“สุริยะ” ผนึกกำลังทุกสายการบินเพิ่มที่นั่งรองรับคนไทยกลับประเทศ

กรุงเทพฯ 24 ก.ค. – “สุริยะ” ผนึกกำลังทุกสายการบินสัญชาติไทย เพิ่มที่นั่งรองรับคนไทยกลับประเทศ พร้อมสั่งทุกหน่วยเตรียมพร้อม 24 ชั่วโมง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภายในวันนี้ (24 กรกฎาคม 2568) ได้มอบหมายให้นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงคมนาคมและโฆษกกระทรวงคมนาคม และพลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) พร้อมด้วยสายการบินพาณิชย์สัญชาติไทย ทั้ง 7 สายการบิน เข้าประชุมหารือกับกระทรวงการต่างประเทศ ถึงแผนการรองรับการเดินทางของคนไทยในกัมพูชา ที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศไทย ผลจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งนี้ ทุกสายการบินสัญชาติไทย ทั้ง 7 สายการบิน พร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ โดยขณะนี้มี 4 สายการบิน ที่ทำการบินในเส้นทางกรุงเทพฯ-กัมพูชา อยู่แล้ว ได้แก่ การบินไทย ให้บริการ 16 เที่ยวบิน/สัปดาห์ จำนวน 180 ที่นั่งต่อเที่ยวบิน, ไทยแอร์เอเชีย […]

“มาริษ” ย้ำจุดยืนแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา ด้วยสันติวิธี

กระทรวงการต่างประเทศ 24 ก.ค. – “มาริษ” ย้ำจุดยืนแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา ด้วยสันติวิธี ยื่นประท้วงยูเอ็นและภาคีอนุสัญญาออตตาวา หลังพบการละเมิดบูรณภาพดินแดน ชี้เขมรบิดเบือนกับประเทศที่สาม อ้างไทยไม่ยอมเจรจา ขณะที่ “กต.-คมนาคม-เอกชน” พร้อมอพยพคนไทยกลับ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงระหว่างการปฏิบัติภารกิจเข้าร่วมประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ผ่าน VDO Conference เพื่อเป็นประธานเปิดการประชุมเกี่ยวกับแผนการช่วยเหลือคนไทยในกัมพูชา โดยระบุว่า ตนเองได้ใช้โอกาสในการประชุมหารือและชี้แจงกับผู้นำระดับสูงหลายประเทศ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งขณะนี้มีความตึงเครียดจากกรณีการโจมตีอย่างต่อเนื่องของกองทัพกัมพูชาในเขตฝั่งไทย และการใช้กับระเบิดละเมิดอำนาจอธิปไตยของไทย พร้อมเปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ซึ่งมีปากีสถานเป็นประธานหมุนเวียนในครั้งนี้ โดยได้กล่าวถ้อยแถลงในนามรัฐบาลไทย ย้ำจุดยืนสนับสนุนการแก้ไขข้อขัดแย้งระหว่างประเทศผ่านการเจรจาทวิภาคีอย่างสันติและด้วยความจริงใจ (in good faith) พร้อมยืนยันว่าไทยยังคงยึดมั่นในหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และปฏิบัติตามกฎบัตรสหประชาชาติอย่างเคร่งครัดในการป้องกันตนเองจากการรุกราน นายมาริษ กล่าวว่า ในการหารือทวิภาคีกับผู้แทนระดับสูงจากหลายประเทศ ได้พบกับ รมว.กต.ปากีสถาน เลขาธิการสหประชาชาติ และรัฐมนตรีจากประเทศสมาชิกอื่นๆ รวมถึงรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประธานภาคีอนุสัญญาออตตาวาในปีนี้ โดยฝ่ายไทยได้ยื่นหนังสือประท้วงและชี้แจงเหตุการณ์ละเมิดจากกัมพูชาอย่างเป็นทางการ พร้อมระบุว่าการที่กัมพูชาใช้กับระเบิดในพื้นที่เขตแดนไทย ซึ่งส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ถือเป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา […]

