several dead at India's Maha Kumbh festival after crowd incident

เหยียบกันตายในเทศกาลกุมภเมลาที่อินเดีย

นิวเดลี 29 ม.ค.- เกิดเหตุเหยียบกันตายในเทศกาลมหากุมภเมลาในเมืองประยาคราช รัฐอุตตระประเทศ ทางภาคเหนือของอินเดียเมื่อช่วงก่อนรุ่งสางที่ผ่านมา  เบื้องต้นมีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 7 คน ท่ามกลางผู้ร่วมงานที่อาจมากถึงร้อยล้านคน เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า เหตุเหยียบกันตายเกิดขึ้นเมื่อเวลาราว 01.00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับ 02.30 น.วันนี้ตามเวลาในไทย ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ผู้แสวงบุญพยายามหนีการเบียดเสียดและเหยียบกันตาย แต่กลับไปพบการเบียดเสียดที่ทางออกอีกทาง จึงได้หันกลับไปยังสะพานที่เป็นโป๊ะลอยน้ำเพื่อหาทางออกจากการเบียดเสียด แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ปิดทางไว้ ทำให้หลายคนล้มและถูกเหยียบ ชาวอินเดียถือว่า วันนี้ถือว่าเป็นวันมงคลฤกษ์ดีที่สุดในช่วงเทศกาลอาบน้ำชำระบาปในครั้งนี้ ทำให้มีผู้คนจำนวนมากพากันลงไปแช่น้ำในแม่น้ำ ขณะที่ทางการคาดว่าน่าจะมีคนงานร่วมพิธีถึง 100 ล้านคนในวันนี้ จากที่มีคนมาร่วมงานแล้วเกือบ 148 ล้านคนนับตั้งแต่เทศกาลเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน.-816(814).-สำนักข่าวไทย

exterior of Interpol

จับผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายในแอฟริกาเกือบ 40 คน

ปารีส 27 ม.ค.- องค์การตำรวจสากลหรืออินเตอร์โพล (Interpol) แจ้งว่า จับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ก่อการร้ายทั่วภูมิภาคแอฟริกาตะวันออกในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาได้ 37 คน โดยมีผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอส (IS) รวมอยู่ด้วย อินเตอร์โพลซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงปารีสของฝรั่งเศสเปิดเผยในวันนี้ว่า การจับกุมเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2567 เป็นปฏิบัติการร่วมกับองค์การตำรวจแอฟริกาหรือแอฟริโพล (Afripol) สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ก่อการร้ายได้ 17 คนในเคนยา ในจำนวนนี้ 2 คนต้องสงสัยเป็นสมาชิกไอเอส นอกจากนี้ยังจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ในแทนซาเนีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกและโซมาเลีย เจ้าหน้าที่อินเตอร์โพลระบุว่า สภาพภูมิประเทศที่ซับซ้อน พรมแดนที่มีช่องโหว่ ประกอบกับความไร้เสถียรภาพทางการเมืองและปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม ทำให้แอฟริกาตะวันออกเป็นภูมิภาคที่เอื้อต่อการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้าย อย่างไรก็ตาม การจับกุมผู้ต้องสงสัยครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงพลังของความร่วมมือสากลในการต่อสู้กับการก่อการร้าย.-814.-สำนักข่าวไทย

LPG tanker truck blast in Pakistan

รถแก๊สระเบิดในปากีสถาน

มุลตาน 27 ม.ค.- เกิดเหตุรถบรรทุกแก๊สแอลพีจี (LPG) ระเบิดทางตะวันออกของปากีสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน และบาดเจ็บอีกหลายสิบคน สถานีข่าวจีโอนิวส์ของปากีสถานรายงานวันนี้ว่า เหตุเกิดขึ้นที่เมืองมุลตาน รัฐปัญจาบ ทางตะวันออกของปากีสถาน รถบรรทุกแก๊สได้เกิดไฟลุกไหม้ในบริเวณพื้นที่อุตสาหกรรม จากนั้นได้ระเบิดอย่างรุนแรงจนบ้านเรือนและร้านรวงเสียหายกว่า 20 หลัง และมีผู้เสียชีวิต 6 คนจากไฟไหม้และหลังคาบ้านถล่ม ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 1 คนและผู้หญิง 2 คน และมีผู้บาดเจ็บหลายสิบคน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดับไฟได้ทั้งหมดแล้วและกำลังสืบสวนเพื่อหาสาเหตุที่ทำให้แก๊สรั่วแล้วเกิดระเบิดขึ้น  สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ชาวบ้านได้กลิ่นแก๊สจากรถบรรทุกที่จอดอยู่ จึงเริ่มพากันหลบหนีออกไป แต่แล้วจู่ๆ ระหว่างนั้นก็ได้เกิดระเบิดขึ้น.-812(814).-สำนักข่าวไทย

