รมว.ดีอีเอสเตือนเตรียมฟันผู้นำเข้าข้อมูลจาบจ้วงทางโซเชียล

กรุงเทพฯ 31 ต.ค. พุทธิพงษ์เตือนผู้ใช้โซเชียล อย่าโพสต์ ละเมิดสิทธิ์หรือจาบจ้วง ถือเป็นความผิเตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์  สั่งเจ้าหน้าที่ติดตามเอาผิดผู้โพสต์คนแรกและผู้แชร์ส่งต่อข้อความ  นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) กล่าวว่า จากที่ได้ติดตามการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของประชาชน และกลุ่มต่างๆ ในช่วงนี้พบว่า ยังคงมีการโพสต์ภาพและเนื้อหาที่เข้าข่ายผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดทาวคอมพิวเตอร์ (พ.ร.บ.คอมพ์ฯ)  เป็นจำนวนมาก  จึงขอแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้โซเชียล มีเดียโปรดระมัดระวัง เรื่องการโพสต์ภาพและเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม ทั้งในลักษณะจาบจ้วง หรือ ละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่น ไม่ว่าจะผ่านแพลตฟอร์มใดก็ตาม ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ทั้งนี้ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามอย่างใกล้ชิดเมื่อพบผู้ที่กระทำความผิด เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายกับทุกคนที่กระทำผิดอย่างจริงจัง  ทั้งผู้ที่โพสต์คนแรก รวมถึงผู้ที่แชร์ ส่งต่อข้อความที่ผิดกฎหมายด้วยตามลำดับ ขอเตือนอีกครั้ง ด้วยความห่วงใยและปรารถนาดี ขอให้ผู้ใช้สื่อออนไลน์ใช้สิทธิและเสรีภาพในขอบเขตของกฎหมาย และต้องเคารพสิทธิ์ของผู้อื่นด้วย -สำนักข่าวไทย.

ศูนย์เฟคนิวส์รายงานสถิติพบข่าวปลอมด้านสุขภาพติดอันดับ 1 ลวงมากที่สุด

กรุงเทพฯ 31 ต.ค. ศูนย์ข่าวปลอมรายงานการดำเนินการพบข้อความปลอม 25 ล้านข้อความ หมวดสุขภาพโดนหลอกครองแชมป์3.8 พันเรื่อง ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ประเทศไทย (Anti-Fake News Center Thailand) ดำเนินการโดย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) รายงานภาพรวมผลการดำเนินงาน (1 พ.ย.62-28 ต.ค.63) จากการรวบรวมข้อมูลทั้งจากที่มีผู้แจ้งเบาะแสเข้ามา และระบบติดตามการสนทนาทางโซเชียล (Social listening) พบว่า มีจำนวนข้อความข่าวที่ต้องคัดกรองทั้งหมด 25,835,350 ข้อความ ข้อความข่าวที่เข้าเกณฑ์ดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 19,466 ข้อความ มีจำนวนเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 6,826 เรื่อง โดยร้อยละ 56 เป็นข่าวในหมวดสุขภาพ 3,812 เรื่อง เรื่องเกี่ยวกับนโยบายรัฐร้อยละ 38 หรือจำนวน 2,620 เรื่อง เรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจ 251 เรื่อง หรือร้อยละ4 และเรื่องเกี่ยวกับภัยพิบัติ143 เรื่อง หรือร้อยละ 2 -สำนักข่าวไทย.

