หลายสายการบินตรวจสอบสวิตช์เชื้อเพลิงหลังเหตุแอร์อินเดียตก

นิวเดลี 14 ก.ค. – อินเดียสั่งการในวันจันทร์ให้สายการบินในประเทศตรวจสอบสวิตช์เชื้อเพลิงบนเครื่องบินโบอิ้งหลายรุ่น และเกาหลีใต้ก็ได้สั่งดำเนินการในลักษณะเดียวกันเมื่อวันอังคาร ท่ามกลางการตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้นเกี่ยวกับกลไกล็อกสวิตช์เชื้อเพลิง ซึ่งเป็นจุดสำคัญในการสอบสวนสาเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตกที่คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมาก สายการบินบางแห่งเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า ได้ทำการตรวจสอบสวิตช์ที่เกี่ยวข้องมาตั้งแต่ปี 2018 ตามคำแนะนำของสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐ หรือ เอฟเอเอ ซึ่งรวมถึงสายการบินแควนตัส แอร์เวย์ส ของออสเตรเลีย และสายการบินเอเอ็นเอ ของญี่ปุ่น ขณะที่สายการบินอื่นๆ กล่าวว่าได้ทำการตรวจสอบเพิ่มเติมหรือเริ่มการตรวจสอบใหม่นับตั้งแต่มีการเผยแพร่รายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์สเปิดเผยวันนี้ว่า การตรวจสอบเชิงป้องกันบนสวิตช์เชื้อเพลิงของเครื่่องบินโบอิ้งรุ่น 787 ซึ่งรวมถึงเครื่องบินที่ใช้โดยสายการบินสกู๊ต ซึ่งเป็นสายการบินราคาประหยัดในเครือ ยืนยันว่าทุกอย่างทำงานได้อย่างถูกต้อง กระทรวงคมนาคมของเกาหลีใต้กล่าววันนี้ว่า ได้สั่งการให้สายการบินภายในประเทศตรวจสอบสวิตช์ควบคุมเชื้อเพลิงตามคำแนะนำของเอฟเอเอเมื่อปี 2018 สายการบินโคเรียนแอร์ไลน์ ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติของเกาหลีใต้กล่าวว่า ได้เริ่มตรวจสอบสวิตช์ควบคุมเชื้อเพลิงเชิงรุกแล้ว ส่วนสายการบินเจแปนแอร์ไลน์สระบุว่า กำลังดำเนินการตรวจสอบตามคำแนะนำเมื่อปี 2018 การเคลื่อนไหวเชิงป้องกันของอินเดีย เกาหลีใต้ และสายการบินบางแห่งในประเทศอื่นๆ เกิดขึ้น แม้ว่าผู้ผลิตเครื่องบินและสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐจะแจ้งต่อสายการบินและหน่วยงานกำกับดูแลในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า กลไกล็อกสวิตช์เชื้อเพลิงบนเครื่องบินโบอิ้งนั้นปลอดภัย รายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 260 คน พบว่า สวิตช์เชื้อเพลิงได้ถูกเปลี่ยนจากตำแหน่ง เปิดเป็นปิดหลังจากเครื่องบินเพิ่้งขึ้นได้ไม่นาน มีเสียงนักบินคนหนึ่งในเครื่องบันทึกเสียงห้องนักบินถามนักบินอีกคนว่า ทำไมเขาถึงปิดสวิตซ์เชื้อเพลิง แต่นักบินอีกคนตอบว่าเขาไม่ได้ปิดสวิตซ์แต่อย่างใด.-813.-สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียช่วยชีวิตผู้ประสบภัยเรือล่ม