snow storm hits Mongolia in May 2019

มองโกเลียหนาวจัด ติดลบ 44.4 องศาเซลเซียส

พื้นที่แห่งหนึ่ง ทางตะวันตกของมองโกเลีย มีอุณหภูมิชั่วข้ามคืนลดลงเหลือติดลบ 44.4 องศาเซลเซียส ถือเป็นอุณหภูมิที่หนาวที่สุดในมองโกเลียในช่วงฤดูหนาวนี้

Hugs and selfies as displaced Palestinians return home to Gaza City

ชาวปาเลสไตน์ในกาซายินดีได้กลับบ้านทางตอนเหนือ

กาซาซิตี 27 ม.ค.- ชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นในกาซาโอบกอดกันอย่างยินดีที่ได้พบหน้ากันอีกครั้งในวันนี้ หลังจากอิสราเอลเริ่มเปิดด่านข้ามแดนในกาซาตามข้อตกลงหยุดยิงกับฮามาส ฝูงชนชาวปาเลสไตน์ที่หอบหิ้วถุงข้าวของเครื่องใช้ เดินผ่านพื้นที่ที่เหลือแต่ซากปรักหักพัง หลังจากจุดผ่านแดนแรกทางตอนกลางของกาซาเปิดเมื่อเวลา 07.00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเที่ยงวันนี้ตามเวลาไทย ก่อนที่จุดผ่านแดนอีกแห่งจะเปิดในอีก 2 ชั่วโมงถัดมา ชาวปาเลสไตน์หลายหมื่นคนเริ่มเดินทางไปตามถนนสายหลัก เพื่อกลับไปยังบ้านเรือนทางตอนเหนือของกาซา ชาวปาเลสไตน์หวนคืนสู่ภูมิลำเนาบริเวณนี้ได้อีกครั้ง เนื่องจากรัฐบาลอิสราเอลได้ยินยอมเปิดเส้นทางที่เคยปิดกั้นไว้ หลังจากกลุ่มฮามาสตกลงปล่อยตัวประกันเพิ่มอีก 3 คน ความเคลื่อนไหวนี้เป็นไปตามข้อตกลงหยุดยิงที่กาตาร์และอียิปต์เป็นคนกลางเจรจา ซึ่งจะเปิดทางให้ชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นประมาณ 650,000 คน ที่พำนักอยู่ทางตอนกลางและตอนใต้ของฉนวนกาซา ได้ดินทางกลับบ้านทางตอนเหนือที่ปัจจุบันอยู่ในสภาพเสียหายยับเยินจากการที่อิสราเอลใข้ปฏิบัติการถล่มทั้งภาคพื้นดินและทางอากาศตลอด 15 เดือนที่ผ่านมา และมีชาวปาเลสไตน์ล้มตายมากกว่า 47,000 คนตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขกาซา.-812(814).-สำนักข่าวไทย

