bird's-eye view of Dam in Yunnan China

คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงไม่พบสัญญาณจีนปล่อยน้ำ

เวียงจันทน์ 12 ก.ย.- คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงไม่พบสัญญาณเรื่องจีนปล่อยน้ำจากเขื่อน หลังจากมีรายงานว่า ทางการสปป. ลาวได้แจ้งเตือนประชาชนให้ระวังการระบายน้ำจากเขื่อนจีน รายงานของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างรัฐบาลของประเทศในลุ่มน้ำโขง ระบุว่า ระดับน้ำที่หลวงพระบางได้เพิ่มขึ้นจากปกติ 1 เมตร  ขณะที่ระดับน้ำที่เขื่อนจิ่งหง (Jinghong Dam) ซึ่งเป็นเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงในเขตปกครองตนเองสิบสองปันนา มณฑลยูนนานของจีน มีระดับที่เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยระหว่าง 535.58 เมตร ถึง 535.65 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลในช่วง 3 วันที่ผ่านมา และไม่มีสัญญาณใด ๆ ว่า จะมีการปล่อยน้ำปริมาณมากจากเขื่อนดังกล่าวในช่วงเวลานี้ ซึ่งตรงกับข้อมูลทางอุทกวิทยาแม่น้ำโขงของกรมทรัพยากรน้ำที่ระบุว่า ปริมาณน้ำที่จิ่งหงมีระดับค่อนข้างคงที่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คือ ประมาณ 1300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เขื่อนจิ่งหงเป็น 1 ในเขื่อนผลิตกระแสไฟฟ้ากั้นแม่น้ำโขง 12 แห่งของจีน อยู่ห่างจากอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงรายของไทยประมาณ 340 กิโลเมตร.-812(814).-สำนักข่าวไทย

Red River basin of Vietnam map

เวียดนามเผยได้รับผลกระทบน้อยจากจีนปล่อยน้ำ

ฮานอย 12 ก.ย.- เจ้าหน้าที่ด้านการเกษตรของเวียดนามเผยว่า จีนเริ่มปล่อยน้ำจากเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำลงสู่แม่น้ำโล (Lo River) ที่มีต้นน้ำอยู่ในมณฑลยูนนานของจีนตั้งแต่บ่ายวันพุธ แต่จะไม่ส่งผลกระทบอย่างสำคัญต่อพื้นที่ปลายน้ำในเวียดนาม เว็บไซต์เวียดนามเอ็กซ์เพรสส์รายงานอ้างรัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรเวียดนามว่า จีนได้แจ้งให้เวียดนามทราบล่วงหน้าเพื่อเตรียมมาตรการรับมือที่เหมาะสม อัตราการปล่อยน้ำจากเขื่อนของจีนที่ 250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีไม่น่าจะทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ปลายน้ำที่อยู่ในเวียดนาม และถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับที่เวียดนามปล่อยน้ำจากเขื่อนในจังหวัดหว่าบิ่ญ ทางตอนเหนือของประเทศในอัตรา 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ด้านคณะกรรมการประชาชนจังหวัดห่าซาง ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่แม่น้ำโลไหลผ่าน ได้ประกาศเมื่อเช้าวันพุธเรื่องมาตรการรับมือผลกระทบจากการที่จีนปล่อยน้ำจากเขื่อน ทั้งนี้ พื้นที่ทางเหนือของเวียดนามกำลังประสบกับน้ำท่วมและดินโคลนถล่มรุนแรง หลังจากไต้ฝุ่นยางิ (Yagi) ขึ้นฝั่งเวียดนามเมื่อวันที่ 7 กันยายน จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 180 คน.-814.-สำนักข่าวไทย 