กูเกิลเผยผลศึกษาความท้าทายของชีวิตที่โดนผลกระทบจากโควิด-19

กรุงเทพฯ 29 ต.ค. Google เผยความท้าทายจากโควิด-19 ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหน้าใหม่ต้องเผชิญ เมื่อบริการที่จำเป็นต่างๆ ถูกนำไปไว้บนโลกออนไลน์ ความเหลื่อมล้ำในการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตจึงเพิ่มขึ้น กูเกิลรายงานผลการศึกษาผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหน้าใหม่ในยุคโควิด-19 โดยศึกษาผลกระทบของการระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีต่อผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหน้าใหม่ (New Internet User) พบว่า การศึกษาล่าสุดของทีม Next Billion Users ขพบว่า กลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหน้าใหม่ (New Internet User) ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 มากกว่ากลุ่มอื่น ความท้าทายที่เกิดจากการแพร่ระบาดทั่วโลกของไวรัสโควิด-19 ทำให้ความเหลื่อมล้ำในการใช้ประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ปัญหาต่างๆ ที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหน้าใหม่ต้องเผชิญนั้นหนักหนายิ่งขึ้นไปอีก เมื่อบริการที่จำเป็นต่างๆ เช่น การพาณิชย์ การศึกษา บริการด้านสุขภาพ และบริการอื่นๆ ของภาครัฐ ถูกนำไปไว้บนโลกออนไลน์เพื่อรับมือกับรูปแบบวิถีชีวิตใหม่ ทำให้คุณภาพชีวิตของผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลานั้นลดลง ปัญหาที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขาดความรู้และทักษะด้านดิจิทัล และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตหรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่มีอยู่อย่างจำกัด ได้กลายเป็นปัญหาที่หนักหนาขึ้น และอาจทำให้ผู้ที่มีอุปสรรคในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตไม่สามารถไล่ตามคนอื่นๆ ได้ทัน และเข้าสู่โลกออนไลน์ได้ช้ากว่าคนอื่น  การศึกษาครั้งนี้ระบุถึงความจำเป็น 8 ประการของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหน้าใหม่ ทั้งความจำเป็นที่มีอยู่ก่อนหน้าและความจำเป็นใหม่ๆ ที่เพิ่มเข้ามา โดยหนึ่งในนั้นคือความจำเป็นในการใช้อินเทอร์เน็ตให้คุ้มค่ามากขึ้น เมื่อเรื่องอาหาร การศึกษา และแม้แต่อาชีพการงานนั้นถูกย้ายจากโลกกายภาพไปสู่โลกดิจิทัล การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตจึงกลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิต และการอยู่บนโลกออนไลน์ได้นานขึ้นก็ได้กลายเป็นความต้องการพื้นฐานของผู้คนในปัจจุบันไปแล้ว ซึ่งหมายถึงค่าใช้จ่ายสำหรับบริการอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มสูงขึ้น  นายซีซาร์ เซงกุปตา รองประธานฝ่าย Payments และ Next Billion Users Initiative ของกูเกิลกล่าวว่า โควิด-19 ถือเป็นความท้าทายสำหรับทุกคน แต่ผู้ที่ได้รับผลกระทบหนักเป็นพิเศษคือกลุ่มผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหน้าใหม่ แต่ในความท้าทายนี้ก็ยังมีโอกาสอยู่ หากภาครัฐ ภาคธุรกิจ และองค์กรภาคประชาสังคมร่วมมือกัน เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้น และเศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตขึ้น เราสามารถทำให้อินเทอร์เน็ตดีขึ้นและเข้าถึงได้ง่ายขึ้นในยุคหลังโควิด-19 เพื่อให้เกิดประโยชน์สำหรับผู้ใช้นับพันล้านคนในปัจจุบัน รวมทั้งผู้ใช้รายใหม่อีกนับพันล้านคนที่กำลังจะตามมา และผู้ใช้กลุ่มใหม่ในอนาคต-สำนักข่าวไทย.