Colombia Ministers

โคลอมเบียยอมรับผู้อพยพที่ถูกสหรัฐเนรเทศแล้ว

โบโกตา 27 ม.ค.- โคลอมเบียยอมรับผู้เข้าเมืองผิดกฎหมายที่ถูกสหรัฐเนรเทศแล้ว หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ขู่ใช้มาตรการลงโทษขนานใหญ่ จากการที่โคลอมเบียไม่อนุญาตให้เครื่องบินทหารสหรัฐนำตัวผู้ถูกเนรเทศเข้าประเทศ นายลูอิส กิลแบร์โต มูริญโญ รัฐมนตรีต่างประเทศโคลอมเบียแถลงเมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า สามารถผ่าทางตันกับรัฐบาลสหรัฐได้แล้ว รัฐบาลโคลอมเบียได้เตรียมพร้อมเครื่องบินที่จะอำนวยความสะดวกให้แก่การส่งกลับชาวโคลอมเบียที่จะกลับถึงประเทศในเช้าวันอาทิตย์ด้วยเที่ยวบินเนรเทศจากสหรัฐ แต่ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ ก่อนหน้านี้ในวันเดียวกันทำเนียบขาวสหรัฐแถลงว่า รัฐบาลโคลอมเบียตกลงตามเงื่อนไขทุกประการของประธานาธิบดีทรัมป์ รวมถึงการรับตัวชาวโคลอมเบียที่ถูกเนรเทศจากสหรัฐอย่างไม่มีเงื่อนไข ครอบคลุมถึงการเดินทางกลับด้วยเครื่องบินทหารของสหรัฐโดยไม่มีข้อจำกัดหรือล่าช้า ส่วนคำสั่งลงโทษโคลอมเบียของประธานาธิบดีจะถูกพักไว้โดยยังไม่มีการลงนาม ยกเว้นโคลอมเบียจะไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ทำเนียบขาวระบุด้วยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทำให้ทั้งโลกประจักษ์ชัดแล้วว่า สหรัฐได้รับการเคารพอีกครั้ง ประธานาธิบดีทรัมป์คาดหวังว่า ทุกประเทศจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการรับตัวพลเรือนของตนเองที่อยู่ในสหรัฐอย่างผิดกฎหมาย ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นและคลี่คลายภายในวันเดียวเกิดขึ้นหลังจากโคลอมเบียไม่อนุญาตให้เครื่องบินทหาร 2 ลำของสหรัฐนำตัวผู้อพยพชาวโคลอมเบียเข้าประเทศ ทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์ขู่ว่า จะออกมาตรการตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีฉุกเฉินร้อยละ 25 กับสินค้านำเข้าทั้งหมดจากโคลอมเบีย จากนั้นจะขึ้นเป็นร้อยละ 50 ภายใน 1 สัปดาห์ เพิกถอนวีซ่าและห้ามเจ้าหน้าที่รัฐบาลโคลอมเบียเดินทางเข้าสหรัฐ รวมถึงคว่ำบาตรด้านการคลัง การเงินการธนาคารอย่างเต็มรูปแบบ โคลอมเบียเป็นประเทศที่ 2 ที่ปฏิเสธเที่ยวบินส่งกลับผู้อพยพของสหรัฐ หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเม็กซิโกเป็นประเทศแรกที่ไม่อนุญาตให้เครื่องบินทหารของสหรัฐนำผู้ถูกเนรเทศเข้าประเทศ ส่วนเมื่อวันศุกร์เครื่องบินทหารสหรัฐได้เนรเทศผู้ลอบเข้าเมืองไปกัวเตมาลา 2 เที่ยวบิน ๆ ละ 80 คน ด้านกระทรวงบราซิลประณามสหรัฐเมื่อวันเสาร์ว่า ด้อยค่าชาวบราซิล จากการใส่กุญแจมือผู้ถูกเนรเทศ […]

ICE targets migrants in Chicago

สหรัฐเดินหน้ากวาดล้างผู้อพยพผิดกฎหมาย

วอชิงตัน 27 ม.ค.- สหรัฐเดินหน้ากวาดล้างผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายที่อยู่ในประเทศ ตามนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทางการสหรัฐปูพรมปฏิบัติการกวางล้างผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายทั่วประเทศเมื่อวานนี้ เช่น ที่นครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร (ICE) และหน่วยงานรัฐบาลกลางอื่น ๆ ได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นและจับกุมผู้กระทำผิด โดยผู้ถูกจับกุมรายแรกถูกระบุว่า อาศัยอยู่ในสหรัฐอย่างผิดกฎหมาย และเคยก่อเหตุเมาแล้วขับชนหญิงสาววัย 19 ปีเสียชีวิต ส่วนที่รัฐโคโลราโด เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด (DEA) ได้เข้าตรวจค้นคลับแห่งหนึ่งในเทศมณฑลอดัมส์ สามารถจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองได้ราว 50 คน มีรายงานว่าหลายคนพัวพันกับแก๊งอาชญากรรมในเวเนซุเอลา พร้อมทั้งยึดของกลางได้หลายรายการ ทั้งยาเสพติด อาวุธปืน และเงินสด  ทำเนียบขาวแถลงว่า ปฏิบัติการทั่วประเทศเมื่อวานนี้สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้ถึง 538 คน ซึ่งเป็นตัวเลขสูงกว่าค่าเฉลี่ยของปีที่ผ่าน ๆ มา-816(814).-สำนักข่าวไทย

