ผู้นำฟิลิปปินส์โทษผู้ก่อการร้ายต่างชาติระเบิดโรงยิม

มาราวี 3 ธ.ค.- ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ ของฟิลิปปินส์ กล่าวโทษกลุ่มก่อการร้ายต่างชาติว่าเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดที่โรงยิมในมหาวิทยาลัยขณะที่กำลังมีพิธีมิสซา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บมากกว่า 40 คน ประธานาธิบดีมาร์กอส ประณามการก่อเหตุดังกล่าวว่า เป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายต่างชาติที่ไร้เหตุผลและชั่วร้าย ขณะที่นายกเทศมนตรีเมืองมาราวี สถานที่ตั้งมหาวิทยาลัยรัฐมินดาเนาที่เกิดเหตุระเบิด ขอให้ชุมชนคริสตชนและมุสลิมร่วมมือร่วมใจกันต่อไป เมืองนี้เป็นผู้นำแห่งการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและความสมานฉันท์มายาวนาน จะไม่ยอมให้การก่อเหตุรุนแรงมาบดบังความมุ่งมั่นที่มีต่อสันติภาพและความเป็นเอกภาพ เหตุระเบิดเกิดขึ้นในขณะที่กำลังมีพิธีมิสซาเช้า เมื่อเวลา 07:00 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 06:00 น.วันนี้ตามเวลาไทย ที่โรงยิมของมหาวิทยาลัยรัฐมินดาเนา เมืองมาราวี ซึ่งเป็นเมืองมุสลิมใหญ่ที่สุดของประเทศ มหาวิทยาลัยแถลงประณามการก่อเหตุรุนแรง งดการเรียนการสอน และเพิ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตำรวจเผยว่า กำลังตรวจสอบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่อง หรือการขว้างระเบิดเข้ามาในโรงยิม มีผู้เสียชีวิต 3 คน ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดลาเนา เดล ซูร์ เผยว่า มีผู้กำลังรับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลมากกว่า 40 คน ภาพที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เห็นเก้าอี้พลาสติกหลายตัวพลิกหงาย และซากความเสียหายรอบแผ่นปูสีดำบนพื้นโรงยิม นักศึกษาที่บาดเจ็บเผยว่า เหตุเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ทุกคนพากันวิ่งหนี และหลายคนล้มขณะวิ่ง.-814.-สำนักข่าวไทย

ชาวฟิลิปปินส์เริ่มกลับบ้านหลังแผ่นดินไหวคร่าชีวิต 1 คน

มะนิลา 3 ธ.ค.- ประชาชนบนเกาะมินดาเนา ทางใต้ของฟิลิปปินส์ได้รับอนุญาตให้กลับบ้านเรือนแล้วในวันนี้ หลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อคืนวันเสาร์และอาฟเตอร์ช็อกหลายครั้งในเช้าวันนี้ โดยมีผู้เสียชีวิต 1 คน พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองริมชายทะเลเผยในเช้าวันนี้หลังจากไฟฟ้ากลับมาใช้ได้อีกครั้งในเวลา 05:00 น.ว่า ทุกคนเริ่มกลับบ้านตั้งแต่เช้า แม้ว่ายังคงมีอาฟเตอร์ช็อกอยู่ แผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์เขย่าจังหวัดซูรีเกา เดล ซูร์ และจังหวัดดาเวา โอเรียนตัล ทำให้ต้องอพยพคนริมชายฝั่งและเตือนภัยสึนามิทั้งในฟิลิปปินส์และญี่ปุ่น เจ้าหน้าที่ภัยพิบัติเผยว่า สตรีคนหนึ่งถูกกำแพงบ้านล้มทับขณะกำลังหนีพร้อมกับครอบครัวในจังหวัดดาเวา เดล นอร์เต   สถาบันภูเขาไฟวิทยาและแผ่นดินไหววิทยาฟิลิปปินส์แถลงในวันนี้ว่า ภัยสึนามิจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ได้ผ่านพ้นไปแล้ว แต่ขอแนะนำให้ผู้อยู่ในชุมชนเสี่ยงปฏิบัติตามคำสั่งของทางการ และใช้ความระมัดระวังในการดำเนินชีวิตตามปกติ เนื่องจากตรวจพบแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหวหรืออาฟเตอร์ช็อกมากกว่า 600 ครั้ง สถาบันฯ แจ้งว่า แผ่นดินไหวขนาด 7.4 ที่ระดับความลึก 25 กิโลเมตร เกิดขึ้นเมื่อเวลา 22:37 น.น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 21:37 น.วันเสาร์ตามเวลาไทย ขณะที่สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐหรือยูเอสจีเอส (USGS) แจ้งว่า แผ่นดินไหวมีขนาด 7.6 ที่ระดับความลึก 32 กิโลเมตร.-814.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีเหนือเตือนสงครามคาบสมุทรเกาหลีรอเวลาเกิด

