Security threat grounds Air India flight in Canada's Iqaluit airport

สายการบินอินเดียลงจอดฉุกเฉินหลังถูกโพสต์ขู่

นิวเดลี 16 ต.ค.- เที่ยวบินของสายการบินแอร์อินเดียเดินทางจากอินเดียไปสหรัฐตัดสินใจลงจอดฉุกเฉินที่แคนาดา หลังจากมีผู้โพสต์ออนไลน์ขู่เรื่องความไม่ปลอดภัย แอร์อินเดียโพสต์แถลงการณ์ผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) เมื่อวานนี้ว่า เที่ยวบินเอไอ127 (AI127) ออกเดินทางจากกรุงนิวเดลีของอินเดีย มุ่งหน้าไปยังนครชิคาโกของสหรัฐ ถูกโพสต์ขู่เรื่องความไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินนานาชาติอีคาลูอิตในแคนาดา เพื่อตรวจสอบผู้โดยสารและเครื่องบินทั้งหมดอีกครั้งตามมาตรการด้านความปลอดภัย โดยได้แจ้งหน่วยงานที่ท่าอากาศยานให้ช่วยดูแลผู้โดยสารจนกว่าจะสามารถเดินทางได้อีกครั้ง แถลงการณ์ระบุด้วยว่า ในช่วงไม่กี่วันมานี้สายการบินของอินเดียหลายแห่งถูกขู่หลายครั้ง แม้ว่าการข่มขู่เหล่านี้ตรวจพบแล้วว่าเป็นการหลอกลวง แต่แอร์อินเดียก็ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ และต้องขออภัยที่ทำให้เกิดความไม่สะดวกต่อผู้โดยสาร ขณะนี้สายการบินกำลังร่วมมือกับทางการอย่างเต็มที่ในการสอบหาตัวผู้กระทำผิดเพื่อนำตัวมารับโทษ และจะพิจารณดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่สายการบินด้วย.-816(814).-สำนักข่าวไทย

Hanni calls for better treatment of artists at parliament

ไอดอลเคป็อปหญิงให้ปากคำเรื่องถูกบูลลี่

โซล 16 ต.ค.- ฮันนิ (Hanni) สมาชิกวงนิวจีนส์ (NewJeans) วงเกิร์ลกรุ๊ปเคป็อปชื่อดังของเกาหลีใต้ ให้ปากคำต่อรัฐสภาเกาหลีใต้ เรื่องตกเป็นเหยื่อของการถูกกลั่นแกล้งหรือบูลลี่ในที่ทำงาน ฮันนิ วัย 20 ปี ซึ่งเป็นลูกครึ่งเวียดนาม-ออสเตรเลีย ให้ปากคำต่อคณะกรรมาธิการด้านสิ่งแวดล้อมและแรงงานของรัฐสภาเกาหลีใต้เมื่อวานนี้ เรื่องตกเป็นเหยื่อของการบูลลี่ในที่ทำงานว่า เธอได้ยินมาว่าผู้จัดการคนหนึ่งบอกพนักงานในบริษัทให้ทำเมินเฉยหรือทำเป็นมองไม่เห็นเมื่อพบกับวงของเธอ ทำให้ทั้งวงรู้สึกว่าถูกบริษัทเกลียดชัง   ด้านนางคิม จู-ยอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอคนใหม่ของอาดอร์ (Ador) ที่ดูแลวงนิวจีนส์ และเป็นบริษัทลูกของไฮป์ (Hybe) ที่เป็นบริษัทบันเทิงรายใหญ่ของเกาหลีใต้ ให้ปากคำต่อคณะกรรมการฯ ว่า กำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ แต่ยังไม่พบหลักฐานในเรื่องที่ฮันนิกล่าวอ้าง บริษัทจะรับฟังและเอาใจใส่ศิลปินให้มากยิ่งขึ้น และจะสร้างความมั่นใจว่าสิทธิและศักดิ์ศรีของศิลปินจะได้รับการปกป้องอย่างดี.-815(814).-สำนักข่าวไทย