Iran unveils its largest drone, named in honour of Gaza

อิหร่านเผยโฉมโดรนขนาดใหญ่ที่สุด

เตหะราน 27 ม.ค.- อิหร่านเผยโฉมอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่อิหร่านเคยสร้างมา และตั้งชื่อโดรนรุ่นนี้ว่า “กาซา” พล.ต.ฮอสเซน ซาลามี ผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามหรือไออาร์จีซี (IRGC) และนายอามีร์ อาลี ฮาจิซาเดห์ ผู้บังคับการกองกำลังบรรยากาศและอวกาศของไออาร์จีซี พาสื่อเยี่ยมชมโดรนดังกล่าวเมื่อวานนี้ นายฮาจิซาเดห์เปิดเผยว่า ปัจจุบันโดรนรุ่นนี้บรรทุกระเบิด 8 ลูก แต่สามารถบรรทุกได้สูงสุด 12 ลูก และจะนำไปใช้ในภารกิจปกป้องชายแดนเพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ประเทศ ซึ่งอาจมีเรื่องของผู้ก่อการร้าย การลักลอบทำผิดกฎหมายและปัญหาอื่น ๆ รวมอยู่ด้วย อิหร่านได้ตั้งชื่อโดรนรุ่นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดนี้ว่า กาซา เพื่อเป็นเกียรติแก่ฉนวนกาซาที่ถูกทำลายล้างอย่างหนักจากสงครามการสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาสตลอด 15 เดือนที่ผ่านมา.-816(814).-สำนักข่าวไทย

Jeju Air lands without landing gears

พบดีเอ็นเอ “นกเป็ดน้ำ” ในเครื่องยนต์เชจูแอร์ชนที่สนามบิน

โซล 27 ม.ค.- เกาหลีใต้เปิดเผยรายงานเบื้องต้นเรื่องเครื่องบินของสายการบินเชจูแอร์ (Jeju Air) ชนแผงกั้นที่ท่าอากาศยานเมื่อปลายเดือนธันวาคมทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบยกลำว่า พบดีเอ็นเอของนกเป็ดน้ำชนิดหนึ่งในเครื่องยนต์ทั้ง 2 เครื่องของเครื่องบินลำที่เกิดเหตุ ทางการเกาหลีใต้เปิดเผยรายงานหนา 6 หน้าในวันนี้ หลังจากเกิดเหตุเมื่อวันที่ 29 ธันวาคมว่า เครื่องยนต์ทั้ง 2 เครื่องของเครื่องบินโบอิง 737-800 มีดีเอ็นเอของเป็ดเปียหน้าเหลือง  (Baikal Teal) ซึ่งเป็นนกเป็ดน้ำอพยพชนิดหนึ่งที่บินอพยพเป็นฝูงใหญ่มายังเกาหลีใต้ในฤดูหนาว อย่างไรก็ดี รายงานไม่ได้ให้ข้อสรุปเบื้องต้นถึงสิ่งที่อาจเป็นสาเหตุให้กัปตันต้องนำเครื่องบินลงจอดโดยที่ล้อไม่กาง และสาเหตุที่กล่องบันทึกข้อมูลการบิน (FDR) และกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน (CVR) หยุดทำงานพร้อมกันในช่วง 4 นาทีสุดท้ายก่อนเกิดเหตุ โดยระบุเพียงว่า กล่องหยุดทำงานในช่วงที่เครื่องบินบินด้วยความเร็ว 161 นอต หรือ 298 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ระดับความสูง 498 ฟุตหรือ 152 เมตร ขณะอยู่ห่างจากท่าอากาศยานนานาชาติมูอัน จังหวัดช็อลลาใต้เพียง 2 กิโลเมตร รายงานระบุว่า ขั้นตอนต่อไปจะเป็นการแยกชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ตรวจสอบชิ้นส่วนอย่างละเอียด วิเคราะห์ข้อมูลในเครื่องบินและการควบคุมการจราจรทางอากาศ และตรวจสอบแผงกั้น เครื่องช่วยลงจอดภาคพื้นดินหรือโลคัลไลเซอร์ […]