เปียงยาง 3 ธ.ค.- เกาหลีเหนือเตือนในวันนี้ว่า การปะทะทางกายภาพและสงครามบนคาบสมุทรเกาหลีได้กลายเป็นเรื่องที่รอเวลาจะเกิดขึ้น หลังจากมีการยกเลิกข้อตกลงลดความตึงเครียดทางทหาร 2 เกาหลี สำนักข่าวกลางเกาหลีหรือเคซีเอ็นเอ (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือ เผยแพร่บทความของนักวิจารณ์ทางทหารชาวเกาหลีเหนือที่กล่าวโทษเกาหลีใต้ว่า เป็นฝ่ายทำให้เกิดการยกเลิกข้อตกลงทางทหารแบบครอบคลุมปี 2561 ที่กำหนดให้ดำเนินมาตรการทางทหารอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน 2 เกาหลี การเคลื่อนไหวที่ไร้ความยั้งคิดของกลุ่มหุ่นเชิดผู้ทรยศ ทำให้การเผชิญหน้าทางทหารกลับมาร้ายแรงเหมือนช่วงก่อนมีข้อตกลง เนื่องจากข้อตกลงนี้เป็นสิ่งสุดท้ายที่จะป้องกันความขัดแย้งทางทหารที่เกิดขึ้นโดยไม่เจตนาบริเวณเส้นแบ่งเขตทางทหารที่มีกำลังทหารขนาดใหญ่เผชิญหน้ากันตึงเครียดที่สุดในโลก ดังนั้นการปะทะทางกายภาพและสงครามบนคาบสมุทรเกาหลีจึงกลายเป็นเรื่องที่รอเวลาจะเกิดขึ้น ไม่ใช่เรื่องความเป็นไปได้อีกต่อไป บทความระบุด้วยว่า การกระทำปรปักษ์ของกลุ่มหุ่นเชิดต่อต้านสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (หมายถึงเกาหลีเหนือ) จะนำมาซึ่งการทำลายล้างกองทัพหุ่นเชิดอย่างแสนสาหัส และการล่มสลายอย่างสิ้นเชิงของสาธารณรัฐเกาหลี (หมายถึงเกาหลีใต้) เกาหลีเหนือยกเลิกข้อตกลงดังกล่าวในเดือนพฤศจิกายน หลังจากเกาหลีใต้ประกาศยกเลิกข้อตกลงบางส่วน เพื่อประท้วงที่เกาหลีเหนือส่งดาวเทียมจารกรรมเข้าสู่วงโคจร จากนั้นเกาหลีเหนือได้ตั้งป้อมยามและนำอาวุธหนักมาประจำการบริเวณพรมแดนอีกครั้ง ขณะที่เกาหลีใต้ได้ส่งดาวเทียมจารกรรมดวงแรกเข้าสู่วงโคจรเมื่อวานนี้.-814.-สำนักข่าวไทย

ไล่แทงคนใกล้หอไอเฟล

ปารีส 3 ธ.ค.- เกิดเหตุคนร้ายใช้ของมีคมเป็นอาวุธไล่แทงผู้คน ใจกลางกรุงปารีส ใกล้บริเวณหอไอเฟลของฝรั่งเศส เหตุเกิดช่วงเย็นวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บ 2 คน ผู้เสียชีวิตเป็นนักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน  มือมีดถูกตำรวจเข้ารวบตัวในเวลาต่อมา  แหล่งข่าวตำรวจเผยว่า ผู้ก่อเหตุเป็นชาวฝรั่งเศส มีอาการป่วยทางจิต เคยมีประวัติเป็นพวกหัวรุนแรง ขณะที่เจ้าหน้าที่เผยว่า ผู้ก่อเหตุเคยถูกจับและถูกตัดสินจำคุก 4 ปี เมื่อปี 2559 ในข้อหาวางแผนโจมตีในกรุงปารีส โดยถูกจับก่อนก่อเหตุ อัยการด้านคดีก่อการร้ายของฝรั่งเศสเตรียมเปิดสอบสวนคดีนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครงเผยว่า ได้แสดงความเสียใจไปยังครอบครัวนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันที่เสียชีวิตในเหตุก่อการร้าย ด้านนายกรัฐมนตรีเอลิซาเบธ บอร์น โพสต์ผ่านเอ็กซ์ (X) ว่า จะไม่ยอมให้แก่การก่อการร้าย.-810(814).-สำนักข่าวไทย

