ชัวร์ก่อนแชร์ : วัคซีนไข้หวัดใหญ่ ทำให้เกิดลิ่มเลือดในสมอง ญี่ปุ่นไม่บังคับประชาชนฉีดแล้ว จริงหรือ ?

ตามที่บนสื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่วิดีโอคำแนะนำข้อควรระวังในการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ โดยอ้างว่าเมื่อฉีดวัคซีนแล้วจะขึ้นสมอง เป็นลิ่มไปอุดในสมอง ทำลายระบบประสาท และรัฐบาลญี่ปุ่นไม่บังคับให้ประชาชนฉีดวัคซีนอีกต่อไป นั้น บทสรุป : ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ไม่ทำให้เกิดลิ่มเลือดในสมอง ตรงกันข้าม การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ และญี่ปุ่นไม่มีนโยบายบังคับฉีดวัคซีนทุกชนิดอยู่แล้ว FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า วิดีโอคำดังกล่าวเป็นคำแนะนำเกี่ยวกับข้อควรระวังในการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ โดยอ้างว่าเมื่อฉีดวัคซีนแล้วจะขึ้นสมอง เป็นลิ่มไปอุดในสมอง ทำให้ประสาทเพี้ยน คล้ายกับเหตุการณ์ลิ่มเลือดอุดตันในสมองที่พบมากในช่วงการระบาดของโควิด โดยผู้พูดกล่าวว่า การติดไข้หวัดใหญ่ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต หากดูแลรักษาตัวเองดี ไข้หวัดใหญ่ก็จะไม่ติด และรัฐบาลญี่ปุ่นไม่มีการบังคับให้ประชาชนฉีดวัคซีน ทั้งนี้ คลิปวิดีโอดังกล่าวมีการเผยแพร่และส่งต่อในสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมาก วัคซีนไข้หวัดใหญ่ไม่ทำให้เกิดลิ่มเลือดในสมอง ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์พิสนธิ์ จงตระกูล ประธานคณะทำงานสร้างความเข้มแข็งประชาชนด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (สยส.) และคณะทำงานด้านวิชาการเพื่อการใช้ยาอย่างสมเหตุผลแพทยสภา ให้ข้อมูลผ่านรายการ FM91 ก้าวทันโรคกับแพทยสภา เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. ​2568 ว่า ข้อมูลที่ว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่จะทำให้เกิดลิ่มเลือดในสมองนั้นไม่เป็นความจริง วัคซีนไม่ทำให้เกิดลิ่มเลือด ตรงกันข้าม การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ต่างหากที่เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ ทั้งนี้  ข้อห้ามใช้ของวัคซีนไข้หวัดใหญ่มีเพียงกรณีเดียวคือผู้ที่มีประวัติแพ้วัคซีนหรือส่วนประกอบของวัคซีนอย่างรุนแรงเท่านั้น […]

คุ้มไหม ? สแกนม่านตาแลกเงิน | ชัวร์ก่อนแชร์ in FOCUS

ปัจจุบันที่โลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัว เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทในทุกแง่มุมของชีวิต รวมถึงการยืนยันตัวตนของเราในรูปแบบดิจิทัล ด้วย Digital ID กลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หนึ่งในกระแสที่มีการพูดถึงอย่างกว้างขวางเมื่อไม่นานมานี้ นั่นคือ World App แอปพลิเคชันที่ใช้ระบบยืนยันตัวตนที่เรียกว่า World ID ด้วยการ “สแกนม่านตา” เพื่อยืนยันตัวตนว่าเป็นมนุษย์จริง ๆ โดยมีผลตอบแทนเป็นสกุลเงินดิจิทัล ทำให้หลายคนเกิดความสนใจและตั้งคำถามว่า การแลกสแกนม่านตาซึ่งเป็นหนึ่งในข้อมูลชีวภาพของเราเพื่อแลกมา คุ้มค่าและปลอดภัยจริงหรือไม่ World ID คืออะไร ? อาจารย์ปริญญา หอมเอนก ผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยไซเบอร์ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอซิส โปรเฟสชั่นนัล เซ็นเตอร์ จำกัด ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยี “World ID” ในรายการชัวร์ก่อนแชร์ PODCAST | THE CYBER MINDSET เอาไว้ว่า เทคโนโลยี “World ID” พัฒนาโดย Sam Altman CEO ของ OpenAI เจ้าของผู้พัฒนาแชทจีพีที […]