จาการ์ตา 15 ก.ค. – เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียเปิดเผยเมื่อวันนี้ว่า เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยค้นพบผู้สูญหาย 11 รายที่รอดชีวิตจากเหตุเรือล่มกลางทะเล พวกเขาเอาชีวิตรอดจากสภาพอากาศเลวร้ายด้วยการว่ายน้ำนานกว่า 6 ชั่วโมงไปยังเกาะที่ใกล้ที่สุด เจ้าหน้าที่กล่าวว่า เรือสองลำพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายสิบคนออกค้นหาผู้สูญหาย หลังจากเรือที่บรรทุกผู้โดยสาร 18 คนได้พลิกคว่ำนอกชายฝั่งหมู่เกาะเมนตาไว ในจังหวัดสุมาตราตะวันตก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุมีฝนตกหนักมาก ผู้โดยสารบางส่วนสามารถว่ายน้ำและไปถึงเกาะที่ใกล้ที่สุดได้ ก่อนหน้านี้ มีผู้ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 7 ราย ผู้โดยสารที่อยู่บนเรือ 10 คนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นที่กำลังเดินทางไปปฎิบัติภารกิจที่เมืองตูอาเปจัต ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเรือลำดังกล่าวที่ออกเดินทางจากเมืองซิกากับ เมืองเล็กๆ อีกแห่งในหมู่เกาะเมนตาไว หมู่เกาะเมนตาไวประกอบด้วยเกาะหลัก 4 เกาะ และเกาะเล็กๆ อีกจำนวนมาก.-813.-สำนักข่าวไทย

จีนเตือนรับมือคลื่นความร้อนในหลายภูมิภาค

ปักกิ่ง 14 ก.ค. — ศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติจีนคาดการณ์ว่าคลื่นความร้อนระยะยาวจะส่งผลกระทบต่อหลายภูมิภาคทั่วจีนระหว่างวันที่ 14-22 กรกฎาคม ซึ่งบางพื้นที่อาจมีอุณหภูมิใกล้เคียงหรือสูงเกินสถิติสูงสุดที่ผ่านมา จาง โป๋ นักพยากรณ์อากาศประจำศูนย์ฯ เผยว่าภาคเหนือและพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเหลือง-แม่น้ำหวยเหอจะเผชิญคลื่นความร้อนรุนแรงขึ้นตามการแผ่ขยายขึ้นเหนือของความกดอากาศสูงกึ่งเขตร้อน ทำให้หลายพื้นที่มีอุณหภูมิรายวันสูงสุดเกิน 37 องศาเซลเซียส และอากาศร้อนชื้นอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงานว่าคลื่นความร้อนจะยังคงแผ่ขยายวงกว้างในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า โดยความครอบคลุมและความรุนแรงมีแนวโน้มแตะระดับสูงสุดในวันที่ 15-16 กรกฎาคม ทำให้หลายมณฑลทั่วจีนประกาศและยกระดับการเตือนภัยอากาศร้อน สำนักอุตุนิยมวิทยามณฑลส่านซีทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนเผยว่าพื้นที่ส่วนใหญ่ของมณฑลส่านซีจะเผชิญคลื่นความร้อนระยะยาวที่กินวงกว้างระหว่างวันที่ 14-19 กรกฎาคม เพราะอิทธิพลจากความกดอากาศสูงภาคพื้นทวีป โดยที่ราบกวนจงจะมีอุณหภูมิสูงติดต่อกัน 6 วัน ซึ่งบางพื้นที่อาจสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส และใกล้เคียงหรือทำลายสถิติเดิม ศูนย์อุตุนิยมวิทยามณฑลเหอหนานตอนกลางของจีนประกาศเตือนภัยอากาศร้อนจัด ระดับสีแดง เมื่อช่วงเที่ยงวันจันทร์ (14 กรกฎาคม) ซึ่งสูงขึ้นจากระดับสีส้มที่ประกาศก่อนหน้า โดยหลายเขตและอำเภอ อาทิ ซินเซียง เจียวจั้ว และเจิ้งโจว อาจมีอุณหภูมิสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาเมืองเฉิงตู มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ประกาศเตือนภัยอากาศร้อน ระดับสีส้ม ตอน 10.00 น. […]