ระเบิดที่โรงยิมขณะมีพิธีมิสซาในฟิลิปปินส์

มะนิลา 3 ธ.ค.- ตำรวจฟิลิปปินส์แจ้งว่า มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 9 คน จากเหตุระเบิดที่โรงยิมของมหาวิทยาลัยทางตอนใต้ของประเทศในขณะที่กำลังมีการประกอบพิธีมิสซาของคริสตชน ตำรวจเผยว่า ทางการกำลังสอบสวนเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่มหาวิทยาลัยรัฐมินดาเนา รวมถึงความเป็นไปได้ที่จะเป็นการแก้แค้นของกองกำลังสนับสนุนรัฐอิสลามหรือไอเอส (IS) เนื่องจากสถานที่เกิดเหตุอยู่ในเมืองมาราวี ซึ่งเป็นเมืองที่เคยถูกกองกำลังเคร่งศาสนาอิสลามยึดไว้นาน 5 เดือนในปี 2560 นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นหลังจากกองทัพฟิลิปปินส์แถลงเมื่อวันเสาร์ว่า ได้สังหารสมาชิกกองกำลังเคร่งศาสนาอิสลาม 11 คนในปฏิบัติการเมื่อวันศุกร์ในจังหวัดมากินดาเนา เดล ซูร์.-814.-สำนักข่าวไทย  

อาฟเตอร์ช็อกใหญ่หลายครั้ง หลังแผ่นดินไหวฟิลิปปินส์ ขนาด 7.6

สำนักสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐหรือยูเอสจีเอส (USGS) แจ้งว่า เกิดแรงสั่นสะเทือนหลังแผ่นดินไหวหรืออาฟเตอร์ช็อกใหญ่ 4 ครั้ง หลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.6 ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์เมื่อวันเสาร์

จุดไฟเผาตัวประท้วงอิสราเอล

แอตแลนตา 2 ธ.ค.- เกิดเหตุผู้ประท้วงคนหนึ่งจุดไฟเผาตัวเองได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่ด้านนอกสถานกงสุลอิสราเอล ในนครแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ของสหรัฐ ตำรวจเผยว่า เหตุเกิดช่วงหลังเที่ยงวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ชายที่ก่อเหตุมีธงชาติปาเลสไตน์และนำน้ำมันมาเผาตัวเองที่อาคารสำนักงานซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานกงสุลอิสราเอลและธุรกิจหลายแห่ง ทำให้อาการสาหัส และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บถูกไฟไหม้ข้อมือและขาจากการพยายามเข้าไปห้าม ตำรวจเชื่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการประท้วงของผู้มีแนวคิดทางการเมืองที่สุดโต่ง และไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย.-810(814).-สำนักข่าวไทย

จีนยืนยันป่วยทางเดินหายใจที่เพิ่มขึ้นไม่ใช่โรคใหม่

เซินเจิ้น 2 ธ.ค.- เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีนยืนยันว่า โรคระบบทางเดินหายใจที่มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้น เกิดจากเชื้อโรคที่เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว และไม่มีสัญญาณว่าเป็นโรคระบาดใหม่ เจ้าหน้าที่ในคณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติของจีนแถลงข่าววันนี้ว่า ทางการจีนจะเพิ่มคลินิกผู้ป่วยนอกสำหรับเด็ก จะสร้างความมั่นใจว่าจะมีจำนวนเด็กและผู้สูงวัยได้รับวัคซีนมากขึ้น จะส่งเสริมให้คนสวมหน้ากากและล้างมือ พร้อมกับยืนยันว่า ผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจที่เพิ่มขึ้นเกิดจากเชื้อโรคที่เป็นที่รู้จักอยู่แล้ว จีนซึ่งกำลังเข้าสู่ฤดูหนาวพบผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น และกลายเป็นที่จับตาเมื่อองค์การอนามัยโลกขอข้อมูลเพิ่มเติมจากจีนเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยอ้างรายงานเรื่องพบกลุ่มผู้ป่วยโรคปอดอักเสบในเด็ก รอยตอร์ระบุว่า แพทย์ในจีนและผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศไม่ได้แสดงความตกใจเรื่องนี้ เนื่องจากหลายประเทศพบผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้นเช่นกัน เมื่อผ่อนคลายมาตรการจำกัดโรคโควิด-19 ระบาด จีนซึ่งพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 เป็นแห่งแรกของโลกเมื่อปลายปี 2562 เพิ่งผ่อนคลายมาตรการจำกัดเมื่อสิ้นปี 2565.-814.-สำนักข่าวไทย