โฆษก ทบ.ยันไทยไม่ได้มีเจตนาหรือแรงจูงใจโจมตีกัมพูชา

24 ก.ค. – โฆษกกองทัพบก แถลงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันไทยไม่ได้มีเจตนาหรือแรงจูงใจใดๆ ต้องโจมตีฝ่ายกัมพูชาเลย เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไร และไม่มีเหตุผลต้องทำเช่นนั้น ถ้าไม่เป็นไปด้วยความจำเป็นจริงตามแนวทางที่ถูกบีบบังคับอันเนื่องมาจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กองทัพบกยืนยันไทยไม่มีเจตนาหรือแรงจูงใจใดๆ ที่จะต้องไปโจมตีกัมพูชาเลย ไม่ได้ประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้ และไม่มีเหตุผลที่เราจะทำเช่นนั้น ถ้าไม่เป็นไปด้วยความจำเป็นจริงตามแนวทางที่ถูกบีบบังคับอันเนื่องมาจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กองทัพบกดำเนินการภายใต้ความชอบธรรมตามกฎหมายระหว่างประเทศที่สามารถใช้กำลังได้ ซึ่งเป็นไปตามกฎบัตรสหประชาชาติ ข้อ 51 โดยสามารถใช้กำลังป้องกันตัวเองจากการถูกโจมตีด้วยอาวุธก่อน จากฝ่ายกัมพูชา ในลักษณะเพื่อป้องกันตัวเอง โดยจะทำลายเฉพาะเป้าหมายทางทหาร (military objective) เท่านั้น เหตุของการปฏิบัติการทางทหารต่อกันในครั้งนี้มีเหตุมาจากผู้นำฝ่ายกัมพูชา อาจต้องให้ระดับฝ่ายบริหารของกัมพูชาและไทยได้เจรจากัน ร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในการหาแนวทางสันติวิธี เริ่มจากการแก้ที่ต้นเหตุทั้งทางตรงและทางอ้อม มั่นใจว่าประชาชนทั้งสองประเทศไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาขัดแย้งกัน หรือสมควรต้องมาได้รับผลกระทบใดๆ จากเหตุการณ์โดยไม่จำเป็น.-313-สำนักข่าวไทย

กรมสุขภาพจิตเตือนประชาชนติดตามข่าวสารอย่างมีสติ

24 ก.ค. – กรมสุขภาพจิตเตือนประชาชน “ติดตามข่าวสารอย่างมีสติ” แนะเลือกแหล่งข้อมูลน่าเชื่อถือ หมั่นสังเกตสุขภาพใจตนเองและคนรอบข้าง จากสถานการณ์ความไม่สงบที่ชายแดน ส่งผลให้ประชาชนเกิดความสนใจและยังติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสร้างความวิตกแก่ประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ กรมสุขภาพจิตเร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเดินหน้าลงพื้นที่ตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในการดูแลจิตใจประชาชน โดยขอความร่วมมือประชาชนติดตามข่าวสารจากสถานการณ์ต่างๆ อย่างมีสติ และไม่ตื่นตระหนก พร้อมแนะนำให้เลือกแหล่งข้อมูลจากหน่วยงานราชการหรือสื่อที่น่าเชื่อถือ เพื่อป้องกันความเครียด วิตกกังวล และผลกระทบต่อสุขภาพจิต นายแพทย์ กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า สถานการณ์ข่าวสารเหตุการณ์ความไม่สงบ หรือสถานการณ์รุนแรงดังกล่าว มีผลต่อสังคมที่กระทบจิตใจอย่างมาก ประชาชนควรมีสติในการรับข่าวสาร และพิจารณาข้อมูลอย่างรอบด้าน ทั้งนี้ ขอให้ติดตามข่าวสารสถานการณ์จากเพจกองทัพบก แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ หรือหน่วยงานด้านความมั่นคง เป็นหลัก โดยงดเว้นการเผยแพร่ข้อมูลที่อาจสร้างความสับสนภายในประเทศ เพื่อป้องกันความตื่นตระหนกและการกระจายข่าวลวงในสังคม การรับข่าวสารตลอดเวลาโดยไม่กรอง อาจส่งผลให้เกิดความเครียด สับสน วิตกกังวล หรือหมดหวังได้โดยไม่รู้ตัว พร้อมกันนี้ขอแนะนำให้ประชาชนสังเกตอารมณ์และพฤติกรรมของตนเอง หากรู้สึกเครียด นอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย หรือมีอารมณ์เศร้า ควรพักจากการติดตามข่าว และหากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 1-2 สัปดาห์ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต นายแพทย์ กิตติศักดิ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต […]

