกูลอัล-อัสซาด สงครามดังกล่าวทำให้ประชาชนจำนวนมากถูกสังหารในประเทศและเสียชีวิตขณะเสี่ยงภัยหนีออกนอกประเทศ.-814.-สำนักข่าวไทย

Mohammed Al-Jalali appointed as Syria Prime Minister

นายกฯ ซีเรียพร้อมทำงานกับผู้นำที่ประชาชนสนับสนุน

ดามัสกัส 8 ธ.ค.- นายกรัฐมนตรีโมฮัมหมัด อัล-จาลาลีของซีเรียเผยว่า พร้อมร่วมมือกับผู้นำคนใดก็ตามที่ประชาชนเลือกและพร้อมร่วมมือเรื่องกระบวนการถ่ายโอนอำนาจ หลังจากรัฐบาลถูกกลุ่มกบฏโค่นล้ม นายอัล-จาลาลีวัย 55 ปี ที่เพิ่งรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีซีเรียเมื่อวันที่ 14 กันยายนปีนี้แถลงผ่านบัญชีเฟซบุ๊กของเขาในวันนี้ว่า ซีเรียสามารถเป็นประเทศปกติที่มีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้านและประชาคมโลก แต่เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับผู้นำที่เลือกโดยประชาชนชาวซีเรีย เขาพร้อมให้ความร่วมมือกับผู้นำคนนั้น และอำนวยความสะดวกทุกอย่างที่สามารถทำได้ นายกรัฐมนตรีอัล-จาลาลีให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์อัล-อาราบียาของทางการซาอุดีอาระเบียว่า เขาอยู่ระหว่างติดต่อกับอาบู โมฮัมเหม็ด อัล-โจลานี ผู้บัญชาการของกลุ่มกบฏ เพื่อหารือเรื่องการจัดการช่วงเวลาเปลี่ยนถ่ายอำนาจในขณะนี้ หลังจากกลุ่มกบฏแถลงทางสถานีโทรทัศน์ในเช้าวันนี้ว่า สามารถยึดกรุงดามัสกัส และโค่นล้มรัฐบาลบาชาร์ อัล-อัสซาดที่ปกครองประเทศมานาน 24 ปี เป็นการปิดฉากการปกครองของตระกูลอัล-อัสซาดที่ดำเนินมานาน 50 ปีนับตั้งแต่สมัยประธานาธิบดีฮาเฟซ อัล-อัสซาดผู้เป็นบิดา กลุ่มกบฏเริ่มเปิดฉากบุกแบบสายฟ้าแลบตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน สามารถผ่านเมืองต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยยึดได้เมืองสำคัญตั้งแต่อเลปโป เมืองใหญ่อันดับ 2 ที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ ลงมาถึงเมืองฮามา ที่อยู่ทางตอนกลางค่อนไปตะวันตก เมืองฮอมส์ เมืองใหญ่อันดับ 3 ที่อยู่ทางตะวันตก และกรุงดามัสกัสในวันนี้ เนื่องจากกองกำลังรัฐบาลพากันทิ้งเมือง.-814.-สำนักข่าวไทย  

Syrians celebrate in Damascus after rebels say they have captured the city

ผู้นำซีเรียหนีออกนอกประเทศ หลังกบฏยึดเมืองหลวง

ดามัสกัส 8 ธ.ค.- กลุ่มกบฏในซีเรียแถลงทางโทรทัศน์ว่า สามารถปลดแอกกรุงดามัสกัสและโค่นรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดที่ปกครองซีเรียมานาน 24 ปีได้ในเช้าวันนี้ ชาวซีเรียในกรุงดามัสกัส เปิดเพลงเฉลิมฉลองและปีนขึ้นไปบนรถถังที่ถูกจอดทิ้งไว้ เพื่อถ่ายภาพและส่งเสียงเชียร์ หลังกลุ่มกบฏนำโดยกองกำลัง ฮายอัต ตาห์รีร์ อัล-ชามหรือเอชทีเอส (HTS)  ประกาศเข้ายึดกรุงดามัสกัสได้แล้ว  เจ้าหน้าที่กองทัพซีเรียเผยว่า ประธานาธิบดีอัล-อัสซาดได้ขึ้นเครื่องบินหนีออกจากกรุงดามัสกัสไปยังจุดหมายที่ไม่เป็นที่เปิดเผยแล้ว ขณะที่กองทัพซีเรียแถลงว่า กำลังเดินหน้าปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายในเมืองฮามา ฮอมส์ และดาราที่กำลังมีการสู้รบกันอย่างหนัก ขอให้ประชาชนร่วมกันปกป้องเถียภรพาและอธิปไตยของประเทศ เป็นการแถลงหลังจากกลุ่มกบฏแถลงทางสถานีโทรทัศน์ในวันเดียวกันว่า ยึดเมืองหลวงและโค่นรัฐบาลได้แล้ว นับเป็นการรุกคืบอย่างรวดเร็ว ทั้งที่กลุ่มกบฏเพิ่งยึดเมือง อเลปโป เมืองใหญ่ทางตะวันตกเฉียงเหนือได้เมื่อสัปดาห์ก่อน.-820(814).-สำนักข่าวไทย