South Korea First Vice Land Minister Jin Hyun-hwan

เกาหลีใต้จะส่งคณะมาไทย-ฟิลิปปินส์หาลู่ทางร่วมมือโครงสร้างพื้นฐาน

โซล 15 ต.ค.- กระทรวงที่ดิน โครงสร้างพื้นฐาน และคมนาคมของเกาหลีใต้จะส่งคณะเดินทางมายังฟิลิปปินส์และไทย เพื่อสำรวจลู่ทางเรื่องความร่วมมือด้านโครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาที่เกี่ยวข้อง เว็บไซต์สำนักข่าวยอนฮับของทางการเกาหลีใต้รายงานว่า คณะที่นำโดยนายจิน ฮยอน-ฮวาน รัฐมนตรีช่วยคนที่ 1 ของกระทรวงฯ จะเริ่มการเยือนเป็นเวลา 4 วันตั้งแต่วันนี้ เพื่อพบกับกระทรวงที่ดินและกระทรวงคมนาคมของฟิลิปปินส์ รวมถึงเจ้าหน้าที่ธนาคารพัฒนาเอเชียหรือเอดีบี (ADB) เพื่อหารือเรื่องความร่วมมือในประเด็นที่เกี่ยวข้อง ส่วนในการเยือนไทย คณะของเกาหลีใต้จะพบหารือกับเจ้าหน้าที่ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อหารือในรายละเอียดเรื่องโครงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมทวิภาคีในไทย และเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมโต๊ะกลมกับนักธุรกิจชาวเกาหลีใต้ที่อยู่ในไทย.-814.-สำนักข่าวไทย

Russian rescued after 67 days adrift in waters fringing Pacific

รัสเซียช่วยชายที่ลอยเรือกลางแปซิฟิกเกือบ 70 วัน

มอสโก 15 ต.ค.- ทางการรัสเซียเผยว่า ได้ช่วยชีวิตชายคนหนึ่งที่ลอยเรือลำเล็กในน่านน้ำทางตะวันตกเฉียงเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิกเป็นเวลานานถึง 67 วัน โดยรอดชีวิตเพียงคนเดียว ส่วนพี่ชายและหลานชายเสียชีวิตระหว่างทาง เจ้าหน้าที่ในภูมิภาคตะวันออกไกลของรัสเซียแจ้งผ่านแอปพลิเคชันเทเลแกรมว่า ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ชาย 2 คน และบุตรชายวัย 15 ปีของชายหนึ่งในนั้น ได้ล่องเรือใบออกจากแหลมแห่งหนึ่งในดินแดนคาบารอฟสค์ มุ่งหน้าไปยังเมืองโอคาบนเกาะซาคาลิน แต่หลังนั้นได้ขาดการติดต่อไป โดยที่มีการติดตามค้นหาร่วมเดือน จนกระทั่งเมื่อกลางดึกวันที่ 14 ตุลาคม เรือประมงลำหนึ่งเห็นเรือลำนี้ในทะเลโอคอตสค์ ซึ่งเป็นน่านน้ำที่มีความกว้างถึง 1.58 ล้านตารางกิโลเมตร คนบนเรือรอดชีวิต 1 คน และเสียชีวิต 2 คน ผู้รอดชีวิตได้รับการรักษาพยาบาลแล้ว ช่องเทเลแกรมของชอต (SHOT) ซึ่งเป็นสื่อภาษารัสเซียรายงานว่า จุดที่พบเรือลำนี้อยู่ห่างจากจุดหมายเดิมถึง 1,000 กิโลเมตร ขณะที่ช่องเทเลแกรมของบาซา (Baza) ที่ใกล้ชิดกับหน่วยงานความมั่นคงของรัสเซียรายงานว่า ผู้รอดชีวิตอายุ 46 ปี ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในสภาพที่อาการหนัก หลังจากพี่ชายวัย 49 ปี และหลานชายเสียชีวิตระหว่างทาง […]