เดลล์พัฒนาโน๊ตบุ๊กซีพียูเจน11

กรุงเทพฯ 29 ต.ค.เดลล์ ส่งโน้ตบุ๊กที่ใช้ซีพียู  Intel Core Gen 11 แพลตฟอร์ม Intel EVO จับกลุ่มนิวเจนนักธุรกิจต้องการโน้ตบุ๊กประสิทธิภาพสูง  นายอโณทัย เวทยากร รองประธานบริหาร ตลาดเกิดใหม่ภูมิภาคเอเชีย และสายธุรกิจคอนซูเมอร์ ภูมิภาคเอเชียใต้ เดลล์กล่าวว่า ปรัชญาในการพัฒนาเทคโนโลยีของเดลล์ คือ การถือว่าลูกค้าเป็นศูนย์กลาง  XPS คือซีรีส์ที่เน้นการออกแบบดีเทคโนโลยีประสิทธิภาพสูง โดยมีนักธุรกิจอายุน้อย มีสไตล์เป็นของตัวเอง นิยมความเป็น Minimalist ด้วยสินค้าที่มีการออกแบบให้บางเบา Dell XPS ใช้หน่วยประมวลผล Intel Core i Gen 11 ของ Intel EVO แพลตฟอร์ม บนมาตรฐานการใช้งานได้ต่อเนื่องเกิน 9 ชั่วโมง เมื่อเปิดเครื่องต้องพร้อมใช้งานภายใน 1 วินาที-สำนักข่าวไทย.

ร้านแบตเตอรี่สายเปย์ในตำนานลดแลกแจกแถม

เข้าสู่หน้าหนาว หลายคนเตรียมตัวเดินทางท่องเที่ยวกันแล้ว ซึ่งต้องตรวจเช็กรถยนต์ให้พร้อม โดยเฉพาะแบตเตอรี่รถยนต์ ถ้าไปเชียงใหม่พาไปรู้จักร้านแบตเตอรี่ในตำนาน ที่เขาว่ากันว่าเป็นร้านเดียวในโลก ที่ซื้อแบตลูกเดียว ทั้งลดแลกแจกแถมและยังทำบุญด้วย

Mcot Sport Moba | 30 ต.ค.63

• “กว่างโซ้ง” สิงห์ เชียงราย พร้อมหยุดสถิติ “เดอะแรบบิท” บีจี ปทุมฯ ทีมจ่าฝูง ช่อง 9 ยิงสด 17.00 น. • ลุ้น “มุ้ย” ธีรศิลป์ แดงดา คืนสนามช่วยทีมชิมิสึ เอสพัลล์ ลุยศึกเจลีก บ่าย 2 พรุ่งนี้ ช่อง 9 ยิงสดถึงบ้าน • ครบรอบ 60 ปี “มาราโดนา” ตำนานนักเตะอาร์เจนตินา • บาร์เซโลนา เตรียมจัดวันและวิธีเลือกตั้งประธานสโมสรคนใหม่ • “โดมินิค ธีม” นักหวดมือ 3 ของโลก เข้ารอบ 8 ศึกเทนนิส เอิร์สเต แบงค์ โอเพน ที่ออสเตรีย

วุฒิสาร ยอมรับกดดัน ยันไม่ซื้อเวลา

พระปกเกล้า หารือรูปแบบคณะกรรมการสมานฉันท์ฯ เร่งรวบรวมรูปแบบปรองดองในอดีตทั้งไทยและต่างประเทศ ก่อนส่งประธานรัฐสภาสรุป “วุฒิสาร” ยอมรับกดดันที่จะทำทุกฝ่ายเชื่อมั่น ยืนยันไม่ได้ซื้อเวลา ย้ำยังไม่ถึงขั้นทาบทามหรือสรรหาตัวบุคคล

