รร.นายร้อย จปร.5 ส.ค.- ผบ.ทบ. สอนรุ่นน้อง เป็นโควิด-19 หายได้ แต่โรคชังชาติรักษาไม่หาย ไร้วัคซีนป้องกัน ยืนยันทหารสหรัฐฯ ร่วมฝึกไทยผ่านการตรวจคัดกรองตามมาตฐาน และปรับลดขนาดเหลือเฉพาะที่จำเป็น ระบุไม่กักตัวในค่ายทหาร เพราะไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกเพียงพอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้ (5 ส.ค.) พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้เดินตรวจการแต่งกายชุดพระราชฐาน ของนักเรียน จปร.ชั้นปีที่4 และ 5 ที่ตั้งแถวรอต้อนรับผู้มาร่วมงานวันพระราชทานกำเนิดโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ครบรอบ 133 ปี ที่ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า จ.นครนายก เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย พร้อมพูดคุยกับนักเรียนเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลังจากที่นักเรียนนายร้อยชั้นปีที่5 ไปร่วมคณะฝึก Lightning forge ที่ มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา
พล.อ.อภิรัชต์ ถามความรู้สึกของรุ่นน้อง ว่าหวาดกลัวโรคติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ พร้อมบอกว่า โรคนี้เป็นแล้วหาย แต่ที่เป็นแล้วไม่หาย คือโรคชังชาติ เกลียดชาติบ้านเมืองตัวเอง นี่เป็นไม่หาย เพราะว่ามีการเหน็บแนมประเทศตัวเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า โรคชังชาติจะรักษาอย่างไรให้หาย พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า คงไม่มีวัคซีน จะต้องปลูกฝังตั้งแต่เป็นเยาวชน ให้รู้จักการรักชาติ ความสามัคคี อยู่ๆ จะมาเกลียดได้อย่างไร
ส่วนกรณีที่ประชาชนมีความเป็นห่วงเรื่องการเดินทางมาร่วมฝึกของทหารสหรัฐฯ พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ทหารสหรัฐฯ ที่เดินทางเข้ามา ปฏิบัติตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19) หรือ ศบค. ทุกอย่าง ไม่ปฏิเสธ รวมถึง การเข้ากับตัวในสถานกักตัวทางเลือก หรือ Alternative State Quarantine (ASQ) และยังมีการทำ Swab test ถึง 3 ครั้ง ตามที่ พล.อ.ณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ในฐานะ ผู้อำนวยการ ศบค.ทบ. ชี้แจงกับสื่อไปก่อนหน้านี้
พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า นอกจากนี้ การฝึกอะไรที่ไม่มีความจำเป็น ก็มีการลด และเลื่อนออกไปก่อน ส่วนการฝึกใดที่มีความจำเป็น ก็ลดระดับ และขนาดการฝึกลงมา เพราะทหารยังคงต้องดำรงเรื่องการฝึก เราไม่สามารถปิดประเทศได้ แต่การระวังป้องกันที่ผ่านมา ประเทศไทยเป็นประเทศตัวอย่าง ที่สามารถป้องกันการแพร่ระบาดได้ เพราะเรามีวินัยและสวมหน้ากากอนามัยกันทุกคน ทำให้ชาติอื่นมองเห็น และมีความเชื่อมั่น เป็นสิ่งที่เห็นได้ว่า รัฐบาลสามารถควบคุม แม้การประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะยืดออกไป แต่ก็มีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เป็นระยะ
“เชื่อว่าไม่ว่าจะคณะทูต คณะทางการค้า รัฐบาลก็คงจะมีการพิจารณา นายกรัฐมนตรีคิดแบบนี้ตลอด ว่ายังไงประเทศไทยก็ต้องเดินหน้าต่อไป ซึ่งในสัปดาห์หน้า จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ จ.ระยอง ถือว่าเป็นการเริ่มต้นการประชุมในรูปแบบ New Normal หรือ ชีวิตวิถีใหม่ รวมถึง กิจกรรมอื่นๆ ที่จะตามมาด้วย ส่วนทหารก็ถือเป็นองค์กรหนึ่ง การจัดประชุมก็เหมือนการฝึก” พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว และย้ำว่า โรคติดเชื้อโควิด-19 เป็นกันทั่วโลก อยู่ที่วินัย และการระวังป้องกัน เป็นโรคที่รักษาหายได้ รวมทั้ง มีวิธีการป้องกัน
เมื่อถามว่า เหตุใดจึงใช้การสถานที่กักกันเป็นโรงแรมใจกลางกรุงแทนสถานที่ของทหาร พล.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ทหารสหรัฐฯ ที่เข้ามา ต้องผ่านขั้นตอนการคัดกรองโรคก่อน การไปคัดกรองโรคในค่ายทหาร มีสิ่งอำนวยความสะดวกไม่เพียงพอ เพราะไม่ได้มีการจัดแบ่งห้องไว้ จะให้ไปอยู่ในค่ายทหารได้อย่างไร โรงแรมที่ทหารสหรัฐฯ เข้าพัก มีการปิดโรงแรม และเขาออกค่าใช้จ่ายเองทุกอย่าง เพื่อดำรงความต่อเนื่องในการฝึก “เดิมจะมีคนมา 300 คน แต่ก็ปรับลดขนาดลงมา เอาเฉพาะที่จำเป็นจริงๆ ทุกประเทศที่มาฝึก ไม่ว่าจะเป็นประเทศอะไร ก็ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนนี้ทุกคน และมีการ Swab test ถึง 3 ครั้ง โดยครั้งแรกผ่านไปแล้วเรียบร้อย ทุกคนมีผลการตรวจเชื้อออกมาเป็นลบ ไม่มีใครติดโควิด-19 เหลืออีก 2 ครั้ง ก่อนที่จะมีการฝึกต่อไป โดยจะเป็นการฝึกแบบระบบปิดในค่ายทหาร .- สำนักข่าวไทย