Malaysian Islamic firm denies accusations in child abuse scandal

บริษัทมาเลเซียพัวพันละเมิดเด็กหลายร้อยคนขอความเป็นธรรม

กัวลาลัมเปอร์ 15 ต.ค.- ทนายความของกลุ่มบริษัทในมาเลเซียที่ถูกกล่าวหาว่า พัวพันกับการล่วงละเมิดทางเพศเด็กในสถานสงเคราะห์หลายร้อยคน ร้องขอให้มีการสอบสวนอย่างเป็นธรรม ทีมทนายความของโกลบอล อิคห์วาน เซอร์วิส แอนด์ บิสซิเนส หรือจีไอเอสบี (GISB) เปิดแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า บริษัทปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องทำธุรกิจผิดกฎหมายและองค์กรอาชญากรรม รวมถึงการฉวยประโยชน์จากเด็ก และขอให้มีการสอบสวนที่เป็นธรรม โดยจะให้ความร่วมมือในการสอบสวน และขอให้ดำเนินการสอบสวนไปตามข้อกฎหมาย จีไอเอสบีเป็นกลุ่มบริษัทอิสลามที่มีธุรกิจในประเทศต่าง ๆ มากกว่า 20 ประเทศ ตั้งแต่ร้านสะดวกซื้อขนาดเล็กไปจนถึงร้านอาหารและบริการท่องเที่ยว ทางการมาเลเซียได้จับกุมประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้จัดการหลายคนของบริษัทเมื่อเดือนกันยายน ในข้อหาเปิดสถานสงเคราะห์เด็กที่มีการล่วงละเมิดทางเพศเด็กมากกว่า 400 คน นอกจากนี้บริษัทยังถูกสอบสวนเรื่องฟอกเงิน ความผิดเกี่ยวกับศาสนาและอีกหลายข้อหา.-814.-สำนักข่าวไทย

Nepali teen becomes youngest to scale world’s highest peaks

เชอร์ปาเนปาลพิชิต 14 ยอดเขาด้วยอายุน้อยที่สุด

กาฐมาณฑุ 15 ต.ค.- วัยรุ่นชาวเชอร์ปาสร้างสถิติเป็นนักปีนเขาอายุน้อยที่สุดในโลกที่สามารถพิชิตยอดเขาสูง 14 ยอดทั่วโลกได้สำเร็จด้วยวัยเพียง 18 ปี และได้รับการต้อนรับกลับบ้านเยี่ยงวีรบุรุษ นายนิมา รินจิ เชอร์ปา นักปีนเขาชนเผ่าเชอร์ปาวัย 18 ปีเดินทางกลับถึงกรุงกาฐมาณฑุของเนปาลเมื่อวานนี้ หลังจากสร้างสถิติเป็นนักปีนเขาอายุน้อยที่สุดที่สามารถพิชิตยอดเขาสูงเกินกว่า 8,000 เมตรทั่วโลกได้ครบทั้ง 14 ยอดเขา โดยยอดเขาสุดท้ายที่นิมาพิชิตได้สำเร็จ คือ ยอดเขาซีซาปังมาในทิเบตซึ่งมีความสูง 8,027 เมตรเมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา ทันทีที่มาถึงสนามบินตรีภูวัน นิมาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นและยิ่งใหญ่ในฐานะวีรบุรุษ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักมีทั้งการบรรเลงดนตรีจากชุมชนชาวเชอร์ปา และขบวนดุริยางค์ตำรวจที่ร่วมขบวนแห่ไปตามท้องถนน การสร้างสถิติครั้งนี้เป็นการทำลายสถิติเดิมที่นักปีนเขาชาวเชอร์ปาอีกคนหนึ่งเคยพิชิตครบทั้ง 14 ยอดเขาขณะอายุ 30 ปี.-816(814).-สำนักข่าวไทย

inter-Korean roads during exploded

เกาหลีเหนือระเบิดถนนและรางรถไฟเชื่อมเกาหลีใต้

โซล 15 ต.ค.- กองทัพเกาหลีใต้แจ้งว่า เกาหลีเหนือได้ระเบิดถนนและรางรถไฟในฝั่งเกาหลีเหนือแล้วในวันนี้ เป็นถนนและรางรถไฟที่พาดผ่านพรมแดนด้านที่ติดกับเกาหลีใต้ คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ส่งข้อความถึงสื่อมวลชนว่า ช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาเกาหลีใต้ ถนนและรางรถไฟที่เชื่อมเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ ถูกระเบิดทิ้งในส่วนที่เป็นตอนเหนือของเส้นทาง กองทัพเกาหลีใต้จึงได้ยิงปืนเตือนในพื้นที่ทางใต้ของเส้นปักปันเขตแดนที่แบ่งเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ แม้ว่าการระเบิดของเกาหลีเหนือไม่ได้สร้างความเสียหายให้แก่พรมแดนฝั่งเกาหลีใต้ก็ตาม กองทัพเกาหลีใต้ยังได้เผยแพร่คลิปที่เห็นการระเบิดบริเวณถนนที่พรมแดน 2 เกาหลี และเห็นกำลังพลเกาหลีเหนือและรถบรรทุกจำนวนมากรวมกันอยู่ที่จุดดังกล่าว (อ่านเพิ่มเติม https://tna.mcot.net/world-1433649) เหตุการณ์ล่าสุดนี้เป็นความเคลื่อนไหวอีกครั้งในการตัดสายสัมพันธ์ระหว่าง 2 เกาหลี ตามที่นาย คิม จอง-อืน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือได้ประกาศไว้ตั้งแต่ต้นปี ให้เกาหลีใต้เป็นศัตรูหลัก และต่อมาได้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญให้เป็นศัตรูหมายเลขหนี่งของประเทศ นอกจากนั้นยังได้วางกับระเบิด ติดตั้งแนวกั้นรถถัง และฐานยิงขีปนาวุธบริเวณชายแดนด้วย.-812(814).-สำนักข่าวไทย