กว่า 110 ประเทศจะหนุนใช้พลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้น 3 เท่า

ดูไบ 2 ธ.ค.- รัฐภาคีมากกว่า 110 ประเทศเตรียมให้การสนับสนุนคำมั่นเรื่องจะทำให้โลกมีการใช้พลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้น 3 เท่าภายในปี 2573 ในการประชุมโลกร้อนวันนี้   นางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของสหภาพยุโรปหรืออียูกล่าวในวันแรกของการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสมัยที่ 28 หรือคอป 28 (COP28) เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนว่า มีรัฐภาคีมากกว่า 110 ประเทศได้เข้าร่วมในคำมั่นดังกล่าวแล้ว ขอเรียกร้องให้ทุกประเทศบรรจุคำมั่นนี้ไว้ในการตัดสินใจขั้นสุดท้ายของที่ประชุมซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 12 ธันวาคม ทั้งนี้การจะบรรจุคำมั่นดังกล่าวจะต้องได้รับความเห็นชอบด้วยเสียงเอกฉันท์จากประเทศที่เข้าร่วมการประชุมเกือบ 200 ประเทศ จีนและอินเดียซึ่งแสดงท่าทีว่าสนับสนุนการใช้พลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้น 3 เท่าภายในปี 2573 ไม่เคยยืนยันว่าจะสนับสนุนคำมั่นทั้งหมด ซึ่งนำเรื่องการใช้พลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นมาผูกไว้กับการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลลดลง แหล่งข่าวเผยว่า แอฟริกาใต้ เวียดนาม ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น แคนาดา ชิลี และบาร์เบโดส อยู่ในกลุ่มประเทศที่ให้การสนับสนุน เอ็มเบอร์ (Ember) หน่วยงานวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมวิเคราะห์ว่า การใช้พลังงานสะอาด เช่น ลม แสงแดด เพิ่มขึ้น […]

กลุ่มต่อต้านรัฐประหารเมียนมามุ่งหน้ายึดเมืองเอกรัฐคะยา

ลอยก่อ 2 ธ.ค.- กลุ่มนักรบต่อต้านการรัฐประหารในเมียนมากำลังเดินหน้าหวังยึดเมืองลอยก่อที่เป็นเมืองเอกของรัฐคะยา ทางตะวันออกของเมียนมา หากสำเร็จจะเป็นการยึดเมืองเอกจากกองทัพเมียนมาได้เป็นแห่งแรก กลุ่มที่มารวมตัวเป็นกองกำลังปกป้องประชาชนหรือพีดีเอฟ (PDF) หลังจากกองทัพเมียนมารัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ได้ร่วมกับพันธมิตรที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์สู้รบกับกองทัพเมียนมามาหลายสัปดาห์ ทั้งในและรอบเมืองลอยก่อ ซึ่งเป็นเมืองที่ซ่อนตัวอยู่บนเนินเขาทึบ มีประชากรประมาณ 50,000 คน นักรบของพีดีเอฟเผยว่า ชาวเมืองราวร้อยละ 70 พากันอพยพหนีการโจมตีทางอากาศ การยิงปืนใหญ่ถล่ม และการต่อสู้ในเขตเมืองของกองทัพ อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้ เสียงปืนใหญ่ลดลงเพราะกองทัพตกมาอยู่ในฝ่ายตั้งรับ ฝ่ายต่อต้านเดินหน้าหวังยึดเมืองนี้ให้ได้ เพราะจะเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ แต่หลายคนก็กังวลเรื่องความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นกับกำลังคนและตัวเมือง เพราะกองทัพยังคงใช้การโจมตีทางอากาศ แม้ว่าสูญเสียกำลังคนไปมาก เอเอฟพีได้รับคลิปภาพบรรยากาศในเมืองลอยก่อ เห็นบ้านเรือนร้างผู้คน ร้านค้าและถนนมีรอยถูกระเบิดเสียหาย หัวมุมถนนบางแห่งมีกองกระสอบทรายตั้งเป็นเกราะกำบัง พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมากล่าวเมื่อวันพุธว่า การโจมตีในเมืองลอยก่อตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีความเข้มข้นมาก แต่กองทัพยังคงควบคุมเมืองเอาไว้ได้ ด้านสหประชาชาติหรือยูเอ็นเผยว่า มีคนพลัดถิ่นแล้วมากกว่า 500,000 คนนับตั้งแต่พันธมิตร 3 ภราดรภาพที่ประกอบด้วยกองทัพอาระกันหรือเอเอ (AA) กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมาหรือเอ็มเอ็นดีเอเอ (MNDAA) และกองทัพปลดแอดแห่งชาติตะอางหรือทีเอ็นแอลเอ (TNLA) เปิดฉากปฏิบัติการ1027 ซึ่งหมายถึงวันที่ 27 ตุลาคม […]