Notre-Dame re-opens with a 'merci' to those who saved it from the fire

ฝรั่งเศสเปิดมหาวิหารนอเทรอดาม

ปารีส 8 ธ.ค.- รัฐบาลฝรั่งเศสเชิญแขกเหรื่อจากทั่วโลกเข้าร่วมงานเปิดมหาวิหารนอเทรอดาม ในกรุงปารีส ที่ได้รับการบูรณะ หลังเสียหายจากไฟไหม้ครั้งใหญ่เมื่อ 5 ปีก่อน บรรยากาศพิธีเปิดมหาวิหารนอเทรอดาม ในกรุงปารีส มีขึ้นเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น มีการขึ้นคำว่า แมกซี (Merci) ซึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศส แปลว่า ขอบคุณ ที่บริเวณอาคารมหาวิหาร เพื่อแสดงความขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมมือกันฟื้นฟูบูรณะมหาวิหารนอเทรอดาม จากนั้นมีพิธีการลั่นระฆัง และอาร์คบิชอปแห่งปารีส เคาะประตูมหาวิหาร 3 ครั้ง ด้วยไม้เท้าโครเซียร์ เป็นสัญลักษณ์พิธีเปิดมหาวิหารสู่สาธารณะ ประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครง ของฝรั่งเศส กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ช่วยกันบูรณะซ่อมแซมมหาวิหารนอเทรอดาม จนสามารถกลับมาเปิดให้คริสต์ศาสนิกชนได้เข้าชมและประกอบพิธีทางศาสนาได้อีกครั้ง ก่อนหน้านั้น ผู้นำฝรั่งเศสได้ให้การต้อนรับบรรดาผู้นำโลกและแขกคนสำคัญจากหลายวงการเข้าร่วมพิธีเปิดมหาวิหารนอเทรอดาม ทั้งเจ้าชายวิลเลียมแห่งราชวงศ์อังกฤษ, นางจิล ไบเดน สตรีหมายเลข 1 ของสหรัฐ, นายกรัฐมนตรีหญิงจอร์เจีย เมโลนี ของอิตาลี, ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน, นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ผู้นำสหรัฐ และนายอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทรถไฟฟ้าเทสลา มหาวิหารนอเทรอดามสร้างตามแบบศิลปะและสถาปัตยกรรมกอธิค อายุเก่าแก่กว่า […]

Trump, Zelenskiy leave Elysee palace after trilateral meeting with France's Macron

ผู้นำยูเครนหารือ “ทรัมป์” ที่ฝรั่งเศส

ปารีส 8 ธ.ค. – ผู้นำยูเครนเผยว่า การหารือกับผู้นำฝรั่งเศส และว่าที่ผู้นำสหรัฐ เป็นไปด้วยดี ขณะที่รัฐบาลสหรัฐชุดปัจจุบันประกาศช่วยเหลือทางการทหารรอบใหม่ให้แก่ยูเครน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยเมื่อวันเสาร์ว่า การหารือ 3 ฝ่าย กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ และประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครง ของฝรั่งเศส ที่กรุงปารีส เป็นการหารือที่ดีและเป็นประโยชน์ ทั้ง 3 ฝ่ายเห็นพ้องกันว่าจะเดินหน้าทำงานร่วมกันต่อไป  การหารือดังกล่าวกินเวลาประมาณ 20 นาที มีขึ้นในช่วงที่ฝรั่งเศสจัดพิธีเปิดมหาวิหารนอเทรอดามอีกครั้งหนึ่ง หลังจากเกิดไฟไหม้ใหญ่และใช้เวลาบูรณะซ่อมแซมร่วม 5 ปี ก่อนหน้านี้ยูเครนและพันธมิตรตะวันตก เกรงว่านายทรัมป์ ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งผู้นำสหรัฐในเดือนมกราคม จะยกเลิกการช่วยเหลือยูเครน ขณะเดียวกัน นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐ ประกาศมาตรการความช่วยเหลือทางการทหารรอบใหม่ให้แก่ยูเครน เป็นยุทโธปกรณ์รวมมูลค่า 988ล้านดอลลาร์ (ราว 33,675 ล้านบาท) เพื่อใช้สู้รบกับรัสเซีย นายออสติน ระบุด้วยว่า รัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ภายใต้การนำของนายทรัมป์ ต้องตัดสินใจเองว่าจะเผชิญหน้ากับรัสเซียหรือไม่ รัฐบาลชุดปัจจุบันของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะส่งไม้ต่อให้ในเร็วๆ […]