ชี้พรรครัฐบาลญี่ปุ่นอาจสูญเสียเสียงข้างมากในสภาสูง

โตเกียว 15 ก.ค. – ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่เผยแพร่ในวันนี้แสดงให้เห็นว่า พรรคร่วมรัฐบาลของญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะสูญเสียเสียงข้างมากในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อความไม่มั่นคงทางการเมือง ในขณะที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญปัญหาในการบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐ หนังสือพิมพ์อาซาฮีรายงานโดยอ้างอิงจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งว่า พรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ แอลดีพี (LDP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ และพรรคโคเมโตะ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล มีแนวโน้มที่จะประสบปัญหาในการรักษาที่นั่ง 50 ที่นั่งที่จำเป็นเพื่อรักษาสถานะเสียงข้างมากในสภาสูงเอาไว้ ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวจิจิของญี่ปุ่นก็รายงานเช่นกันว่า รัฐบาลผสมกำลังเผชิญความยากลำบากในการหาเสียงเลือกตั้ง และอาจสูญเสียเสียงข้างมากในสภาสูง คะแนนนิยมในรัฐบาลของนายอิชิบะที่ลดลง เนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมถึงราคาข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักของญี่ปุ่นที่พุ่งสูงขึ้น กระทบกับครัวเรือน เดวิด โบลลิ่ง ผู้อำนวยการของบริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงทางการเมือง “ยูเรเชียกรุุ้ป” (Eurasia Group) กล่าวในผลการศึกษาว่า คะแนนนิยมของนายอิชิบะที่ลดลงสะท้อนให้เห็นถึงความไม่พอใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้งต่อสภาพที่เป็นอยู่ โดยเสริมว่าเขามองเห็นโอกาสร้อยละ 60 ที่พรรคร่วมรัฐบาลจะสูญเสียเสียงข้างมากในสภาสูง ความไม่แน่นอนทางการเมืองนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับญี่ปุ่น ซึ่งจะต้องบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐภายในเส้นตายใหม่คือวันที่ 1 สิงหาคม เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเรียกเก็บภาษีร้อยละ 25 หนังสือพิมพ์โยมิอุริรายงานว่า นายอิชิบะกำลังเตรียมการเพื่อพบกับนายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐในวันศุกร์นี้ ใสระหว่างที่เขาเดินทางเยือนญี่ปุ่น และเนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ไม่สดใสและภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อครัวเรือน นายอิชิบะได้ให้คำมั่นว่าจะแจกเงินสดให้เพื่อบรรเทาผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่นายอิชิบะได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องของฝ่ายค้านที่ให้ลดอัตราภาษีการขายของญี่ปุ่น […]

ปธน. ไต้หวันเตรียมเยือนปารากวัยเดือนหน้า

อาซุนซิออง 14 ก.ค. – ประธานาธิบดีซันติอาโก เพนญา ผู้นำปารากวัย กล่าววันจันทร์ว่า ปารากวัยกำลังเตรียมพร้อมต้อนรับประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ของไต้หวันในเดือนหน้า ซึ่งหมายความว่า มีแนวโน้มสูงว่า นายไล่น่าจะต้องแวะพักระหว่างทางในสหรัฐ ซึ่งเป็นจุดที่ละเอียดอ่อนและน่าจะสร้างความไม่พอใจอย่างมากแก่รัฐบาลจีน ปารากวัยเป็นหนึ่งในเพียง 12 ประเทศที่ยังคงมีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับไต้หวัน ซึ่งจีนอ้างสิทธิ์ว่าเป็นส่วนหนึ่งของตน และเป็นประเทศเดียวในอเมริกาใต้ที่ยังคงสถานะนี้ การเยือนอเมริกากลางและอเมริกาใต้ของประธานาธิบดีไต้หวันมักจะรวมถึงการแวะพักในสหรัฐเสมอ เนื่องจากระยะทางที่ห่างไกลจากไต้หวัน แต่บ่อยครั้งที่การแวะพักเหล่านี้กลายเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของการเดินทาง เนื่องจากสหรัฐเป็นผู้สนับสนุนและจัดหาอาวุธรายใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ทำเนียบประธานาธิบดีไต้หวันปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า ตามธรรมเนียมปฎิบัติเช่นเดียวกับในอดีตทีผ่านมา หากมีการประกาศใดๆ ก็จะดำเนินการ “ตามความเหมาะสม” โดยปกติแล้ว ไต้หวันจะยืนยันการเดินทางดังกล่าวเพียงไม่นานก่อนที่จะเกิดขึ้นจริง นายไล่ยังไม่เคยเดินทางไปสหรัฐนับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งสมัยที่สองเมื่อต้นปีนี้ โดยเมื่อปลายปีที่แล้วคุณไล่ได้แวะพักที่เกาะฮาวายและเกาะกวมที่เป็นดินแดนของสหรัฐ ระหว่างการเยือนปนระเทศในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก ส่วนกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ยังไม่ได้ตอบกลับคำขอแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ผู้นำไต้หวันจะแวะพักที่สหรัฐในเดือนหน้า.-813.-สำนักข่าวไทย