“มาริษ” แจง UN ไทยถูกกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อน

ทำเนียบฯ 24 ก.ค. – “มาริษ” รมว.ต่างประเทศ ประชุมอยู่ที่สหประชาชาติ ระบุจะใช้เวลาชี้แจงความเข้าใจสมาชิก UN ว่าไทยถูกเปิดฉากยิงก่อน และถูกละเมิดอธิปไตย พร้อมทั้งกัมพูชาละเมิดหลักการ มุ่งโจมตีพื้นที่ของพลเรือนและโรงพยาบาลของไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการ ศบ.ทก. เปิดเผยว่า เมื่อวันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม 2568 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้นำคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมเวทีหารือทางการเมืองระดับสูงว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี ค.ศ. 2025 (High-Level Political Forum on Sustainable Development 2025 : HLPF2025) ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ (UN) นครนิวยอร์ก โดยการประชุม HLPF2025 เป็นเวทีสำคัญประจำปีของ UN ที่มุ่งติดตามและเร่งรัดการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. 2030 และเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่รัฐมนตรีต่างประเทศของไทยที่ขณะนี้ได้อยู่ในเวทีสหประชาชาติในห้วงที่เกิดความตึงเครียดระหว่างไทย-กัมพูชา นายจิรายุ กล่าวว่าวันนี้ เวลา […]

“ภูมิธรรม” มอบอำนาจกองทัพดูแลเหตุการณ์ชายแดน-รมว.กต.คุยยูเอ็นแล้ว

ทำเนียบฯ 24 ก.ค. – “ภูมิธรรม” เผยประชุมสภาความมั่นคง และ ครม.วาระพิเศษ แก้ไขสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันกัมพูชายั่วยุเปิดฉากยิงก่อน เป้าหมายไม่ชัดเจน ทำให้พลเรือนเสียชีวิต 10 ราย ทหาร 1 นาย มอบจังหวัดดูแลประชาชนอพยพห่างชายแดน 50 กิโลเมตร ยังไม่คุยกัมพูชา จนกว่าสถานการณ์จะยุติ ระบุไม่มีประกาศสงคราม แต่มอบอำนาจกองทัพตัดสินใจดูแลเหตุการณ์ ก่อนรายงานรัฐบาล แต่ย้ำต้องอยู่ภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ ไม่จำเป็นดึงต่างประเทศเป็นตัวกลางเจรจา พร้อมเผย “มาริษ“ คุยยูเอ็นแล้ว ย้ำปฏิบัติการทางทหารจะยุติเร็วที่สุด นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ วาระพิเศษ ที่มีคณะรัฐมนตรี ตัวแทนเหล่าทัพ เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง ว่าเนื่องจากเกิดเหตุการณ์ปะทะกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะเดียวกันยังเป็นการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษไปด้วย โดยเชิญเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเข้าร่วม ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ดังนั้น จึงเป็นการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาตินัดพิเศษ และคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษด้วย เพราะหลายเรื่องจำเป็นต้องใช้มติคณะรัฐมนตรีในการดำเนินการ พร้อมระบุว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์ปะทะกัน เท่าที่รับรายงานจากหน่วยทหารที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่ากัมพูชาได้ยิงเข้ามาและเปิดฉากใส่ทหารไทยก่อน จนนำไปสู่เหตุการณ์บานปลาย จนถึงเวลานี้มีการใช้อาวุธหนัก แต่สิ่งสำคัญคือการยิงของกัมพูชาใช้อาวุธหนัก […]