Syrian troops cross into Iraq to seek sanctuary, border town mayor says

ทหารซีเรียหนีเข้าอิรัก ขณะกลุ่มกบฏยึดเมืองเพิ่ม

แบกแดด 8 ธ.ค.- ทหารซีเรียประมาณ 2,000 นาย ข้ามพรมแดนเข้าไปในอิรักเพื่อหาที่หลบภัย โดยมีทหารอิรักควบคุมสถานการณ์อยู่ที่พรมแดน ขณะที่กลุ่มกบฏยึดเมืองสำคัญได้เพิ่มอีก 1 เมือง นายกเทศมนตรีเมืองอัล-กออิมที่อยู่ห่างจากกรุงแบกแดดไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ โดยตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำยูเฟรติสใกล้ชายแดนซีเรียเผยว่า ทหารซีเรียประมาณ 2,000 นายได้ข้ามพรมแดนเข้ามาในอิรัก คลิปที่เผยแพร่เมื่อวานนี้เห็นกำลังพลซีเรียเข้ามาผ่านจุดผ่านแดนที่เมืองอัล-กออิม  บางคนข้ามมาด้วยยานยนต์ลายพรางของกองทัพ ขณะเดียวกันกองกำลังของกลุ่มกบฏยังคงเดินหน้าโจมตีและเข้ายึดเมืองต่าง ๆ ในซีเรีย นับตั้งแต่บุกโจมตีและยึดเมืองอเลปโป เมืองใหญ่และสำคัญทางตะวันตกเฉียงเหนือได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยเมื่อเช้าวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น กลุ่มกบฏได้เฉลิมฉลองการยึดครองเมืองฮอมส์ ที่เป็นเมืองสำคัญทางตอนกลางของซีเรียได้โดยสมบูรณ์แล้ว ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญอีกครั้ง เนื่องจากเมืองฮอมส์ ตั้งอยู่พื้นที่ที่เป็นทางแยกสำคัญระหว่างกรุงดามัสกับพื้นที่แถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน  จึงเท่ากับตัดขาดกรุงดามัสกัสออกจากเขตยึดครองของกลุ่มผู้สนับสนุนนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย และ ตัดออกจากฐานทัพอากาศและฐานทัพเรือของรัสเซียที่เป็นพันธมิตรกับรัฐบาลซีเรีย.-820(814).-สำนักข่าวไทย        