เรือล่มนอกชายฝั่งเกาะเมนตาไวของอินโดนีเซีย สูญหาย 11 ราย

จาการ์ตา 15 ก.ค. – หน่วยกู้ภัยของอินโดนีเซียกำลังเร่งค้นหาผู้สูญหาย 11 ราย หลังเกิดเหตุเรือล่มจากสภาพอากาศเลวร้ายนอกชายฝั่งหมู่เกาะเมนตาไว จังหวัดสุมาตราตะวันตก แถลงการณ์จากหน่วยกู้ภัยระบุว่า มีผู้ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 7 ราย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ เวลาประมาณ 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 11.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ในจำนวนผู้โดยสารทั้งหมด 18 คนบนเรือ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นถึง 10 คน เรือลำดังกล่าวได้ออกเดินทางจากเมืองซิกากับ ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ในหมู่เกาะเมนตาไว และกำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองตูอาเปจัต ในวันนี้ มีเรือสองลำและเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายสิบคนถูกส่งออกไปเพื่อค้นหาผู้สูญหาย เรือและเรือเฟอร์รี่ข้ามฟากเป็นรูปแบบการเดินทางหลักในอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศหมู่เกาะที่มีเกาะมากกว่า 17,000 เกาะ และอุบัติเหตุทางเรือก็เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้าย รวมถึงมาตรฐานความปลอดภัยที่หย่อนยาน ซึ่งมักทำให้เรือบรรทุกเกินพิกัดอยู่เสมอ เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ก็มีเหตุเรือเฟอร์รี่อับปางใกล้เกาะบาหลี โดยมีผู้โดยสาร 65 คนบนเรือ เสียชีวิต 18 ราย รอดชีวิต 30 ราย และยังคงสูญหาย 17 […]

‘ทรัมป์’ จะส่งอาวุธให้นาโตเพื่อสนับสนุนยูเครน

วอชิงตัน 15 ก.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ได้ประกาศจุดยืนที่แข็งกร้าวมากยิ่งขึ้นต่อรัสเซีย เมื่อวานนี้ ในกรณีสงครามยูเครน โดยให้คำมั่นว่าจะส่งขีปนาวุธและอาวุธอื่นๆ ลอตใหม่ให้ยูเครน และให้เวลา 50 วันแก่รัสเซียในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงกับยูเครน มิฉะนั้นจะเผชิญกับการคว่ำบาตร นายทรัมป์ประกาศเรื่องนี้ระหว่างพบหารือกับนายมาร์ค รุตเตอ เลขาธิการองค์การป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต โดยผู้นำสหรัฐกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขารู้สึกผิดหวังอย่างมากกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย การตัดสินใจของนายทรัมป์ที่จะส่งอาวุธให้ยูเครนถือเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับเขา ซึ่งใช้เวลาในช่วงต้นของการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐในการพยายามเกลี้ยกล่อมนายปูตินให้ทำข้อตกลงหยุดยิงกับยูเครน แต่กลับถูกปฏิเสธทุกครั้ง ภายใต้ข้อตกลงจัดหาอาวุธให้ยูเครนรอบใหม่นี้ นายทรัมป์กล่าวว่าสหรัฐจะจัดหาอาวุธและประเทศสมาชิกนาโตจะเป็นผู้ชำระเงินค่าใช้จ่าย ซึ่งมีระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ “แพทริออท” ที่ยูเครนต้องการรวมอยู่ด้วย นายทรัมป์ยังเตรียมการที่จะกำหนดภาษี 100% สินค้ารัสเซีย และมาตรการคว่ำบาตรประเทศอื่นๆ ที่ซื้อน้ำมันรัสเซียด้วย หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหยุดยิงได้ภายใน 50 วัน นายรุตเตอ กล่าวว่า เยอรมนี ฟินแลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ และแคนาดา ล้วนต้องการเข้าร่วมในการส่งอาวุธให้ยูเครนอีกครั้ง.-813.-สำนักข่าวไทย

ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมเท็กซัสเพิ่มขึ้นเป็น 131 ราย