ทำไม ! หลอกซื้อขายออนไลน์ ครองแชมป์แจ้งความออนไลน์มากที่สุด | ชัวร์ก่อนแชร์ in FOCUS

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ปัญหากลโกงทางออนไลน์เป็นภัยใกล้ตัวที่ส่งผลกระทบต่อผู้คนในปัจจุบันอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ ที่ยังคงครองอันดับ 1 ของคดีที่มีการแจ้งความออนไลน์อย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน หลอกลวงซื้อขาย อันดับ 1 แจ้งความออนไลน์ จากข้อมูลสถิติการแจ้งความออนไลน์ ผ่านระบบคดีออนไลน์ ของศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สะสมตั้งแต่ 1 มีนาคม 2565 – 31 กรกฎาคม 2568 พบว่า อันดับที่ 1 คือ คดีหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการไม่เป็นขบวนการ โดยมีจำนวน 447,343 คดี คิดเป็น 45.17% และมีมูลค่าความเสียหาย 4,771,827,437 บาท จากสถิติดังกล่าว จะแสดงให้เห็นว่า แม้มูลค่าความเสียหายต่อรายอาจไม่สูง แต่จำนวนผู้เสียหายกลับมีมากที่สุด สะท้อนให้เห็นว่าในแต่ละวันยังมีผู้ตกเป็นเหยื่อจำนวนมหาศาล อีกทั้งยังมีอีกหลายกรณีที่ไม่ได้มีการแจ้งความ แม้จะมีการรณรงค์และแจ้งเตือนมาโดยตลอดก็ตาม อะไรคือช่องโหว่ที่ทำให้ปัญหานี้ยังคงอยู่ และเราจะสามารถป้องกันได้อย่างไร ? ข้อมูลจาก พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (บช.สอท.) พบว่า คดีการหลอกให้ซื้อขายสินค้าหรือบริการ สามารถแบ่งออกเป็นแบบ […]

ตำรวจไซเบอร์แนะ 3 วิธี เช็กเพจปลอม !

ท่ามกลางสถานการณ์การปะทะบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา กลุ่มมิจฉาชีพมักอาศัยจังหวะที่ผู้คนติดตามข่าวสาร นำเพจปลอมที่เคยใช้หลอกลวงมาเปลี่ยนชื่อใหม่โดยแอบอ้างเป็นหน่วยงานรัฐ ใช้เผยแพร่ข้อมูลเท็จ สร้างความสับสนและตื่นตระหนกในสังคม หวังผลประโยชน์แอบแฝง 3 วิธี ตรวจสอบเพจปลอมก่อนหลงเชื่อ แจ้งความและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หากพบเห็นเพจหรือข่าวที่น่าสงสัย สามารถแจ้งความออนไลน์ และตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ ในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับข่าวสารมากมายบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่มีความละเอียดอ่อนเช่นนี้ การตรวจสอบความถูกต้องของแหล่งที่มาก่อนเชื่อหรือแชร์ต่อจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้รู้ทันมิจฉาชีพและไม่ตกเป็นเหยื่อของข่าวปลอม หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบได้ที่ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์” 4 สิงหาคม 2568ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์สำนักข่าวไทย อสมทรวบรวมและเรียบเรียง โดย นัฐภรณ์ ผลพฤกษา ข้อมูลจากกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี

ชัวร์ก่อนแชร์ : สรุปไทม์ไลน์ เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา (อัปเดต 13 ข้อตกลงหยุดยิง)

จากเหตุการณ์การปะทะบริเวณชายแดน ระหว่างไทยและกัมพูชา ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บทั้งพลเรือนและทหาร รวมถึงความเสียหายต่อทรัพย์สินของประชาชน นั้น รัฐบาลไทยยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยข้อมูลจากกองบัญชาการกองทัพไทยและกองทัพบกและรัฐบาลไทย ระบุลำดับเหตุการณ์สำคัญไว้ ดังนี้ หมายเหตุ :ข้อมูล ณ วันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เวลา 21.50 น.🔴 = ข้อมูลจากกองบัญชาการกองทัพไทยและกองทัพบก🔵 = ข้อมูลจากรัฐบาลไทย📍= สรุปความเสียหาย วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2568  เวลา 07.45 น.  เวลา 08.20 น.  เวลา 09.30 น.  เวลา 09.45 น.  เวลา 10.00 – 10.22 น.  เวลา 10.28 […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : รพ.พนมดงรักฯ เปิดรับบริจาค ช่วยชายแดนไทย-กัมพูชา จริงหรือ ?

