ดีป้าแจกคูปองดิจิทัลหนุนเอสเอ็มอีใช้ไอทีปรับธุรกิจ

กรุงเทพฯ 5 ส.ค.  ดีป้าสนับสนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลยกระดับผู้ประกอบเอสเอ็มอี ร้านค้า เกษตรกร วิสาหกิจชุมชนบริหารจัดการองค์กร-เพิ่มยอดขาย-ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า กล่าวว่า ดีป้าส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ร้านค้า หาบเร่ แผงลอย เกษตรกร รวมถึงวิสาหกิจชุมชนสามารถยกระดับการบริหารจัดการกระบวนการผลิตด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยให้คูปองดิจิทัลเพื่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล (depa mini Transformation Voucher) โดยร่วมมือกับ เครือข่ายดิจิทัลสตาร์ทอัพ และผู้ประกอบการดิจิทัล (ดิจิทัลโพรไวเดอร์) ในโครงการที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานฯ เพื่อให้เกิดการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ใช้บริการกับผู้ให้บริการ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเกิดความมั่นใจในการได้รับเทคโนโลยีดิจิทัลที่ได้มาตรฐานและเหมาะสมกับบริบทของตนเองโดยมาตรการดังกล่าวได้ดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลแล้วกว่า3,000 ราย ทั้งนี้ล่าสุดที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการส่งเสริมและสนับสนุน มีมติเห็นชอบโครงการส่งเสริมและสนับสนุนผ่านมาตรการคูปองดิจิทัลเพื่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล เพิ่มจำนวน 2 โครงการจาก 2 หน่วยงานร่วมดำเนินงาน เพื่อตอบสนองภารกิจที่กล่าวมาเบื้องต้น ประกอบด้วย โครงการส่งเสริมและสนับสนุนผ่านมาตรการคูปองดิจิทัลเพื่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ในพื้นที่ภาคตะวันออก จำนวน 240 คูปอง โดย หอการค้าจังหวัดจันทบุรี โดยดำเนินการต่อเนื่องในจังหวัดฉะเชิงทรา หลังได้รับการอนุมัติดำเนินงานในโครงการดังกล่าวแล้วในพื้นที่จังหวัดระยองจันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ภาคการค้าและการบริการรวมถึงเกษตรกรในพื้นที่ นายณัฐพล กล่าวอีกว่า โครงการส่งเสริมและสนับสนุนผ่านมาตรการคูปองดิจิทัลเพื่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล จำนวน 400 ราย โดย สมาคมโรงสีข้าวสุพรรณบุรี มีเป้าหมายเพื่อให้ผู้ประกอบการเกษตร และเกษตรกรทั่วประเทศเกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการประกอบอาชีพ และพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) และเป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนสู่ธุรกิจดิจิทัลอย่างมีแบบแผน ทั้งนี้ดีป้าพร้อมส่งเสริมและสนับสนุนให้กลุ่มเป้าหมายประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลจากผู้ให้บริการดิจิทัลในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นระบบบริหารจัดการลูกค้า (CRM) ระบบบริหารจัดการร้าน (ERP) ระบบบัญชี การเงิน (ACC) ระบบบริหารจัดการบุคคล(HRM) ระบบขายหน้าร้าน (POS) ระบบจัดการการขายออนไลน์ (E-commerce) ระบบขนส่ง (Logistic) ระบบบริหารจัดการฟาร์ม (Smart Farming) และระบบบริหารจัดการการจอง (Booking Engine) รวมถึงแพลตฟอร์มการท่องเที่ยว (Digital Tourism Platform) สำหรับวิสาหกิจชุมชน ซึ่ง ดีป้า มุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เทคโนโลยีเหล่านี้จะเข้ามามีส่วนช่วยในการบริหารจัดการภายในองค์กร เพิ่มยอดขาย สร้างช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านระบบออนไลน์ และสนับสนุนระบบอีคอมเมิร์ซให้กับผู้ใช้บริการในยุคประเทศไทย 4.0-สำนักข่าวไทย.