เท็กซัส 15 ก.ค. – ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุทั่วรัฐเท็กซัส เพิ่มขึ้นเป็น 131 ราย ในวันจันทร์ ขณะที่ทางการเตือนถึงฝนตกหนักระลอกใหม่อีกครั้ง หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ฮิลล์ คันทรี (Hill Country) เมื่อ 10 วันก่อน ซึ่งได้เปลี่ยนแม่น้ำกัวดาลูป (Guadalupe) ให้กลายเป็นกระแสน้ำเชี่ยวกรากที่คร่าชีวิตผู้คน สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติออกประกาศเตือนเฝ้าระวังน้ำท่วม โดยคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกหนักถึง 150 มิลลิเมตร จนถึงเช้าวันอังคาร ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส ตั้งแต่แม่น้ำริโอ แกรนเด (Rio Grande) ไปทางตะวันออกจนถึงเมืองซานแอนโตนิโอ และ ออสติน เครก แอบบอต ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส กล่าววานนี้ว่า พายุได้คร่าชีวิตผู้คนในเท็กซัส ไปอย่างน้อย 131 ราย นับตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม โดยส่วนใหญ่เสียชีวิตในและรอบๆ เคอร์วิลล์ (Kerrville) ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 120 ราย ที่รายงานเมื่อวันศุกร์ เขากล่าวว่ายังมีผู้สูญหายอีก 97 ราย ในพื้นที่โดยรอบ […]

สวนสนามวันชาติฝรั่งเศส

ปารีส 15 ก.ค. – ฝรั่งเศสจัดพิธีสวนสนามประจำปี เนื่องในวันชาติ 14 กรกฎาคม อย่างยิ่งใหญ่ โดยมีประธานาธิบดีฝรั่งเศส และผู้นำต่างชาติ เข้าร่วม ทหารกองทัพฝรั่งเศส ทำพิธีสวนสนามไปตามถนนเซลิเซในกรุงปารีส เมื่อวานนี้ พร้อมกับเครื่องบินที่แสดงการบินผาดแผลงบนท้องฟ้าเหนือประตูชัย เพื่อเฉลิมฉลองวันชาติฝรั่งเศส หรือวันบัสตีย์ ตรงกับวันที่ 14 กรกฎาคมของทุกปี ซึ่งเป็นการสวนสนามประจำปีที่เก่าแก่ที่สุดและมีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยมีประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ภริยา สมาชิกในรัฐบาล เข้าร่วมพิธี พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติ ซึ่งรวมถึงผู้นำจากหลายประเทศ และคณะทูตต่างชาติ เข้าร่วมเป็นสักขีพยานรับชมขบวนสวนสนาม อันประกอบด้วยเครื่องบินเจ็ตจากกองทัพอากาศฝรั่งเศส ยานยนต์หุ้มเกราะ กองทหารจากกองทัพบก นาวิกโยธิน กองกำลังรักษาความปลอดภัยพลเรือน รวมถึงสุนัขกู้ภัย ทหารม้า และตำรวจ สำหรับวันบัสตีย์ เป็นวันรำลึกถึงการทำลายคุกบัสตีย์ในกรุงปารีส ในปี พ.ศ. 2332 ซึ่งถือเป็นวันสำคัญของการปฏิวัติฝรั่งเศส.-815.-สำนักข่าวไทย

