เพื่อไทยรับเอาผิดนายกฯ ต่อไม่ได้ ยันเดินหน้าปฏิรูปกองทัพ
-“ประเสริฐ” ระบุหลังรับทราบคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ โดยจะรอคำวินิจฉัยฉบับเต็มออกมาก่อน ที่คำวินิจฉัยผูกพันเฉพาะองค์กรภาครัฐ ยอมรับคงดำเนินการเอาผิดต่อไม่ได้ เดินหน้าปฏิรูปกองทัพต่อไป
-“ประเสริฐ” ระบุหลังรับทราบคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ โดยจะรอคำวินิจฉัยฉบับเต็มออกมาก่อน ที่คำวินิจฉัยผูกพันเฉพาะองค์กรภาครัฐ ยอมรับคงดำเนินการเอาผิดต่อไม่ได้ เดินหน้าปฏิรูปกองทัพต่อไป
นายกฯ ปัดตอบ ติดตามการอ่านคำวินิจฉัยของศาล รธน. กรณีบ้านพักทหารหรือไม่
นายกฯ กำชับคุมเข้มห้ามลักลอบเข้าเมืองตามช่องทางธรรมชาติ และสั่งควบคุมมาตรการ ASQ คลายกังวลประชาชน
ทำเนียบฯ 2 ธ.ค.-นายกฯ ประชุม ศบศ.พิจารณาโครงการ คนละครึ่ง เฟส 2 และโครงการรถเก่าแลกรถใหม่ ขณะที่สื่อฯ เฝ้าติดตามใกล้ชิด ศาล รธน.เตรียมอ่านคำวินิจฉัยกรณีบ้านพักทหาร ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยก่อนการประชุม นายกรัฐมนตรี โบกมือทักทายสื่อมวลชน และเข้าร่วมการประชุมทันที โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุมว่า ขอให้เร่งประชุมในวันนี้ (2 ธ.ค.) ทั้งนี้ สื่อมวลชนเฝ้ารอติดตามภารกิจนายกรัฐมนตรีอย่างใกล้ชิด เนื่องจากในเวลา 15.00 น. ศาลรัฐธรรมนูญเตรียมอ่านคำวินิจฉัยกรณีบ้านพักนายกรัฐมนตรีในค่ายทหาร สำหรับวาระการประชุม ศบศ.วันนี้ (2 ธ.ค.) ที่ประชุมจะพิจารณามาตรการคนละครึ่ง ระยะที่ 2 ที่จะเปิดให้ลงทะเบียนในต้นปี 2564 รวมถึงพิจารณานโยบายสนับสนุนการเปลี่ยนรถยนต์เก่าเป็นรถยนต์ใหม่ หรือ โครงการรถเก่าแลกรถใหม่.-สำนักข่าวไทย
สหราชอาณาจักรหรือยูเค (UK) อนุมัติให้นำวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ไฟเซอร์ของสหรัฐพัฒนาร่วมกับไบโอเอ็นเทคของเยอรนีมาใช้ในวงกว้างแล้ว นับเป็นประเทศแรกของโลก
“ประเสริฐ จันทรรวงทอง” นำสมาชิกพรรคเพื่อไทย มาฟังคำวินิจฉัยคดีบ้านพักนายกฯ มั่นใจผิดแน่
กรุงเทพฯ 2 ธ.ค. ดีอีเอส เผยตั้งศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม 1 ปีดำเนินคดีผู้กระทำผิดแล้ว 61 ราย นายภุชพงค์ โนดไธสง รองปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า การทำงานของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมในการตรวจสอบและเผยแพร่ข่าวที่ถูกต้องแก่ประชาชน และได้ร่วมกับศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (PCT) (ศปอส.ตร.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตลอดระยะเวลา 1 ปีนับตั้งแต่จัดตั้งศูนย์ฯ มีการส่งเรื่องเกี่ยวกับข่าวปลอมและบิดเบือน เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของ ศปอส.ตร. ทั้งสิ้น 660 เรื่อง และมีการดำเนินคดี 26 เรื่อง รวมผู้กระทำความผิด 61 ราย แบ่งเป็น การดําเนินคดีตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทําความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ 14 เรื่อง จำนวน 21 ราย และการดําเนินคดีตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน 12 เรื่อง จำนวน 40 ราย และมีจำนวนเคสที่ทำการประชาสัมพันธ์ 96 ราย รวมเคสที่ดำเนินการแล้ว 157 ราย โดยมีจำนวนเป้าหมายที่เข้าทำการตรวจค้นตามหมายศาล 53 หมาย โดย 11 เดือนที่ผ่านมา (1 ม.ค.-30 พ.