Aerial shots of Yujiang River

ฝนตกหนักเพราะ “ยางิ” ทำกว่างซีจ้วงน้ำท่วม

หนานหนิง 12 ก.ย.- เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางตอนใต้ของจีนมีฝนตกหนักเพราะไต้ฝุ่นยางิ (Yagi) ทางการท้องถิ่นต้องประกาศรับมือน้ำท่วมฉุกเฉิน เว็บไซต์ซีซีทีวีพลัสของทางการจีนรายงานเมื่อวันพุธว่า ทางการเมืองหนานหนิง ซึ่งเป็นเมืองเอกของเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วงได้ประกาศรับมือน้ำท่วมฉุกเฉินฉุกเฉินระดับ 2 ซึ่งถือว่าสูงสุดเป็นอันดับ 2 จากทั้งหมด 4 ระดับ โดยได้ติดตามการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและสภาพน้ำอย่างใกล้ชิด รวมทั้งควบคุมการไหลของกระแสน้ำในบางพื้นที่ รายงานระบุว่า เมื่อบ่ายวันพุธแม่น้ำยู่เจียงช่วงที่ไหลผ่านเมืองหนานหนิงมีระดับน้ำสูง 75.59 เมตร สูงกว่าระดับเตือนภัยถึง 2.59 เมตร ส่วนที่เมืองไป่เซ่อ ซึ่งมีพรมแดนติดกับเวียดนาม ฝนที่ตกหนักได้ทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ และกระทบต่อการจราจรในช่วงเช้ามืดวันอังคาร ทางการท้องถิ่นประกาศใช้แผนฉุกเฉินทันที รวมทั้งส่งเจ้าหน้าที่ไปเร่งระบายน้ำและอำนวยความสะดวกด้านการจราจร ระดับน้ำตามถนนสายหลักเริ่มลดลงภายในช่วงเที่ยง การจราจรจึงกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ยางิเป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 11 ของปีนี้ สร้างความเสียหายหนักให้แก่หลายพื้นที่ในจีนในช่วงหลายวันที่ผ่านมา โดยเฉพาะมณฑลไห่หนานและมณฑลกวางตุ้งที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด.-814.-สำนักข่าวไทย

Pope Francis welcomed at Singapore parliament

โป๊ปฟรังซิสเสด็จเยือนรัฐสภาสิงคโปร์

สิงคโปร์ 12 ก.ย.- รัฐบาลสิงคโปร์ได้จัดพิธีรับเสด็จสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ที่อาคารรัฐสภาเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของการเสด็จเยือนสิงคโปร์ สมเด็จพระสันตะปาปาทรงได้รับการถวายการต้อนรับจากประธานาธิบดีธาร์มาน ชานมูการัตนัมของสิงคโปร์ สมาชิกรัฐสภา และบาทหลวงพระศาสนจักรในสิงคโปร์ นอกจากนี้ทางการสิงคโปร์ยังได้ตั้งชื่อกล้วยไม้พันธุ์พิเศษตามพระนามของพระองค์ด้วย เพื่อถวายพระเกียรติ โดยพระองค์ได้ทรงปักป้ายชื่อลงในกระถางกล้วยไม้ ในวันนี้สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสมีกำหนดพบปะนายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง และจะมีพระดำรัสต่อรัฐสภา รวมทั้งจะเสด็จเยือนศูน์วัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ด้วย  สิงคโปร์เป็นประเทศสุดท้ายของการเสด็จเยือน 4 ประเทศในเอเชียที่ใช้เวลานานถึง 12 วันก่อนที่พระองค์จะเสด็จกลับกรุงโรมในวันพรุ่งนี้.-816(814).-สำนักข่าวไทย  