rose

เอกวาดอร์เร่งเก็บกุหลาบรับออเดอร์วาเลนไทน์

กีโต 27 ม.ค.- เกษตรกรผู้ปลูกดอกกุหลาบในเอกวาดอร์เร่งเก็บดอกกุหลาบ เตรียมส่งลูกค้าตามคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ ก่อนถึงเทศกาลวันแห่งความรักหรือวาเลนไทน์ที่กำลังจะมาถึงในเดือนหน้า ในช่วงก่อนถึงวันวาเลนไทน์ ซึ่งตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เกษตรกรผู้ปลูกดอกไม้ในเอกวาดอร์ต้องเร่งเก็บและจัดดอกกุหลาบอย่างเต็มที่ เพื่อสนองความต้องการจากตลาดหลักในสหรัฐและยุโรป ถือเป็นช่วงที่คึกคักที่สุดสำหรับผู้ประกอบอาชีพนี้ จุดเด่นของดอกกุหลาบเอกวาดอร์ คือ มีก้านยาว มีต้นและดอกขนาดใหญ่ เพราะปลูกในพื้นที่สูงเหนือระดับน้ำทะเลหลายพันเมตร ข้อมูลของกระทรวงการผลิต การค้าต่างประเทศ การลงทุนและการประมงของเอกวาดอร์ระบุว่า ดอกไม้เป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกหลักของประเทศ ขณะที่ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงกีโตแถลงเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ฤดูส่งออกดอกกุหลาบสำหรับวันวาเลนไทน์ปี 2568 เริ่มขึ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 18 มกราคมและจะไปสิ้นสุดในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ คาดว่าปริมาณดอกไม้ส่งออกในฤดูนี้จะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3-5 จากฤดูก่อน ซึ่งมีปริมาณการส่งออกจากท่าอากาศยานแห่งนี้ทำสถิติสูงสุดที่ 26,466 ตัน.-815(814).-สำนักข่าวไทย

Storm Herminia floods parts of western France

พายุทำน้ำท่วมฝรั่งเศส-ลมแรงที่สเปน

ปารีส 27 ม.ค.- เกิดน้ำท่วมทางตะวันตกของฝรั่งเศสเมื่อช่วงสุดสัปดาห์จากอิทธิพลของพายุเฮอร์มิเนีย (Herminia) ที่ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักและกระแสลมแรง กระทบต่อการลงจอดของเครื่องบินที่สเปนด้วย พื้นที่ของเมืองแรนส์ ทางตะวันตกของฝรั่งเศส เผชิญเหตุน้ำท่วมจากฝนตกหนักเมื่อวันอาทิตย์ ยวดยานจำนวนมากและอาคารบ้านเรือนถูกน้ำท่วม เนื่องจากพายุเฮอร์มิเนียพัดเข้าพื้นที่ เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย สำนักงานสภาพอากาศของฝรั่งเศสพยากรณ์ว่า จะเกิดลมกระโชกแรงถึง 150กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเกิดคลื่นสูงในหลายพื้นที่แถบชายฝั่งในแคว้นเบรอตาญ พร้อมกับประกาศเตือนภัยระดับสีส้ม ซึ่งรุนแรงที่สุดลำดับ 2 รองจากสีแดง ใน 10 จังหวัดของฝรั่งเศส คาดว่าพายุจะเคลื่อนตัวมุ่งสู่ทางเหนือจนถึงวันนี้ตามวันเวลาท้องถิ่น สถานการณ์น้ำท่วมในเมืองแรนส์เกิดขึ้นไม่กี่วัน วันหลังจากพายุเอโอวีน (Eowyn) พัดเข้าสาธารณรัฐไอร์แลนด์และไอร์แลนด์เหนือ  ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บ้านเรือนและภาคธุรกิจไม่มีไฟฟ้าใช้เกือบ 1 ใน 3 รวมทั้งส่งผลให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินเป็นจำนวนหลายเที่ยว เป็นพายุที่พัดถล่มสหราชอาณาจักรรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี พายุเฮอร์มิเนียยังส่งผลกระทบต่อการลงจอดของเครื่องบินที่สนามบินเมืองบิลเบาของสเปนด้วย กัปตันเครื่องบินโดยสารแต่ละลำต้องใช้ความพยายามมากเป็นพิเศษกว่าจะนำเครื่องบินลงจอดได้ เพราะกระแสลมพัดแรงทำให้การบังคับทิศทางให้ลงจอดตรงทางรันเวย์ทำได้ยากมาก พายุลูกนี้พัดเข้าคาบสมุทรไอบีเรียเมื่อวันอาทิตย์ ทำให้เกิดฝนตกหนักและลมพัดกระโชกแรงในพื้นที่ทางเหนือของสเปน พื้นที่ชายฝั่งแคว้นกาลิเซียและกันตาเบรีย วัดลมกระโชกแรงได้เกิน 100  กิโลเมตรต่อชั่วโมง กระแสลมอาจทวีความรุนแรงเทียบเท่าเฮอริเคนได้ เมื่อพัดผ่านพื้นที่ชายฝั่งและภูเขา.-815(814).-สำนักข่าวไทย

