กรุงเทพฯ 13 มี.ค.- นางจีนา เรมอนโด รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐเผยขณะเยือนไทยว่า ไทยเป็นจุดหมายสำคัญอันดับแรกของบริษัทข้ามชาติสหรัฐที่ต้องการกระจายห่วงโซ่อุปทาน และบริษัทเหล่านี้พร้อมจะเพิ่มการลงทุนในไทย
นางเรมอนโดกล่าวในวันนี้ว่า ในขณะที่บริษัทข้ามชาติสหรัฐมองหาลู่ทางสร้างความหลากหลายให้แก่ห่วงโซ่อุปทาน ไทยได้ขยับขึ้นมาเป็นประเทศแรกสุดในรายชื่อเรื่องนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคยานยนต์ เซมิคอนดักเตอร์หรือชิป และดิจิทัล ปัจจุบันการผลิตชิปนอกจากไม่เพียงพอแล้ว แต่ยังกระจุกตัวอย่างเป็นอันตรายใน 1-2 ประเทศของโลกเท่านั้น
นางเรมอนโดยังได้กล่าวถึงกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิกหรือไอพีอีเอฟ (IPEF) ว่า มีความก้าวหน้าอย่างมาก เพราะมีการบรรลุข้อตกลงเรื่องห่วงโซ่อุปทาน การลดการปล่อยคาร์บอน โครงสร้างพื้นฐาน และธรรมาภิบาล ไทยและสมาชิกในอินโด-แปซิฟิกจะได้ประโยชน์จากไอพีอีเอฟ และจะได้รับความสำคัญเป็นอันดับแรกสำหรับการลงทุนด้านชิป ส่วนในเยือนฟิลิปปินส์เมื่อวันจันทร์ รัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐกล่าวว่า บริษัทอเมริกันเตรียมประกาศการลงทุนในฟิลิปปินส์มูลค่ามากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (มากกว่า 35,700 ล้านบาท) ครอบคลุมด้านพลังงานแสงอาทิตย์ ยานยนต์ไฟฟ้า และการแปลงข้อมูลจากอนาล็อกเป็นดิจิทัล (digitisation)
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐริเริ่มไอพีอีเอฟขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2565 ปัจจุบันมีสมาชิก 14 ประเทศประกอบด้วยสหรัฐ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย ฟิจิ นิวซีแลนด์ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนามและไทย.-814.-สำนักข่าวไทย