ตามที่บนสื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่ข้อมูลโรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เปิดรับบริจาคเงินเพื่อพัฒนาโรงพยาบาล และซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ขาดแคลน นั้น บทสรุป : แชร์ได้ อธิบายเพิ่ม เลขบัญชีที่แชร์กันเป็นของโรงพยาบาลพนมดงรักฯ จริง แต่เป็นข้อมูลเก่าตั้งแต่ช่วงสถานการณ์โควิด-19 เมื่อปี พ.ศ. 2563 FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง : ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า จากโพสต์โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ชี้แจงว่า ทางโรงพยาบาลยังไม่มีการเปิดรับบริจาคโดยเฉพาะสำหรับเหตุการณ์การสู้รบระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา โดยข้อมูลที่แชร์กันเป็นข้อมูลเก่าที่เปิดรับบริจาคในช่วงสถานการณ์โควิด-19 อย่างไรก็ตาม ยังคงสามารถบริจาคทั่วไปเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้ตามปกติ โดยขอความกรุณาตรวจสอบชื่อบัญชีและเลขที่บัญชีให้ถูกต้องทุกครั้งก่อนทำรายการ สำหรับข้อมูลที่แชร์กัน เป็นภาพอินโฟกราฟิกเชิญร่วมบริจาคเงินเพื่อพัฒนาโรงพยาบาลและซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ที่ขาดแคลน ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เมื่อปี พ.ศ. 2563 ทำให้ประชาชนหลายคนอาจเกิดความสับสนและไม่แน่ใจเกี่ยวกับสถานะการบริจาคปัจจุบัน โรงพยาบาลพนมดงรักฯ ยังเปิดรับบริจาคอยู่หรือไม่ ? โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ได้ชี้แจงเพิ่มเติมผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจว่า ปัจจุบันทางโรงพยาบาลยังไม่มีการเปิดรับบริจาคโดยเฉพาะสำหรับเหตุการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา แต่ยังสามารถบริจาคทั่วไปได้ตามปกติ และสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้  ทั้งนี้ ขอให้ระมัดระวังมิจฉาชีพที่อาจแอบอ้างชื่อโรงพยาบาลเพื่อหลอกลวงขอรับบริจาค ก่อนโอนเงินทุกครั้งโปรดตรวจสอบชื่อและเลขที่บัญชีให้ถูกต้อง โดยชื่อบัญชีที่ถูกต้องคือ : โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : Over Sharing แชร์เวอร์ อาจเจอดี !

ปัจจุบัน ‘โซเชียลมีเดีย’ กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการสื่อสาร แบ่งปันข้อมูล และแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี เปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วโลกเชื่อมโยงถึงกันได้อย่างไร้พรมแดน แต่อย่างไรก็ตาม หากเราใช้งานโซเชียลมีเดียอย่างขาดความระมัดระวังหรือใช้มากเกินความพอดี ก็อาจส่งผลเสียตามมาได้ ไม่ว่าจะเป็นการเสพติดโซเชียล การเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป หรือการละเลยความสัมพันธ์และหน้าที่ในชีวิตจริง ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตโดยรวม สิ่งนี้เรียกว่า Over Sharing หรือการโพสต์และแบ่งปันเรื่องส่วนตัวมากเกินไปบนโลกออนไลน์ ที่อาจส่งผลให้เกิด Online Grooming หรือการถูกล่อลวงโดยอาชญากรไซเบอร์ได้ง่ายขึ้น Over Sharing สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับหลัก ๆ คือ แม้การเผยแพร่ข้อมูลบนโลกออนไลน์จะเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่สามารถกระทำได้ แต่หากใช้อย่างไม่เหมาะสมหรือมากเกินไป ก็อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตจริงได้เช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์ หรือ Online Grooming ที่มักจะจับเป้าหมายจากโพสต์ที่แสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึกโดดเดี่ยว อ้างว้าง ซึมเศร้า หรือเหงา โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กและเยาวชน อาชญากรจะแสดงความสนใจ เห็นอกเห็นใจ และเสนอความช่วยเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การให้เงินหรือสิ่งของ ซึ่งอาจกลายเป็นกับดักในการล่อลวงเพื่อการแสวงหาประโยชน์ทางเพศในอนาคตได้ นอกจากนี้ การเผยแพร่ข้อมูลที่มากเกินไปอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ส่วนตัว และสุขภาพจิตได้ รวมถึงส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ เช่น ในระยะสั้น […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : กินทุเรียนพร้อมกาแฟ อันตราย จริงหรือ ?