สมช.ประณามกัมพูชา ย้ำยังไม่ใช่ภาวะสงคราม

24 ก.ค. – สมช. ประณามการกระทำของกัมพูชา ใช้อาวุธหนักยิงเข้ามาฝั่งไทย โดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ พร้อมย้ำขณะนี้เป็นเพียงการปะทะกัน ยังไม่ใช่ภาวะสงคราม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) วันนี้เป็นนัดพิเศษ และเป็นการประชุม ครม.ด้วย โดยได้รับรายงานการปะทะที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าเป็นการยิงเข้ามาจากทางกัมพูชา และมีการใช้อาวุธหนักยิงเข้ามาในเขตแดนประเทศไทย โดยไม่มีเป้าหมายชัดเจน ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 11 คน เป็นพลเรือน 10 คน ทหาร 1 นาย และบาดเจ็บ 28 คน จึงขอประณามการกระทำของกัมพูชาที่ใช้กำลังโดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ขณะที่อาวุธหนักบางลูกยิงเข้ามาที่ปั๊มน้ำมัน ซึ่งห่างชายแดนเพียง 3 กิโลเมตร ถือเป็นการใช้กำลังโดยไม่ยึดกฎหมายระหว่างประเทศ ยืนยันไม่ใช่ภาวะสงคราม เป็นเพียงการปะทะกันเท่านั้น และย้ำว่าไทยใช้สันติวิธี ไม่ประสงค์ใช้ความรุนแรง แต่เป็นการยั่วยุ จึงต้องป้องกันตนเองและประเทศชาติ ซึ่งไทยไม่ยอมให้มีการละเมิดอธิปไตย ทั้งนี้ ได้เตรียมการป้องกันและปกป้องอธิปไตยอย่างเต็มที่ โดยใช้มาตรการต่างๆ และอำนาจทางการทหารอย่างเหมาะสม ซึ่งหากฉุกเฉินทหารสามารถปฏิบัติการได้ทันที โดยให้ยึดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ […]

จรวด BM21 ตกใส่บ้านประชาชน อ.กันทรลักษ์ พังยับ ไม่มีผู้บาดเจ็บ

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – จรวด BM21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชน หมู่ 5 ต.เมือง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พังเสียหายทั้งหลัง แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ โชคดีอพยพทัน ขณะที่ฝ่ายปกครองสั่งกำนันและผู้ใหญ่บ้าน แจ้งเตือนประชาชนรีบอพยพออกจากพื้นที่ทันที เพื่อความปลอดภัย เมื่อเวลา 14.50 น. วันนี้ (24 ก.ค.) จรวด BM21 พุ่งตกใส่บ้านเรือนประชาชนพื้นที่หมู่ 5 ต.เมือง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ สร้างความเสียหายรุนแรง บ้านพังเสียหายทั้งหลัง โดยบ้านที่ได้รับความเสียหายคือบ้านของนายนารี ผาแก้ว จากการสอบถามเบื้องต้น ลูกเขยของเจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ในบ้าน เนื่องจากครอบครัวอพยพออกจากพื้นที่ไปก่อนแล้ว ในหมู่บ้านอพยพออกไปเกือบหมดแล้ว ถือว่าโชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. ที่เกิดเหตุไปก่อนหน้านี้ประมาณ 1.5 กิโลเมตร ขณะนี้ฝ่ายปกครองมีคำสั่ง “ด่วนที่สุด” ให้กำนันและผู้ใหญ่บ้าน ประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่มีบ้านเรือนรอบพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจฯ และ ตชด.224 ให้รีบอพยพออกจากพื้นที่ทันที เพื่อความปลอดภัย […]

อพยพผู้ป่วยติดเตียง 50 คน ไปยังที่ปลอดภัย

อุบลราชธานี 24 ก.ค. – ผู้ป่วยติดเตียงกว่า 50 คน เดินทางจาก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี มาถึงจุดปลอดภัยบริเวณโรงพยาบาลสนาม อ.เดชอุดม เรียบร้อยแล้ว โดยมีทีมแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา (24 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งให้ดำเนินการจัดทำโรงพยาบาลสนามฉุกเฉินตามคำสั่งของนายอำเภอ ซึ่งเป็นแผนอพยพผู้ที่อยู่ติดแนวชายแดนให้เคลื่อนย้ายเข้ามาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ซึ่งโรงเรียนบ้านแขมเจริญ อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี ถูกจัดให้เป็นโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยติดเตียง โดยมีทีมแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด อีกทั้งมีนักเรียนจิตอาสาช่วยดูแลเบื้องต้น โดยมีเตียงสนามจำนวน 50 เตียง และคาดว่าต้องเพิ่มปริมาณขึ้นอีก เนื่องจากขณะนี้ผู้ป่วยติดเตียงกำลังเดินทางมาเพิ่มอีก ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงมีญาติคอยประกบอยู่ไม่ห่าง.-สำนักข่าวไทย