Canada Prime Minister Justin Trudeau

สัมพันธ์แคนาดา-อินเดียร้าวฉานหนัก

ออตตาวา 15 ต.ค.- ความสัมพันธ์ระหว่างแคนาดากับอินเดียกำลังร้าวฉานอย่างหนัก ถึงขั้นที่แต่ละฝ่ายสั่งขับนักการทูตของอีกฝ่าย นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดาแถลงเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นเรื่องการขับนักการทูตอินเดีย 6 คน เนื่องจากต้องสงสัยว่าบุคคลเหล่านี้มีส่วนรู้เห็นกับการลอบสังหารนายฮาร์ดีป ซิงห์ นิจจาร์ ผู้นำกลุ่มแบ่งแยกชาวซิกข์ในแคนาดาเมื่อปี 2566 ผู้นำแคนาดากล่าวว่า มีหลักฐานเชื่อมโยงสายลับชาวอินเดียกับเหตุการณ์ดังกล่าว ด้านนางเมลานี จอย รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดากล่าวว่า ทางการแคนาดาเคยร้องขอให้อินเดียยกเลิกความคุ้มกันทางการทูตของนักการทูตอินเดียทั้ง 6 คน เพื่อให้หน่วยงานสอบสวนของแคนาดาสามารถสอบปากคำบุคคลเหล่านี้ได้ แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือจากอินเดีย แคนาดาจึงจำเป็นต้องขับนักนักการทูตเหล่านี้ ขณะที่อินเดียตอบโต้ด้วยการสั่งให้นักการทูตระดับสูงของแคนาดา 6 คนเดินทางออกจากอินเดียภายในวันที่ 19 ตุลาคมนี้ นอกจากนี้กระทรวงการต่างประเทศอินเดียยังเรียกตัวข้าหลวงใหญ่แคนาดาเข้าพบอีกด้วย อินเดียให้เห็นผลในการขับนักการทูตแคนาดาว่า เป็นเพราะไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของบุคคลเหล่านี้ได้ ส่วนนักการทูตอินเดียในแคนาดากลับประเทศตามที่รัฐบาลเรียกกลับ ไม่ได้ถูกแคนาดาขับออกนอกประเทศตามที่แคนาดาแถลงแต่อย่างใด แคนาดาได้เรียกตัวนักการทูตกลับจากอินเดียมากกว่า 40 คนเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน หลังจากอินเดียขอให้แคนาดาลดจำนวนเจ้าหน้าที่ทูตลง และที่ผ่านมาอินเดียได้ยืนกรานปฏิเสธมาตลอดว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ลอบสังหารผู้นำชาวซิกข์ในแคนาดา.-816(814).-สำนักข่าวไทย