Peru's former President Alberto Fujimori

อดีตผู้นำเปรูเชื้อสายญี่ปุ่นถึงแก่อสัญกรรม

ลิมา 12 ก.ย. – นายอัลแบร์โต ฟูจิโมริ อดีตประธานาธิบดีเปรูเชื้อสายญี่ปุ่น ถึงแก่อสัญกรรมด้วยโรคมะเร็ง ขณะอายุได้ 86 ปี หลังมีอาการป่วยหนักจากหลายโรครุมเร้า ทำให้ต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่เสมอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นางเคอิโกะ ฟูจิโมริ นักการเมืองชาวเปรูที่เป็นบุตรสาวคนโตของนายฟูจิโมริโพสต์ผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) เมื่อวันพุธตามเวลาท้องถิ่น โดยมีบุตรคนอื่นร่วมลงชื่อว่า บิดาถึงแก่อสัญกรรม หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งมานาน เธอเคยแจ้งเมื่อเดือนกรกฎาคมว่า บิดาคิดจะลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกครั้งในปี 2569 นายฟูจิโมริเป็นลูกของชาวญี่ปุ่นที่อพยพมายังเปรู เขาได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีอย่างเหนือความคาดหมายในปี 2533 และได้เร่งพลิกฟื้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายเปิดตลาดเสรี  เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อสูงมาก จนได้รับการสนับสนุนจากหลายฝ่าย ต่อมาได้กลายเป็นรัฐบาลเผด็จการด้วยการร่วมกับกองทัพยึดอำนาจการปกครองของตนเองในปี 2535 จากนั้นได้รับเลือกตั้งสมัยที่ 2 ในปี 2538 และสมัยที่ 3 ในปี 2543 ท่ามกลางเสียงครหาเรื่องโกงการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม หลังจากชนะเลือกตั้งสมัยที่ 3 ได้ไม่นาน นายฟูจิโมริได้หนีไปลี้ภัยที่ญี่ปุ่น เนื่องจากรัฐบาลของเขามีเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับการทุจริตอย่างกว้างขวาง  และการใช้กำลังปราบปรามกลุ่มผู้ต่อต้านรัฐบาลอย่างรุนแรง ทำให้เกิดกระแสต่อต้านอย่างหนัก ต่อมาเขาถูกจับกุมที่ชิลีในปี 2548 และถูกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาที่เปรู ศาลเปรูตัดสินจำคุก 25 ปีในปี […]

ย้อนอดีตดีเบตที่พลิกเกมเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

วอชิงตัน 11 ก.ย.- สื่อสหรัฐยกตัวอย่างการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์หรือดีเบตที่เคยสร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในอดีตที่ผ่านมา หลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน และนางคอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครตเสร็จสิ้นการดีเบตครั้งแรกและครั้งเดียว เสียงอเมริกาหรือวีโอเอ (VOA) ที่เป็นสื่อของรัฐบาลสหรัฐรายงานว่า การโต้วาทีในปี 2503 ระหว่างนายจอห์น เอฟ เคนเนดี จากพรรคเดโมแครตและรองประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน จากพรรครีพับลิกันได้สร้างจุดเริ่มต้นให้โทรทัศน์มีอิทธิพลต่อการเมืองสหรัฐ เมื่อท่าทีที่สงบและมั่นใจของเคนเนดีทำให้เขาดูมีภาษีมากกว่านิกสัน การโต้วาทีปี 2523 ระหว่างประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ จากพรรคเดโมแครตกับโรนัลด์ เรแกน จากพรรครีพับลิกัน เรแกนได้ใช้ไหวพริบตอบโต้คาร์เตอร์ที่วิพากษ์วิจารณ์เขา ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพที่มีทักษะที่ดีในด้านการสื่อสาร จากที่เขามีประสบการณ์เป็นนักแสดงมากก่อน ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เรแกนชนะเลือกตั้งไปอย่างถล่มทลาย การโต้วาทีปี 2535 ระหว่างผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ 3 คน คือ บิล คลินตัน ผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอจากพรรคเดโมแครต, ประธานาธิบดีจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุชจากพรรครีพับลิกัน และนายรอสส์ เพอโรต์ นักธุรกิจที่เป็นผู้สมัครอิสระ คลินตันตอบคำถามอย่างเข้าอกเข้าใจ ขณะที่ประธานาธิบดีบุชเอาแต่จ้องมองนาฬิกา ทำให้คลินตันได้ภาพลักษณ์ความเป็นคนที่เข้าถึงได้ ล่าสุดในการดีเบตเมื่อเดือนมิถุนายนระหว่างประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตกับทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน […]