former Defense Minister Kim Yong-hyun

อดีต รมว.กลาโหมเกาหลีใต้ถูกจับ

โซล 8 ธ.ค.- อัยการเกาหลีใต้จับกุมอดีตรัฐมนตรีกลาโหมในวันนี้จากการที่ถูกกล่าวหาว่ามีบทบาทสำคัญในเรื่องที่ประธานาธิบดีประกาศใช้กฎอัยการศึก ขณะที่พรรครัฐบาลแถลงว่า ประธานาธิบดีจะลงจากตำแหน่งก่อนครบวาระ สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้รายงานว่า คณะสอบสวนพิเศษได้สอบปากคำนายคิม ยง-ฮยอนที่ลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม หนึ่งวันหลังจากประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลประกาศใช้กฎอัยการศึก โดยที่นายคิมเดินทางไปที่สำนักงานอัยการเขตโซลกลางด้วยความสมัครใจเมื่อเวลา 01.30 น.วันนี้ตามเวลาเกาหลีใต้ ตรงกับเวลา 23.30 น.วันเสาร์ตามเวลาไทย ด้านตำรวจได้ตรวจค้นสำนักงานของนายคิมในวันนี้เพื่อหาหลักฐานประกอบการสอบสวนเรื่องประธานาธิบดีและรัฐมนตรีเป็นกบฏ พรรคฝ่ายค้านขนาดเล็ก 3 พรรคได้ยื่นเรื่องต่ออัยการ ฟ้องร้องนายยุน นายคิม และนายพัก อัน-ซู ผู้บัญชาการทหารบกในฐานะผู้บัญชาการการใช้กฎอัยการศึก โดยกล่าวหาทั้ง 3 คนในข้อหากบฏ หากถูกตัดสินว่ามีความผิดจะมีโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต โดยอาจถูกบังคับใช้แรงงานในเรือนจำด้วย ขณะเดียวกันนายฮัน ดง-ฮุน ประธานพรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลแถลงร่วมกับนายกรัฐมนตรีฮัน ด็อก-ซูในเช้าวันนี้ว่า ประธานาธิบดียุนจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในกิจการต่างประเทศและกิจการอื่น ๆ ของรัฐก่อนลงจากตำแหน่งก่อนครบวาระ ประธานาธิบดียุนได้แถลงต่อประชาชนทั่วประเทศเมื่อวานนี้ ขออภัยที่ประกาศใช้กฎอัยการศึกและจะไม่หลีกเลี่ยงความรับผิดชอบทางกฎหมายและทางการเมือง แต่ไม่ได้ประกาศว่าจะลาออก หลังจากนั้นไม่กี่ชั่วโมงเขารอดพ้นจากการลงมติถอดถอนจากตำแหน่ง เนื่องจากสมาชิกสภาเกือบทั้งพรรคของพรรคพลังประชาชน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลคว่ำบาตรการลงมติ แม้ว่าด้านนอกสมัชชาแห่งชาติมีประชาชนชุมนุมเป็นจำนวนมากก็ตาม.-814.-สำนักข่าวไทย

Statue of Bashar al-Assad's father before toppled in Hama

กลุ่มกบฏโค่นรูปปั้นบิดาผู้นำซีเรีย

ฮามา 6 ธ.ค.- สื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่คลิปภาพเหตุการณ์ในขณะที่รูปปั้นของอดีตประธานาธิบดีฮาเฟซ อัล-อัสซาด บิดาของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียถูกโค่นลงจากฐานในเมืองฮามา ซึ่งเป็นเมืองที่กลุ่มกบฏบุกเข้าไปได้เมื่อวันก่อน คลิปดังกล่าวเห็นฝูงชนในเมืองฮามาตะโกนสรรเสริญพระเจ้า ในขณะที่รูปปั้นของบิดาผู้นำซีเรียถูกกลุ่มผู้ประท้วงดึงโค่นลงจากฐานเมื่อค่ำวันที่ 5 ธันวาคมตามเวลาท้องถิ่น นายฮาเฟซ อัล-อัสซาด เป็นประธานาธิบดีซีเรียตั้งแต่ปี 2514 จนกระทั่งถึงแก่อสัญกรรมในปี 2543 จากนั้นนายบาชาร์ อัล-อัสซาด บุตรคนที่ 3 และบุตรชายคนที่ 2 จึงสืบทอดตำแหน่งต่อ เนื่องจากนายบาสเซล อัล-อัสซาด บุตรคนที่ 2 และบุตรชายคนโตที่ถูกมองว่าจะเป็นผู้สืบทอดตำแหน่ง ได้เสียชีวิตเสียก่อนจากอุบัติเหตุรถยนต์ในปี 2537 ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกันมีการเผยแพร่คลิปและภาพนิ่งกลุ่มกบฎบุกเข้าเมืองฮามาที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำทางตอนกลางค่อนไปทางตะวันตกของซีเรีย และอยู่ห่างจากกรุงดามัสกัสขึ้นไปทางเหนือ 213 กิโลเมตร หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกลุ่มกบฏสามารถบุกเข้าเมืองอาเลปโปที่อยู่ทางเหนือได้เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นเมืองที่กลุ่มกบฏถูกกองทัพซีเรียร่วมกับพันธมิตรขับออกไปในปี 2559.-814.-สำนักข่าวไทย

1 90 91 92 93 94 683