เชื่อคณะกรรมการตรวจสอบคดี “บอส” ต้องมีทางออก

ทำเนียบฯ 5 ส.ค.-“วิชา” เชื่อการตั้งคณะกรรมการชุดนี้มาตรวจสอบคดี “บอส”ต้องมีทางออกและข้อเสนอแนะ เผยอาจต้องทำงานวันหยุด เพื่อให้ทันตามกรอบเวลา 30 วัน ไม่ขอชี้ถูก-ผิดการทำหน้าที่ของอัยการ นายวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญานายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ทายาทธุรกิจเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถยนต์ชนตำรวจเสียชีวิต กล่าวก่อนการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 2 ถึงกรณีที่อัยการสูงสุดแถลงผลสอบคดี โดยสั่งให้สอบสวนคดีเพิ่มเติมในประเด็นความเร็วของรถและสารโคเคน ว่า คณะกรรมการตรวจสอบแต่ละชุด ทำหน้าที่กันไป แต่คณะที่ตนเป็นประธานจะพิจารณาภาพรวมทั้งหมดว่ามีความเกี่ยวข้องอย่างไร และจะนำในส่วนของอัยการมาประกอบการพิจารณาด้วย ซึ่งขณะนี้รอผลการตรวจสอบของคณะกรรมการตำรวจ ส่วนจะเรียกพยานมาชี้แจงเพิ่มเติมหรือไม่นั้น นายวิชา กล่าวว่า อยู่ในระบบตรวจสอบอยู่แล้ว ซึ่งวันนี้ (5 ส.ค.) จะพิจารณาว่าจะเรียกบุคคลต่าง ๆ มาเมื่อใด และรายละเอียดเป็นอย่างไร “คณะกรรมการชุดนี้ มีอำนาจเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงได้ทั้งหมด และบางครั้งอาจจะต้องทำงานในวันหยุดด้วย เพื่อให้เสร็จเร็วขึ้น แต่ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะแล้วเสร็จภายในกรอบ 30 วันหรือไม่” นายวิชา กล่าว ส่วนข้อวิจารณ์ที่ระบุว่าคดีนี้มีความบกพร่องในส่วนของอัยการหรือไม่ นายวิชา กล่าวว่า ยังไม่ขอให้ความเห็นในเรื่องนี้ เพราะต้องตรวจสอบให้ครบถ้วนก่อน และกรอบการประชุมในวันนี้จะพิจารณาในข้อกฎหมาย […]

ออสเตรเลียชี้ไม่มีหลักฐาน TikTok ใช้ข้อมูลในทางที่ผิด

นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสันของออสเตรเลียกล่าวว่า ไม่มีหลักฐานว่าแอปพลิเคชันติ๊กต็อก (TikTok) ของจีน นำข้อมูลของผู้ใช้หลายร้อยล้านคนไปใช้ในทางที่ผิด

แฟลชเอ็กซ์เพรสลงทุนเพิ่ม 4.5 พันล้านบาทขยาย ธุรกิจไทย- เออีซี

กรุงเทพฯ 5 ส.ค. แฟลช เอ็กซ์เพรสครบรอบ 2 ปี ดันยอดส่งพัสดุทะลุล้านชิ้น เตรียมลงทุน 4.5 พันล้านบาทขยายธุรกิจไปสามประเทศอาเซียน  นายคมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ แฟลช (FLASH GROUP) ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซครบวงจร กล่าวว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคคนไทยมีการซื้อของออนไลน์เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 ทำให้ธุรกิจขนส่งทำให้ยอดส่งพัสดุของผู้ให้บริการแต่ละเจ้าในตลาดสูงขึ้นตามไปด้วย แม้จะเผชิญกับการระบาดของโรคโควิด-19 แฟลช เอ็กซ์เพรส มียอดส่งพัสดุในครึ่งปีแรกที่ 100 ล้านชิ้น โดยมียอดส่งพัสดุเฉลี่ยต่อวันมากกว่า 1 ล้านชิ้นหรือเติบโตขึ้นกว่า 3,000 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทำให้มีรายได้ต่อเดือนมากกว่า1,000 ล้านบาท ดังนั้นในครึ่งปีหลัง แฟลช เอ็กซ์เพรส เตรียมงบประมาณในการลงทุนเพิ่มเป็นจำนวน 4,500 ล้านบาท โดยเน้นความสำคัญไปที่ 2 ส่วน คือ ลงทุนเพิ่มเพื่อเสริมศักยภาพทางธุรกิจให้สอดรับกับการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ และเตรียมขยายบริการไปยัง 3 ประเทศกลุ่ม AEC ให้แล้วเสร็จภายในไตรมาส 4  ทั้งยังเตรียมเดินหน้าขยายศูนย์บริการในประเทศเพิ่มอีก 5,000 แห่ง เมื่อรวมกับของเดิมที่มีอยู่จะเป็น 10,000 แห่งทั่วประเทศ และจะเพิ่มรถขนส่งพัสดุอีกราวร้อยละ 30 จากเดิมที่มีรถขนส่งพัสดุที่วิ่งอยู่ทั่วประเทศกว่า 15,000 คัน  “เป้าหมายใหญ่ของเราในครึ่งปีหลัง เราตั้งใจจะเป็นผู้ให้บริการขนส่งที่เข้ามาสนับสนุนพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เพื่อให้พวกเขาสามารถลดต้นทุน และทำกำไรได้มากขึ้น รวมถึงการพัฒนา Platform และระบบการใช้งานในฟังก์ชั่นต่างๆ ที่สามารถตอบสนองต่อพฤติกรรมของลูกค้าคนไทยได้อย่างครอบคลุมในระยะยาวต่อไป” นายคมสันต์ กล่าว นายคมสันต์ กล่าวเสริมอีกว่า ภาพรวมตลาดขนส่งในครึ่งปีหลังการแข่งขันเรื่องราคาและคุณภาพการให้บริการน่าจะเป็น 2 ปัจจัยที่ต้องโฟกัส รวมไปถึงเรื่องความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้าก็น่าจะเป็นสิ่งที่เข้มข้นมากเช่นกัน แฟลช เอ็กซ์เพรส จึงเตรียมตอบรับความท้าทายของตลาดนี้ด้วยการมุ่งลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมไปถึงการลงทุนในด้านบุคลากร เพื่อให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมเร่งวางแผนทำในส่วน Same day และ Next day ให้ครอบคลุมครบทั่วประเทศต่อไป  -สำนักข่าวไทย.