Donald Trump in campaign with a protect shield

สหรัฐเตือนอิหร่านให้เลิกคิดลอบสังหารทรัมป์

วอชิงตัน 15 ต.ค.- เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยว่า สหรัฐได้เตือนรัฐบาลอิหร่านให้ยุติการวางแผนปองร้ายนายโดนัลด์ ทรัมป์ทั้งหมด และจะถือว่าความพยายามลอบสังหารทรัมป์เป็นการก่อสงคราม เจ้าหน้าที่สหรัฐที่ขอสงวนนามเผยเมื่อวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้รับฟังรายงานสรุปอยู่เสมอเรื่องภัยคุกคามจากอิหร่านและได้สั่งการให้ทีมงานหาทางแก้ไขเรื่องอิหร่านวางแผนปองร้ายชาวอเมริกัน เจ้าหน้าที่ระดับสูงจึงได้ส่งข้อความไปยังบุคคลระดับสูงในรัฐบาลอิหร่าน เตือนให้ยุติการวางแผนปองร้ายนายทรัมป์และอดีตเจ้าหน้าที่สหรัฐทั้งหมด พร้อมกับเตือนว่ารัฐบาลสหรัฐจะถือว่าความพยายามลอบสังหารนายทรัมป์เป็นการก่อสงคราม อิหร่านปฏิเสธมาโดยตลอดว่า ไม่ได้แทรกแซงกิจการภายในของสหรัฐ และว่าสหรัฐเป็นฝ่ายแทรกแซงกิจการภายในของอิหร่านมาตลอดหลายทศวรรษ ตั้งแต่การโค่นล้มรัฐบาลอิหร่านในปี 2496 ไปจนถึงการใช้โดรนลอบสังหารผู้บัญชาการทหารอิหร่านในปี 2563 ทรัมป์ขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐได้สั่งการในเดือนมกราคม 2563 ให้ใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศสังหารนายพลกาเซม สุไลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์ของกองกำลังปฏิวัติอิสลามอิหร่าน ขณะอยู่ในกรุงแบกแดดของอิรัก หลังจากได้รับข่าวกรองว่า นายสุไลมานีกำลังวางแผนโจมตีนักการทูตสหรัฐ รวมถึงกองกำลังสหรัฐในตะวันออกกลาง โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐถือว่าเรื่องนี้เป็นประเด็นความมั่นคงแห่งชาติที่มีความสำคัญสูงสุด หากอิหร่านปองร้ายพลเมืองของสหรัฐ รวมถึงผู้ที่กำลังรับใช้ชาติหรือเคยรับใช้ชาติ อิหร่านจะต้องรับผลสถานหนัก.-814.-สำนักข่าวไทย

Israeli Prime Minister Benjamin Netanyahu

อิสราเอลเผยจะฟังสหรัฐแต่จะตัดสินใจเอง

เยรูซาเลม 15 ต.ค.- สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลแถลงในวันนี้ว่า อิสราเอลจะรับฟังสหรัฐ แต่จะตัดสินใจดำเนินการตามผลประโยชน์ของประเทศ หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ในสหรัฐตีพิมพ์แถลงการณ์ของสำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลที่ระบุว่า อิสราเอลรับฟังความคิดเห็นของสหรัฐ แต่จะตัดสินใจในขั้นสุดท้ายโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานเรื่องผลประโยชน์ของประเทศ วอชิงตันโพสต์อ้างเจ้าหน้าที่วงใน 2 คนว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูได้แจ้งต่อรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐว่า เขาตั้งใจโจมตีเป้าหมายทางทหารของอิหร่าน มากกว่าสถานที่ทางนิวเคลียร์หรือน้ำมัน เจ้าหน้าที่คนหนึ่งระบุว่า มาตรการที่อิสราเอลจะตอบโต้อิหร่านที่ระดมยิงขีปนาวุธหลายร้อยลูกใส่อิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมจะผ่านการคิดคำนวณเพื่อไม่ให้ถูกมองว่าเป็นการแทรกแซงการเมืองในการเลือกตั้งสหรัฐที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายน ประธานาธิบดีไบเดนเคยเผยว่า ไม่สนับสนุนให้อิสราเอลโจมตีสถานที่ทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน ขณะที่ประเทศริมอ่าวอาหรับหรืออ่าวเปอร์เซียเรียกร้องให้สหรัฐยับยั้งอิสราเอลไม่ให้โจมตีสถานที่ทางน้ำมันของอิหร่าน เพราะเกรงว่าจะสถานที่ทางน้ำมันของตนเองจะถูกโจมตีจากกลุ่มตัวแทนของอิหร่าน หากสถานการณ์ความขัดแย้งทวีความรุนแรง.-814.-สำนักข่าวไทย