Harris and Trump in fiery debate

จับผิดเรื่องที่ “ทรัมป์” อ้างในดีเบตกับ “แฮร์ริส”

วอชิงตัน 11 ก.ย.- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวอ้างผิด ๆ หลายเรื่องระหว่างการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์หรือดีเบตกับนางคอมมาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต รอยเตอร์ระบุว่า ทรัมป์กล่าวอ้างผิด ๆ หรือใช้ถ้อยคำสุดโต่งหลายเรื่อง จนพิธีกรของสถานีโทรทัศน์เอบีซีนิวส์ (ABC News) ที่จัดการดีเบตเมื่อค่ำวันที่ 10 กันยายนตามเวลาสหรัฐ ตรงกับเช้าวันที่ 11 กันยายนตามเวลาไทย ต้องแก้ไขหลายครั้ง เรื่องที่ทรัมป์นำมาขยายความและน่าจะเป็นกระแสแพร่ไปในวงกว้างมากที่สุด คือ เรื่องที่กล่าวอ้างว่าผู้อพยพชาวเฮติจำนวนมากเมืองสปริงฟิลด์ รัฐโอไฮโอ ขโมยสัตว์เลี้ยงที่เป็นสุนัขและแมวของชาวบ้านมารับประทาน หรือจับสัตว์ในอุทยานมาเป็นอาหาร และเมื่อผู้ดำเนินรายการแย้งว่า ไม่มีรายงานข่าวที่เชื่อถือได้ในเรื่องนี้ ทรัมป์โต้กลับว่า เขาเห็นจากข่าวโทรทัศน์ที่สัมภาษณ์ผู้ที่ถูกขโมยสุนัขไปรับประทาน นอกจากนี้ทรัมป์ยังกล่าวอ้างว่า พรรคเดโมแครตสนับสนุนการทำแท้ง แฮร์ริสเกลียดชังอิสราเอล อัตราการก่ออาชญกรรมลดลงทั่วโลก ยกเว้นสหรัฐที่สูงแตะเพดาน ทั้งที่ข้อมูลของสำนักสอบสวนกลางของสหรัฐหรือเอฟบีไอ (FBI) เมื่อเดือนมีนาคมระบุว่า อัตราการฆาตกรรมทั่วสหรัฐลดลงมากกว่าร้อยละ 13 ในปี 2566 โดยลดลงเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน ส่วนแฮร์ริสพูดเกินจริงเรื่องอ้างว่า ทรัมป์พูดในการหาเสียงเดือนมีนาคมว่า จะเกิดการนองเลือดหากเขาไม่ได้รับเลือกตั้ง เพราะทีมหาเสียงของทรัมป์แย้งในภายหลังว่า ทรัมป์พูดเรื่องนี้เพื่อหมายถึงชะตากรรมของอุตสาหกรรมยานยนต์สหรัฐในรัฐบาลโจ ไบเดน.-814.-สำนักข่าวไทย

fiery anti-war protests in Melbourne

ออสเตรเลียประท้วงเดือดต่อต้านสงคราม

กลุ่มต่อต้านสงครามปะทะกับตำรวจ ระหว่างประท้วงหน้าสถานที่จัดนิทรรศการด้านกลาโหมในออสเตรเลีย มีทั้งผู้บาดเจ็บและผู้ถูกจับกุม

Trump and Harris in first US Presidential debate

“แฮร์ริส” ยังไม่สามารถซื้อใจชาวอเมริกันที่ยังลังเล

ผลสำรวจชี้ว่า นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต ยังไม่สามารถซื้อใจ หรือโน้มน้าวชาวอเมริกันที่ยังไม่ตัดสินใจเลือกใครในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ หลังเสร็จสิ้นการดีเบตกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน

Harris and Trump in fiery debate

ดีเบตทรัมป์-แฮร์ริส แสดงวิสัยทัศน์คนละด้าน

ฟิลาเดลเฟีย 11 ก.ย.- คู่ชิงประธานาธิบดีสหรัฐเพิ่งเสร็จสิ้นการโต้วาทีประชันวิสัยทัศน์หรือดีเบต ทั้งสองต่างแสดงมุมมองสองด้าน นายโดนัลด์ ทรัมป์ มุ่งโจมตีว่าคู่แข่งทำให้สหรัฐกำลังตกต่ำ ส่วนนางคอมมาลา แฮร์ริส ต้องการก้าวข้ามทรัมป์แล้วมุ่งสู่อนาคต  การดีเบตของผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นวาระสำคัญทางการเมืองก่อนการเลือกตั้งที่จัดกันมาหลายสิบปี   ครั้งนี้มีความพิเศษตรงที่นายทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีที่หวังครองตำแหน่งอีกสมัย ประชันกับนาง แฮร์ริส รองประธานาธิบดีคนปัจจุบันที่เป็นสตรี มีเชื้อสายแอฟริกันและเอเชียใต้ ซึ่งได้กลายมาเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตแทนนาย โจ ไบเดน ที่เคยขึ้นเวทีดีเบตกับนายทรัมป์มาแล้วเมื่อปลายเดือนมิถุนายน แต่แสดงผลงานย่ำแย่จนต้องถอนตัวไป กฎเกณฑ์ของการดีเบตครั้งนี้ยังเหมือนกับครั้งที่แล้วคือ กำหนดให้เปิดไมโครโฟนเมื่อถึงเวลาของแต่ละคนเพื่อป้องกันการพูดแทรกขัดจังหวะ ห้องที่จัดดีเบตนั้นให้มีเพียงคู่ต่อสู้กับพิธีกรข่าว 2 คนของสำนักข่าวเอบีซีผู้จัดดีเบตเท่านั้น โดยไม่มีผู้ชมเลย   ในการประชันกันบนเวที พิธีกรผู้ดำเนินรายการได้ตั้งคำถามสลับให้กับแต่ละคนตอบ และจัดเวลาให้ได้ตอบโต้กันด้วย โดยไล่เรียงไปทีประเด็นที่เป็นตัวแปรในการเลือกตั้ง เช่น เศรษฐกิจ ปัญหาผู้อพยพ สิทธิการทำแท้ง การเมืองระหว่างประเทศ สงครามยูเครนและตะวันออกกลาง นาย ทรัมป์ ได้โจมตีผลงานของรัฐบาลปัจจุบัน ไม่ว่าจะเรื่องเงินเฟ้อรุนแรง เศรษฐกิจฝืดเคือง การเสียตำแหน่งงาน รวมถึงความผิดพลาดในการควบคุมผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายจนสร้างปัญหาและแย่งงานในประเทศ ส่วนนางแฮร์ริส ได้เน้นย้ำหลายครั้งว่า เธอไม่ต้องการการเมืองที่สร้างความเกลียดชัง ชี้นิ้ว แบ่งขั้วแบ่งข้าง เพราะเธอมีแผนงานเพื่อสร้างเศรษฐกิจที่ให้โอกาสแก่ทุกคน มุ่งให้คนทั่วไปลืมตาอ้าปากด้วยการแบ่งเบาภาระและส่งเสริมธุรกิจขนาดย่อม เธอยังได้พูดหลายครั้งว่า อเมริกาควรก้าวข้ามทรัมป์ไปได้แล้ว […]

Drone show lights up support for Harris on evening of presidential debate

โดรนแปรอักษรเชียร์ “แฮร์ริส”