ย. 63) มีการจับกุมผู้โพสต์ข่าวปลอมบนสื่อสังคมออนไลน์ไปแล้ว 20 ครั้ง จำนวน 104 ราย รวมทั้งเห็นแนวโน้มการกระทำผิดในคดีประเภทนี้เริ่มลดลง ซึ่งเป็นผลจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มแข็ง นายภุชพงค์ กล่าวว่า สำหรับการจัดสัมมนาสร้างการรับรู้ฯ ที่ผ่านมา 3 ครั้ง ได้รับข้อเสนอแนะที่น่าสนใจจากกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วม ได้แก่ ควรมีเนื้อหาเกี่ยวกับทางการแพทย์เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ควรประสานงานอย่างจริงจังกับสื่อรายใหญ่ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ ในการกระจายข่าวสารสร้างการรับรู้ในสังคมได้ ควรมีวิธีการสอนให้ผู้ปกครองทราบวิธีปิดกั้น โฆษณาในเฟซบุ๊กที่เกี่ยวข้องกับเว็บโป๊ เว็บพนัน เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนเข้าถึง ในส่วนของเครือข่ายผู้ประสานงาน ได้นำเสนอความต้องการเพื่อปรับปรุงระบบประสานงานและติดตามผลการดำเนินงานด้านข่าวปลอมโดยเฉพาะการพัฒนาฟังก์ชั่นที่สนับสนุนกระบวนการทำงานผ่านโทรศัพท์มือถือ เช่น สามารถ Login เข้าใช้งานระบบและตอบแบบฟอร์มใช้งานผ่านทางโทรศัพท์เพื่อความสะดวก และแนะนำให้ควรมีการอัพเดตสถานะของเคส หลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการตรวจสอบกับหน่วยงานเจ้าของเรื่องนั้นๆ และเผยแพร่แล้ว เป็นต้น “ปัจจุบันสื่อออนไลน์มีบทบาทต่อผู้บริโภคข่าวสารอย่างมาก เนื่องจากผู้บริโภคมีช่องทางในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารได้จากหลายช่องทาง โดยเฉพาะสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ซึ่งมีทั้งข้อมูลที่ถูกต้องและไม่ถูกต้อง แม้ว่าสื่อสังคมออนไลน์จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่น่าสนใจที่ใช้สำหรับเผยแพร่ข่าวสาร อย่างไรก็ตามเราควรให้ความสำคัญและระมัดระวังอย่างมากในการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ ทั้งด้านของการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารการแชร์ข้อมูล” นายภุชพงค์กล่าว เพื่อให้มีการใช้สื่อออนไลน์อย่างรู้เท่าทัน และสร้างสรรค์ สามารถรับข้อมูลที่ถูกต้องผู้บริโภคควรเลือกเสพข่าวจากหลายช่องทาง และอยากรณรงค์ให้ประชาชนใช้วิธีการ 12 ข้อดังต่อไปนี้ ในการตรวจสอบข่าวปลอม ได้แก่ 1.อ่านข่าวทั้งหมดโดยไม่เชื่อพาดหัวข่าวเพียงอย่างเดียว 2. ตรวจสอบ URL ของเว็บไซต์ที่นำมาเผยแพร่ 3. ตรวจสอบแหล่งที่มาตัวตนของผู้เขียน 4. ดูความผิดปกติของตัวสะกดภาษาที่ใช้หรือการเรียบเรียง 5. พิจารณาภาพประกอบข่าว 6. ตรวจสอบวันที่ของการเผยแพร่ข่าว 7. ตรวจสอบแหล่งข้อมูลที่ผู้เขียนนำมาใช้ 8. หาข้อมูลเปรียบเทียบกับเว็บไซต์อื่น9. ตรวจสอบว่าข่าวสารที่ส่งต่อกันมามีวัตถุประสงค์ใด 10. พิจารณาความสมเหตุสมผลของข่าว 11. ตรวจสอบอคติของตนเอง และ 12. หากมีคำถามหรือข้อสงสัยควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ นายภุชพงค์ กล่าวว่า ในปี 2564 กระทรวงดิจิทัลฯ และศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เตรียมแผนการดำเนินการสร้างการรับรู้เท่าทันข่าวปลอมอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเติมความรู้โดยจะผลิตสื่อที่เกี่ยวข้องกับศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เช่น วิดีโอต่างๆ ที่สอดคล้องกับ 4 กลุ่มข่าว, สื่อไวรัลที่อยู่ในกระแสของสังคม ,พัฒนาระบบในการใช้ตรวจสอบข่าวปลอมให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ตามยุคสมัย และขอความร่วมมือกับสำนักข่าว -สำนักข่าวไทย.
ผลตรวจตัวอย่างเลือดในสหรัฐพบสารภูมิต้านทานหรือแอนติบอดีของเชื้อไวรัสโคโรนา ก่อนที่ทางการจีนยืนยันพบโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในเมืองอู่ฮั่น
นายกฯ ห่วงสถานการณ์อุทกภัย น้ำหลาก หลายพื้นที่ภาคใต้สั่งเร่งช่วยเหลือ เฝ้าระวังพร้อมอพยพหากจำเป็น
ชาวรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลีย กลับมาร้องเพลง เต้นรำ และประกอบพิธีทางศาสนาอีกครั้ง หลังปลอดโควิด-19 ต่อเนื่องมานานหลายวัน
ยานสำรวจอวกาศของจีน เริ่มเจาะพื้นผิวของดวงจันทร์แล้ว หลังลงจอดบนดวงจันทร์เมื่อหลายชั่วโมงก่อน โดยนับเป็นความพยายามที่จะนำตัวอย่างจากดวงจันทร์ กลับมายังโลกเป็นครั้งแรกในรอบสี่ทศวรรษ
โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐเผยว่า จะไม่รีบยกเลิกข้อตกลงการค้าระยะหรือเฟสหนึ่งที่รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามไว้กับจีน