เสี่ยงดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนโลก

สดร. 30 ต.ค. 63 – นักดาราศาสตร์ คาดการณ์เส้นทางโคจรของดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส อาจชนโลกในอีก 48 ปี สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ หรือ สดร. เผยข้อมูลจากการรายงานของนักดาราศาสตร์ที่กำลังจับตามอง “ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส” ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ดาวเคราะห์น้อยที่มีโอกาสพุ่งชนโลกในช่วงหนึ่งร้อยปีต่อจากนี้  โดยนักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาวาย ระบุว่า วงโคจรของอะโพฟิสมีความเปลี่ยนแปลงและอาจพุ่งชนโลกประมาณวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2611 หรืออีก 48 ปีข้างหน้า Dave Tholen นักดาราศาสตร์ประจำสถาบันดาราศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮาวาย ผู้ติดตามดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสมากว่า 16 ปี อธิบายถึงผลการสำรวจล่าสุดว่า การเปลี่ยนแปลงวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยเกิดจากการดูดซับรังสีจากดวงอาทิตย์เรียกว่า ยาคอฟสกีเอฟเฟค (Yarkovsky effect) ส่งผลให้เกิดการเบี่ยงเบนวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสจากเดิมที่คำนวณไว้ปีละ 170 เมตร ซึ่งมากพอที่อาจจะมีโอกาสพุ่งชนโลกในปี พ.ศ. 2611  อย่างไรก็ตาม ขณะนี้โอกาสการเกิดขึ้นมากที่สุดตาม Sentry Risk Table ขององค์การนาซา คือ 1 ใน 150,000 หรือคิดเป็นร้อยละ 0.00067 ปัจจุบัน นักดาราศาสตร์ได้ติดตามดาวเคราะห์น้อยอะโฟฟิสอย่างต่อเนื่อง ติดตามข้อมูลล่าสุดและคำนวณเส้นทางอย่างระมัดระวัง ซึ่งข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์ซูบารุในเดือนมกราคมถึงมีนาคม ช่วยให้วัดตำแหน่งของอะโพฟิสได้อย่างแม่นยำ และสามารถประมาณขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางดาวเคราะห์น้อยอะโฟฟิสได้ 370 เมตร  สำหรับการเข้าใกล้โลกมากที่สุดครั้งถัดไป คือวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2572  ซึ่งอาจทำให้สามารถมองเห็นดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ได้ด้วยตาเปล่า นักดาราศาสตร์ต่างเฝ้ารอการเข้าใกล้ครั้งนี้เพราะเป็นโอกาสที่จะได้ข้อมูลของวงโคจรที่แม่นยำ ผลของแรงโน้มถ่วงและแสงอาทิตย์ที่มีผลกับวงโคจรของอะโฟฟิส ทั้งนี้ดาวเคราะห์น้อยอะโฟฟิสถูกค้นพบในปี พ.ศ. 2547 โดยหอดูดาวแห่งชาติคิตพีค (Kitt Peak National Observatory) หากการพุ่งชนเกิดขึ้นจะทำให้เกิดแรงระเบิดที่เทียบเท่ากับระเบิด TNT จำนวน 880 ล้านตัน ซึ่งถือเป็นหายนะของโลกได้

ปตท.เร่งเยียวยา-ฟื้นฟูพื้นที่ได้รับผลกระทบจากท่อก๊าซระเบิด

หลังเกิดเหตุท่อส่งก๊าซธรรมชาติรั่วไหล ปตท. จ.สมุทรปราการ ระดมพนักงานและจิตอาสาเร่งเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบและฟื้นฟูพื้นที่ โดยใช้พื้นที่ รร.วัดเปร็งราษฎร์บำรุง ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย รับเรื่องร้องเรียน และให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่

นายกฯ เปิดงาน สวัสดีข้าวสาร

นายกรัฐมนตรีเปิดงาน”สวัสดีข้าวสาร” ปรับโฉมใหม่ ส่งเสริมการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจ ขออย่าตัดทอนประวัติศาสตร์ ระบุ สถาบันอยู่มายาวนาน ต้องสืบสาน รักษา ต่อยอด

นายกฯ พร้อมฟังข้อเสนอ “อานันท์”

นายกฯ พร้อมแสดงความเคารพข้อเสนอของ “อานันท์ปันยารชุน” ยืนยันรับฟังทุกข้อเรียกร้อง ไม่ตอบข้อเสนอ รัฐบาลแห่งชาติ ของ “สนธิ” ระบุไม่เคยมีความคิดเรื่องเหล่านี้

1 109 110 111 112 113 440