Iranian Foreign Minister meets Taliban counterpart

รมว.ต่างประเทศอิหร่านไปพบหารือตอลิบาน

คาบูล 26 ม.ค.- นายอับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านเดินทางไปพบหารือกับคณะผู้นำตอลิบานที่ปกครองอัฟกานิสถาน เว็บไซต์สำนักข่าวเมหร์หรือเอ็มเอ็นเอ (MNA) ที่เป็นสำนักข่าวกึ่งทางการของรัฐบาลอิหร่านรายงานว่า นายอารักชีเดินทางถึงกรุงคาบูลของอัฟกานิสถานในเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อหารือกับคณะผู้นำของตอลิบานเป็นเวลา 1 วัน เป็นการเยือนอัฟกานิสถานครั้งแรกนับตั้งแต่เขาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในเดือนสิงหาคมปีก่อน นายอารักชีย้ำระหว่างพบหารือกับนายอามีร์ ข่าน มุตตากี รักษาการรัฐมนตรีต่างประเทศตอลิบานว่า ทั้ง 2 ประเทศมีสายสัมพันธ์ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่แน่นแฟ้น มีความสัมพันธ์ฉันมิตรมาโดยตลอด จึงหวังว่า จะเดินหน้าขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าเพื่อประโยชน์ของทั้ง 2 ประเทศและประชาชน จากนั้นนายอารักชีได้พบหารือกับนายโมฮัมหมัด ฮาซาน อาคุนด์ รักษาการนายกรัฐมนตรีตอลิบาน แต่ยังไม่มีรายงานเนื้อหาการหารือ คาดว่ารัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านจะหยิบยกเรื่องผู้ลี้ภัยชาวอัฟกันหลายล้านคนที่ลี้ภัยโดยไร้เอกสารอยู่ในอิหร่านมาหลายทศวรรษขึ้นหารือกับตอลิบานด้วย การเดินทางเยือนอัฟกานิสถานครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่อิหร่านและอัฟกานิสถานมีข้อพิพาทกันเรื่องสิทธิเหนือแม่น้ำที่อิหร่านเรียกว่า ฮีร์มันด์ และอัฟกานิสถานเรียกว่า เฮลมันด์ เป็นแม่น้ำสายหลักที่ไหลลงสู่ทะเลสาบฮามูนที่อยู่บริเวณพรมแดนของอิหร่านและอัฟกานิสถาน ทั้งนี้นับตั้งแต่ตอลิบานบุกยึดกรุงคาบูลและปกครองอัฟกานิสถานในปี 2564 จนถึงขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดให้การรับรองตอลิบานอย่างเป็นทางการ มีเพียงไม่กี่ประเทศ เช่น อิหร่าน ที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตในระดับเจ้าหน้าที่.-814.-สำนักข่าวไทย

1 66 67 68 69 70 684