China planes in war game

ไต้หวันเผยจีนใช้เครื่องบินซ้อมรบในวันเดียวมากเป็นประวัติการณ์

ไทเป 15 ต.ค.- ไต้หวันแจกแจงในรายละเอียดว่า จีนได้ใช้เครื่องบินเข้าร่วมการฝึกซ้อมทางทหารในวันเดียวมากเป็นประวัติการณ์ถึง 153 ลำ หลังจากจีนประกาศเสร็จสิ้นการฝึกซ้อมล่าสุดเมื่อวานนี้ กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุในการแถลงความคืบหน้าประจำวันในวันนี้ เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวทางทหารของจีนรอบไต้หวันว่า ตรวจพบเครื่องบินทหารจีนทั้งหมด 153 ลำ เพิ่มขึ้นจากที่แจ้งเมื่อเย็นวันจันทร์ว่าตรวจพบ 125 ลำ ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดในวันเดียวอยู่แล้ว เครื่องบินจีน 28 ลำบินข้ามเส้นมัธยะที่เป็นเส้นแบ่งเขตแดนอย่างไม่เป็นทางการในช่องแคบไต้หวันและเป็นเส้นที่จีนไม่ยอมรับ ขณะที่เครื่องบินจีนลำอื่น ๆ ได้ฝึกซ้อมนอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของไต้หวัน ซึ่งเป็นที่ตั้งฐานทัพอากาศใหญ่ของไต้หวัน และนอกชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นส่วนบนสุดของทะเลจีนใต้ นอกจากนี้ยังตรวจพบเรือของกองทัพเรือจีน 14 ลำ และเรือหน่วยยามฝั่งรวมทั้งเรือทางทหารอื่น ๆ อีก 12 ลำ นายกรัฐมนตรีจั๋ว หรงไท่ของไต้หวันกล่าวว่า การฝึกซ้อมทางทหารใด ๆ ก็ตามที่ไม่แจ้งล่วงหน้าจะก่อความวุ่นวายใหญ่หลวงให้แก่สันติภาพและเสถียรภาพของทั้งภูมิภาค การฝึกซ้อมทางทหารของจีนไม่เพียงกระทบต่อพื้นที่ใกล้เคียงของไต้หวัน แต่ยังกระทบร้ายแรงต่อสิทธิการเดินเรือสากลทั้งหมดทั้งทางน้ำและทางอากาศด้วย กระทรวงกลาโหมจีนประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า กองบัญชาการยุทธบริเวณภาคตะวันออกได้เสร็จสิ้นการฝึกซ้อมทางทหารชื่อจอยต์ซอร์ด-2024บี (Joint Sword-2024B) เป็นเวลา 1 วันแล้ว และออกแถลงการณ์เตือนหลังจากนั้นว่า การซ้อมครั้งล่าสุดไม่ใช่การซ้อมตามหลังจอยต์ซอร์ด-2024เอ (Joint Sword-2024A) ที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม แต่เป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อการเคลื่อนไหวแยกดินแดนของไต้หวัน กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนจะดำเนินการทุกครั้งที่ไต้หวันยั่วยุเรื่องแยกตัวเป็นเอกราช […]

Half million still without power in Sao Paulo from Friday storm

เมืองใหญ่ที่สุดในลาตินอเมริกายังไม่มีไฟฟ้าใช้หลังพายุพัดหลายวันก่อน

เซาเปาลู 15 ต.ค.- ประชากรราวครึ่งหนึ่งในนครเซาเปาลูของบราซิล ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในลาตินอเมริกา ยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ หลังจากเครือข่ายไฟฟ้าถูกพายุพัดเสียหายหลายวันก่อน ลมพายุพัดกระโชกแรงด้วยความเร็วลมมากกว่า 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเมื่อคืนวันที่ 11 ตุลาคมตามเวลาท้องถิ่น ทำให้ต้นไม้และเสาไฟฟ้าริมถนนในนครเซาเปาลูล้มระเนระนาด และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน จนถึงขณะนี้ยังคงมีธุรกิจและบ้านเรือนประชาชนราว 537,000 ราย ที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้จนถึงเที่ยงวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น บริษัทเอเนล เซาเปาลู ซึ่งเป็นผู้จ่ายกระแสไฟฟ้าแจ้งว่า จำเป็นต้องใช้เวลาในการซ่อมแซมเครือข่ายไฟฟ้าที่เสียหาย อย่างไรก็ดี การแก้ปัญหาที่เป็นไปอย่างล่าช้าทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนักการเมืองและทางการที่ต่างเรียกร้องให้ยกเลิกสัมปทานของบริษัทเอเนล เพราะเกิดปัญหาไฟฟ้าดับบ่อยครั้งนับตั้งแต่ปีที่แล้ว สร้างความไม่พอใจให้แก่ประชาชน และทำให้ทางการต้องสั่งปรับเงินบริษัทโทษฐานที่แก้ปัญหาล่าช้า.-816(814).-สำนักข่าวไทย

1 61 62 63 64 65 628