ส.ส.เลย ภูมิใจไทยหารือปัญหาน้ำท่วมต่อที่ประชุมสภาฯ

ส.ส.เลย ภูมิใจไทย หารือที่ประชุมสภาฯ วอน กรมชลฯ ขุดลอกคูคลอง-สร้างอ่างเก็บน้ำ ป้องกันปัญหาน้ำท่วมเมืองเลยอย่างยั่งยืน

รู้จักแอมโมเนียมไนเตรต สารที่อาจเป็นต้นเหตุระเบิดใหญ่เลบานอน

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า แอมโมเนียมไนเตรตที่ทางการเลบานอนสันนิษฐานว่าต้นเหตุของการระเบิดใหญ่ในกรุงเบรุตเมื่อวานนี้เป็นสิ่งที่ยังขาดไม่ได้ในโลกปัจจุบัน เพราะเป็นสิ่งสำคัญในการผลิตปุ๋ยและการก่อสร้าง แม้ว่ามีอันตรายเพราะระเบิดได้ก็ตาม

อุทธรณ์ยืนยกฟ้อง “อลงกรณ์” คดีแจ้งความเท็จ ปมจัดซื้อเสื้อเกราะปี46

อุทธรณ์ยืนยกฟ้อง “อลงกรณ์” คดีแจ้งความเท็จ ผบ.สรรพาวุธ สตช. – ผู้อำนวยการ อผศ. ทุจริตซื้อเสื้อเกราะกันกระสุนปี 2546 ย้ำไม่มีเจตนากลั่นแกล้ง

นานาชาติร่วมแสดงความเสียใจและช่วยเหลือเลบานอนหลังเหตุระเบิดรุนแรง

บรรดาประเทศพันธมิตรและปรปักษ์ของเลบานอนออกแถลงแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุระเบิดรุนแรง 2 ครั้งในกรุงเบรุตของเลบานอน ขณะที่นานาชาติพร้อมยื่นมือช่วยเหลือด้านการแพทย์

ตำหนิ “ทรัมป์” พูดไร้ความรับผิดชอบ เหตุบึ้มเบรุต

อดีตเจ้าหน้าที่ความมั่นคงสหรัฐตำหนิประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ว่า พูดจาไร้ความรับผิดชอบอย่างร้ายแรงกรณีอ้างว่านายทหารหลายนายคิดว่าเหตุระเบิดใหญ่ที่กรุงเบรุตของเลบานอนเป็นการก่อเหตุร้ายมากกว่าอุบัติเหตุ

ศาลอุทธรณ์นัดพิพากษา”อลงกรณ์”คดีแจ้งความเท็จปมจัดซื้อเสื้อเกราะปี46

ศาลอุทธรณ์ นัดฟังคำพิพากษาคดี”อลงกรณ์ พลบุตร”ถูกฟ้องแจ้งความเท็จ กรณีกล่าวหาผู้อื่นร่วมกันทุจริตจัดซ้อเสื้อเกราะกักนกระสุน”โดยศาลชั้นต้นยกฟ้อง

ผบ.ทบ.สอนรุ่นน้องเป็นโควิด-19 หายได้ แต่โรคชังชาติรักษาไม่หาย

ยืนยัน ทหารสหรัฐฯ ร่วมฝึกไทยผ่านการตรวจคัดกรองตามมาตฐาน และปรับลดขนาดเหลือเฉพาะที่จำเป็น ระบุ ไม่กักตัวในค่ายทหาร เพราะไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกเพียงพอ

1 407 408 409 410 411 440