สมช.ถกด่วนติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

24 ก.ค. – “ภูมิธรรม” เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติวาระด่วน ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และรับฟังรายงานสถานการณ์ล่าสุดและกำหนดท่าที นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หลังเกิดเหตุปะทะกันที่ชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณปราสาทตาเมือนธม เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์ล่าสุดและกำหนดท่าที รวมทั้งเตรียมการแถลงผลการประชุมให้ได้รับทราบ ประกอบกับก่อนหน้านี้ ศก.ทบ. มีความจำเป็นต้องปิดด่านในจุดต่างๆ เพื่อปกป้องอธิปไตยและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นมาตรการตามขั้นตอน จากขั้น 1-2 ที่ผ่านมา จนขณะนี้มาถึงขั้นที่ 4 สำหรับสถานการณ์การประทะระหว่างกำลังทั้ง 2 ฝ่ายที่เกิดขึ้นในขณะนี้ และกัมพูชาเป็นฝ่ายริเริ่ม ขอให้มั่นใจว่ากระทรวงการต่างประเทศจะดำเนินการเพื่อปกป้องผลประโยชน์ท่าทีและอธิปไตยของไทยในเวทีระหว่างประเทศอย่างเต็มที่และดีที่สุด ยืนยันว่าพร้อมทำงานอย่างมีเอกภาพ รวมทั้งท่าทีต่อสถานการณ์ล่าสุด และความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา ขณะที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ยกเลิกภารกิจที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โพสต์ประณามกัมพูชาต่อการใช้ความรุนแรงที่เกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย ถือว่าเป็นการละเมิดหลักปฏิบัติสากลตามกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักสิทธิมนุษชนและจริยธรรมอันดีอย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่และประชาชนผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฝ่ายไทยพยายามอย่างเต็มที่ผ่านการเจรจาพูดคุยตามหลักปฏิบัติทางการทูต เพื่อป้องกันไม่ให้สถานการณ์บานปลาย หลีกเลี่ยงการปะทะและความสูญเสีย ด้วยความอดทน อดกลั้น และยึดมั่นในแนวทางสันติวิธีมาโดยตลอด ทั้งนี้ ขอสนับสนุนทุกมาตรการตอบโต้ของรัฐบาล กองทัพ และกระทรวงการต่างประเทศ ภายใต้กรอบของกฎหมายและหลักการสากล พร้อมส่งกำลังใจไปยังเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องเอกราชและอธิปไตยของชาติ […]

อพยพประชาชนแนวชายแดนเข้าตัวเมืองสุรินทร์

สุรินทร์ 24 ก.ค. – อพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวเมืองสุรินทร์แล้ว โดยจุคนได้กว่า 140,000 คน อยู่ห่างจากแนวชายแดนกว่า 50 กม. คืบหน้าสถานการณ์ชายแดน จ.สุรินทร์ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบ 4 อำเภอ คือ พนมดงรัก, กาบเชิง, สังขะ และ อ.บัวเชด มีราษฎรได้รับผลกระทบ 22 ตำบล 287 หมู่บ้าน ซึ่งทางการอพยพประชาชนไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราวแล้ว โดยจุคนได้กว่า 140,000 คน และอยู่ชั้นในห่างจากแนวชายแดนกว่า 50 กิโลเมตร รวมถึงผู้ที่ตกค้างในหลุมหลบภัย ล่าสุดมีการอพยพชาวบ้านทั้งหมดย้ายเข้าไปอยู่ในตัวเมืองสุรินทร์แล้ว เนื่องจากไม่ปลอดภัยจากวิถีกระสุน ส่วนที่คลังเลือดโรงพยาบาล ขยายเวลาการรับบริจาคโลหิตไปจนถึงเวลา 22.00 น. เพื่อรองรับสถานการณ์ชายแดน ด้านกระทรวงมหาดไทย ยืนยันมีความพร้อมอพยพประชาชน โดยมีการประสานผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวชายแดนตั้งแต่ช่วงเช้า พร้อมชี้แจงเหตุชาวบ้านเสียชีวิตไม่ใช่ความล่าช้า แต่อยู่ระหว่างขนคนออกจากพื้นที่เสี่ยง.-สำนักข่าวไทย

1 19 20 21 22 23 1,326