กกต. 10 ส.ค. – กกต. พร้อมสมัครรับเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 7 เชียงราย ระหว่างวันที่ 13-17 สิงหาคมนี้ ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย เตือนตรวจสอบให้ดีก่อนสมัคร หากขาดคุณสมบัติแล้วยังมาสมัครมีโทษ
สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เผยความพร้อมการสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขตเลือกตั้งที่ 7 จังหวัดเชียงราย แทนตำแหน่งที่ว่าง ภายหลังจากที่มีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งเขตเลือกตั้งที่ 7 ประกอบด้วย อำเภอแม่จัน (เฉพาะตำบลจันจว้า และตำบลจันจว้าใต้) อำเภอเชียงแสน อำเภอดอยหลวง อำเภอเชียงของ (เฉพาะตำบลครึ่ง ตำบลศรีดอนชัย ตำบลริมโขง ตำบลเวียง ตำบลสถาน และตำบลห้างห้วยซ้อ) และอำเภอเวียงแก่น ในวันอาทิตย์ที่ 14 กันยายนนี้
สำนักงาน กกต. ประกาศให้ผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือกตั้ง ยื่นใบสมัครรับเลือกตั้ง พร้อมทั้งหลักฐาน ได้ตั้งแต่วันพุธที่ 13 สิงหาคม ถึงวันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม เวลา 08.30-16.30 น. ที่หอประชุมที่ว่าการอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยผู้ประสงค์จะสมัครต้องนำหลักฐานประกอบการยื่นใบสมัคร สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ใบรับรองแพทย์ หนังสือรับรองการส่งผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้งของหัวหน้าพรรคการเมือง ซึ่งต้องมีคำรับรองด้วยว่าได้ดำเนินการถูกต้องครบถ้วนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองแล้ว ตามแบบ ส.ส. 4/8 หลักฐานแสดงการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของปีภาษี 2565 ปีภาษี 2566 และปีภาษี 2567 ของผู้สมัคร เว้นแต่เป็นผู้ไม่ได้เสียภาษีเงินได้ ให้ทำหนังสือยืนยันการไม่ได้เสียภาษี พร้อมทั้งสาเหตุแห่งการไม่ได้เสียภาษี ตามแบบ ส.ส. 4/7 รูปถ่ายหน้าตรงไม่สวมหมวกและไม่สวมแว่นตาดำ เงินค่าธรรมเนียมการสมัครคนละ 10,000 บาท เอกสารสรุปย่อประวัติของผู้สมัครรับเลือกตั้ง และสำเนาหลักฐานอื่นที่ผู้สมัครนำมาแสดงตน ว่าเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนและไม่มีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง
ทั้งนี้ ผู้สมัครรับเลือกตั้งต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามที่กฎหมายกำหนด โดยตามมาตรา 151 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. และที่แก้ไขเพิ่มเติม บัญญัติว่าผู้ใดรู้อยู่แล้วว่าตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเนื่องจากขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส. ได้สมัครรับเลือกตั้งหรือทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี. 314-สำนักข่าวไทย