ฟิลาเดลเฟีย 11 ก.ย.- ทีมงานหาเสียงของนางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐใช้อากาศยานไร้คนขับหรือโดรน แปรอักษรเชียร์เธอก่อนขึ้นโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์ หรือดีเบต ก่อนที่การดีเบตระหว่างอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน กับรองประธานาธิบดี แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครตเริ่มขึ้นที่เมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลเวเนียเมื่อคืนวันที่ 10 กันยายนตามเวลาสหรัฐ ตรงกับเช้าวันที่ 11 กันยายนตามเวลาไทย  ทางทีมงานหาเสียงของนางแฮร์ริสได้จัดการแสดงโดรนแปรอักษรสนับสนุนแฮร์ริสเหนือพิพิธภัณฑ์ศิลปะฟิลาเดลเฟียในคืนเดียวกัน การแปรอักษรภาพแรกเป็นรูปผมของนายทรัมป์ถูกลมพัดจนผมกระเซิง ตามด้วยข้อความ  “We’re not going back”, “When we fight WE WIN”  และ “When we vote WE WIN” รวมถึงภาพการหย่อนบัตรลงคะแนนลงในหีบ ภาพคำว่า VOTE อยู่ในวงกลมที่เป็นสีธงชาติ  ต่อด้วยภาพธงชาติสหรัฐที่กำลังโบกสะบัด คำว่า “MADAM PRESIDENT” และปิดท้ายด้วยชื่อของนางแฮร์ริส และนายทิม วอลซ์ คู่ชิงรองประธานาธิบดี  ผู้ที่มาชมพากันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบันทึกภาพเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก.-816(814).-สำนักข่าวไทย

Trump and Harris in first debate

โลกโซเชียลเดือดช่วง “ทรัมป์-แฮร์ริส” ดีเบต

นิวยอร์ก 11 ก.ย.- ในขณะที่ชาวอเมริกันหลายล้านคนชมการถ่ายทอดสดการโต้วาทีแสดงวิสัยทัศน์หรือดีเบต ระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ และนางคอมมาลา แฮร์ริส คู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในการเลือกตั้งปีนี้ คนในโลกโซเชียลก็นำสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการดีเบตมาต่อสู้กันอย่างดุเดือด ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์เริ่มสงครามออนไลน์ทันทีที่การดีเบตเปิดฉากขึ้นในเวลา 21.00 น.วันที่ 10 กันยายนตามเขตเวลาตะวันออก (ET) ซึ่งช่วงเวลานี้ช้ากว่าไทย 11 ชั่วโมง กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตจับภาพที่รองประธานาธิบดีแฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครตลงเลือกตั้งประธานาธิบดีเดือนพฤศจิกายนปีนี้ เดินไปจับมือกับอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกันพร้อมกับแนะนำตัว มาทำเป็นโพสต์ที่สร้างกระแสส่งต่ออย่างกว้างขวาง เช่น โพสต์ว่า “แฮร์ริสพูดว่า คุณควรจับมือฉันสิ บ้าจริง!” ผู้สนับสนุนบางคนโพสต์ภาพแฮร์ริสทำหน้าขำขัน หรือบางครั้งสงสัย ในขณะที่ทรัมป์กำลังพูดถึงเนื้อหาผิด ๆ ที่เคยอ้างมาแล้วเรื่องผู้อพยพชาวเฮติในเมืองสปริงฟิลด์ รัฐโอไฮโอ รับประทานเนื้อสุนัขและแมว ด้านกลุ่มสนับสนุนทรัมป์โพสต์เรื่องที่ทรัมป์กล่าวว่า แผนเศรษฐกิจของแฮร์ริสเป็นเรื่องง่าย ๆ และลอกเลียนมาจากนโยบายของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นนโยบายสั้น ๆ ที่คล้ายกับหนังสือชุดชื่อ Run, Spot, run ที่สหรัฐใช้สอนเด็กเล็กหัดอ่านหนังสือเมื่อหลายทศวรรษก่อน.-814.-สำนักข่าวไทย

1 83 84 85 86 87 630