สายลับยูเครนถูกลอบสังหาร

เคียฟ 15 ก.ค. – มือปืนนิรนามลอบสังหารเจ้าหน้าที่สายลับหน่วยงานความมั่นคงของยูเครนในกรุงเคียฟ เชื่อเป็นฝีมือของรัสเซีย เว็บไซต์ข่าวในยูเครน เผยแพร่คลิปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงสายวันพฤหัสบดีที่แล้ว ขณะชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สายลับของสำนักงานความมั่นคงยูเครน หรือ เอสบียู (SBU) ก้าวลงบันไดหลังเดินออกจากอาคารที่พักในกรุงเคียฟ เพื่อไปยังลานจอดรถ ทันใดนั้นเองมือปืนที่แอบอยู่ด้านในลานจอดรถก็เดินออกมาจากที่ซ่อนตรงไปหาสายลับคนดังกล่าว ก่อนใช้อาวุธปืนยิงใส่ระยะเผาขนหลายนัด จนเหยื่อกระสุนล้มลง มือปืนซึ่งเป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ยังยิงซ้ำอีกหลายนัด จนแน่ใจว่าเหยื่อกระสุนเสียชีวิตแล้ว ก่อนจะเดินหลบหนีไปอย่างใจเย็น ท่ามกลางความตกใจของผู้เห็นเหตุการณ์ สำนักงานความมั่นคงยูเครนยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตคือ พันเอกอิวาน โวโรนิช เจ้าหน้าที่สายลับประจำสำนักงานความมั่นคงยูเครน สังกัดฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีด้วยโดรนและปฏิบัติการก่อวินาศกรรมต่อหน่วยงานความมั่นคงรัสเซีย เขาถูกมือปืนสังหารอย่างเลือดเย็น จากข้อมูลพบว่ามือปืนได้เฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวของพันเอกโวโรนิชมาพักใหญ่ ก่อนได้โอกาสลงมือปลิดชีพเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของสำนักงานความมั่นคงรัสเซีย หรือ เอฟเอสบี (FSB) ล่าสุดมีรายงานว่าสายลับ 2 คนที่ทำงานให้กับสำนักงานความมั่นคงรัสเซีย ถูกเจ้าหน้าที่ยูเครนยิงเสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากขัดขืนไม่ยอมให้จับกุม เชื่อว่าสายลับทั้งคู่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุลอบสังหารสายลับของยูเครน แต่ไม่แน่ชัดว่าเป็นหนึ่งในมือปืนที่ลงมือก่อเหตุหรือไม่.-815.-สำนักข่าวไทย

‘ทรัมป์’ เตรียมเยือนอังกฤษแบบรัฐพิธีรอบสองกันยายนนี้

ลอนดอน 15 ก.ค. – สำนักพระราชวังบักกิงแฮมออกแถลงการณ์วานนี้ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐตอบรับเรื่องเดินทางเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการแบบรัฐพิธี ระหว่างวันที่ 17-19 กันยายนนี้ การเยือนครั้งนี้เป็นไปตามคำเชิญของสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งจะถือเป็นผู้นำประเทศคนแรกที่ได้รับการเชิญให้เดินทางไปเยือนอังกฤษแบบรัฐพิธีเป็นครั้งที่ 2 โดยสถานที่ต้อนรับจะใช้เป็นพระราชวินด์เซอร์ แทนพระราชวังบักกิงแฮมที่กำลังอยู่ระหว่างบูรณะ นักวิเคราะห์บอกว่าการเชิญทรัมป์เดินทางเยือนอังกฤษแบบรัฐพิธีเป็นครั้งที่ 2 นั้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระดับสูง หรือมีเหตุผลทางการทูตพิเศษบางอย่าง.-815.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเล็งเดินหน้าใช้กฎหมายบังคับเกณฑ์ทหาร

กัมปงชนัง 14 ก.ค. — นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา เปิดเผยว่ากัมพูชาจะเริ่มบังคับใช้กฎหมายการเกณฑ์ทหารภาคบังคับอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี 2026 เพื่อเสริมสร้างกำลังทหารของประเทศ หลังจากมีการประกาศกฎหมายดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2006 แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยบังคับใช้อย่างจริงจัง สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า นายฮุน มาเนต กล่าวระหว่างพิธีฉลองวาระครบรอบ 32 ปี การก่อตั้งหน่วยงานตำรวจทหารแห่งชาติกัมพูชา ที่จังหวัดกัมปงชนังทางตอนกลางของกัมพูชาว่า กฎหมายข้างต้นจะช่วยเพิ่มจำนวนทหาร และเสริมความเข้มแข็งให้กับกองทัพของกัมพูชา โดยกฎหมายนี้ระบุว่าชายชาวกัมพูชาทุกคนที่มีอายุระหว่าง 18-30 ปี ต้องสมัครและเข้ารับการฝึกทหารเป็นระยะเวลา 18 เดือน อย่างไรก็ดี ฮุน มาเนต เสริมว่าระยะเวลาการฝึกภาคบังคับนี้อาจขยายเพิ่มจาก 18 เดือนเป็น 24 เดือน.-813.-สำนักข่าวไทย

1 15 16 17 18 19 669