ตามที่บนสื่อสังคมออนไลน์มีการเผยแพร่คำแนะนำเกี่ยวกับข้อควรระวังในการบริโภคทุเรียน โดยระบุว่า “ทุเรียนไม่ควรรับประทานคู่กับกาแฟ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างรุนแรง จนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้” นั้น บทสรุป : แชร์ได้ อธิบายเพิ่ม “ทุเรียน” เป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตและไขมันสูง ขณะที่กาแฟมีสารที่อาจส่งผลต่อระดับไขมันในเลือด รวมถึงมีกาเฟอีนซึ่งออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของหัวใจ การบริโภคทั้งสองอย่างพร้อมกันอาจทำให้ได้รับพลังงานสูงและกาเฟอีนซึ่งส่งผลต่อผู้ที่มีโรคประจำตัวที่จำเป็นต้องคุมอาหาร เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ อาการของโรคกำเริบ ซึ่งในบางกรณีอาจรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ ตรวจสอบพบว่า ข้อแนะนำที่ว่า “ห้ามรับประทานทุเรียนร่วมกับกาแฟ” เป็นข้อมูลที่มีการส่งต่อและเผยแพร่กันอย่างแพร่หลายในสื่อสังคมออนไลน์ โดยมักปรากฏในรูปแบบของการให้ความรู้ควบคู่กับเรื่องเล่าเชิงอุทาหรณ์เกี่ยวกับอันตรายจากการบริโภคทุเรียนร่วมกับอาหารบางประเภท โดย “การรับประทานทุเรียนกับกาแฟ”  เป็นสิ่งหนึ่งที่ได้รับการแนะนำว่า “ไม่ควรรับประทานคู่กัน” อ้างว่าอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพอย่างรุนแรง ถึงขั้นเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ รวมทั้งยังมีประชาชนสอบถามในประเด็นดังกล่าวเข้ามาที่ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ด้วย ทำไมทุเรียน ห้ามรับประทานคู่กับกาแฟ ?รศ.ดร.รัชนี คงคาฉุยฉาย อาจารย์ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ให้ข้อมูลเกี่ยวกับทุเรียน ในรายการชัวร์ก่อนแชร์ FACTSHEET : 5 ข้อควรรู้ ก่อนกินทุเรียน จริงหรือ ? ว่า […]

ชัวร์ก่อนแชร์ : ทำไมถึงรู้สึกว่ากลางวันยาวกว่ากลางคืน

ใกล้ค่ำแล้ว แต่ทำไมท้องฟ้ายังสว่างอยู่ ? นั่นเป็นเพราะ 21 มิถุนายน 2568 เป็นวันครีษมายัน วันที่ช่วงเวลากลางวันยาวนานที่สุดในรอบปีนั่นเอง วันครีษมายัน คืออะไร ?สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวันครีษมายัน (Summer Solstice) เอาไว้ว่า เป็นวันที่โลกมีช่วงเวลากลางวันยาวนานที่สุด และช่วงเวลากลางคืนสั้นที่สุดในรอบปี เนื่องจากดวงอาทิตย์โคจรไปถึง “จุดหยุด” หรือ “จุดเหนือสุด” บนเส้นทางการเคลื่อนที่ปรากฏบนท้องฟ้า โดยตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม เป็นต้นมา ดวงอาทิตย์ปรากฏเคลื่อนที่ไปทางเหนือประมาณวันละ 1 องศา จนถึงจุดเหนือสุดในวันที่ 21 มิถุนายน ส่งผลให้ดวงอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และตกลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ  ลักษณะดังกล่าว ทำให้ในวันดังกล่าวประเทศไทยจะมีช่วงเวลากลางวันยาวนานที่สุดในรอบปี ดวงอาทิตย์จะขึ้นจากขอบฟ้าเวลาประมาณ 05.51 น. และจะตกลับขอบฟ้า เวลาประมาณ 18.47 น. รวมเวลาที่ดวงอาทิตย์ปรากฏอยู่บนท้องฟ้าประมาณ 12 ชั่วโมง 56 นาที (เวลา ณ กรุงเทพมหานคร) จุดเริ่มต้นของ “ฤดูกาล”ฤดูกาล เกิดจากการที่โลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ ด้วยลักษณะการโคจรแบบวงรี และแกนโลกวางตัวในแนวเอียงจากแนวตั้งฉากกับระนาบวงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ประมาณ […]