ภูเขาไฟในอิตาลีปะทุ

ซิซิลี 2 ธ.ค.- ภูเขาไฟเอตนา (Etna) ในอิตาลีเกิดการปะทุขึ้นอีกครั้งเมื่อคืนที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีรายงานผลกระทบ ภูเขาไฟเอตนาปะทุพ่นเถ้าถ่านและลาวาออกมาจากปากปล่องภูเขาไฟทางด้านตะวันออกเฉียงใต้  ภูเขาไฟเอตนาตั้งอยู่บนเกาะซิซิลี ห่างจากเมืองกาตาเนีย 29 กิโลเมตร ได้ชื่อว่าเป็นภูเขาไฟที่ยังมีพลังที่สูงที่สุดในยุโรปด้วยความสูงของยอดเขา 3,326 เมตร  และยังเป็นภูเขาไฟที่มีการปะทุบ่อยครั้งมากที่สุดในโลกเท่าที่มีการบันทึกมา เมื่อเดือนพฤษภาคม และสิงหาคมปีนี้ภูเขาไฟเอตนาเพิ่งเกิดการปะทุ ซึ่งในช่วงดังกล่าวทำให้สนามบินกาตาเนียต้องปิดทำการ ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อผู้โดยสาร  โดยเฉพาะเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมซึ่งมีคนจำนวนมากออกเดินทางเนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ และเมื่อปี 2565ภูเขาไฟลูกนี้เกิดการปะทุรุนแรง ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารราว 10 ล้านที่ต้องใช้สนามบินกาตาเนีย.-816(814).-สำนักข่าวไทย

โรฮีนจากว่า 100 คนขึ้นฝั่งอินโดนีเซียวันนี้

อาเจะห์ 2 ธ.ค.- ชาวโรฮีนจามากว่า 100 คนล่องเรือขึ้นฝั่งจังหวัดอาเจะห์ ทางตะวันตกสุดของอินโดนีเซียในวันนี้ ขณะที่ชาวบ้านขู่จะผลักดันให้กลับขึ้นเรือออกจากฝั่งหากไม่มีฝ่ายใดเข้ามาดำเนินการ หัวหน้าหมู่บ้านจุดที่เรือโรฮีนจาล่องมาขึ้นฝั่งในวันนี้เผยว่า ตอนที่มาถึงก็เห็นชาวโรฮีนจาเหล่านี้อยู่บนชายหาดแล้ว มีทั้งเด็ก ผู้หญิง และผู้ชายรวม 139 คน เรือมาขึ้นฝั่งประมาณเวลา 02:30 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลาเดียวกันในไทย หมู่บ้านจะผลักดันผู้ลี้ภัยชุดล่าสุดนี้ขึ้นเรือออกจากฝั่ง หากไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาดำเนินการภายในบ่ายวันนี้ โดยในระหว่างนี้จะให้ความช่วยเหลือไปก่อน พร้อมกับย้ำว่าคนในหมู่บ้านคัดค้านอย่างยิ่งเรื่องเรือโรฮีนจามาขึ้นฝั่ง สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติหรือยูเอ็นเอชซีอาร์ (UNHCR) เผยว่า เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมามีผู้ลี้ภัยชาวโรฮีนจามากกว่า 1,000 คน ล่องเรือมาขึ้นฝั่งจังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเซีย มากที่สุดนับจากปี 2558 ยูเอ็นเอชซีอาร์ประเมินว่า ปี 2565 มีชาวโรฮีนจามากกว่า 3,500 คนพยายามล่องเรือเสี่ยงชีวิตมายังประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนใหญ่เป็นอินโดนีเซียและมาเลเซีย โดยเดินทางมาจากเมียนมาหรือค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศ และในจำนวนนี้เกือบ 350 คนเสียชีวิตหรือสูญหายกลางทะเล.-814.-สำนักข่าวไทย

1 224 225 226 227 228 636