เปิดเงื่อนไขนักท่องเที่ยวเข้าไทย 9 เดือน

สธ.18 ก.ย.-กรม สบส.แจงเงื่อนไขนักท่องเที่ยวเข้าไทย นาน 9 เดือน ตรวจโรคจนมั่นใจถึงให้เข้าประเทศได้ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมด้วย นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองยุทธศาสตร์และแผนงาน กรมควบคุมโรค แถลงเตรียมความพร้อม SQ/ASQ และ AHQ เพื่อรองรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศมาพักระยะยาว 270 วัน (9เดือน) ว่า หลังจากที่ไทยมีการเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาบริการเดือนเมษายนที่ผ่านมา รองรับผู้ป่วยและผู้ดูแลจากต่างประเทศรวม ที่เข้าไทย สร้างรายได้ 25 ล้านบาท และคาดว่าผู้ที่เข้าไทยและผู้ติดตามทำกิจกรรมในไทย ทั้งท่องเที่ยว สปา สร้าง รายได้ได้อีกจำนวนมาก 600 ล้านบาท ยืนยันระบบได้ออกแบบรองรับสำหรับการดูแลนักท่องเที่ยวนักธุรกิจที่จะอยู่ภายในประเทศเป็นระยะเวลานาน ได้ดีและมีความปลอดภัยแน่นอน ไม่แพร่โรคควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย นพ.จักรรัฐ กล่าวยืนยันมาตรการของ ศบค.ในการให้บุคคลที่ไม่มีสัญชาติไทยเข้ามาในราชอาณาจักรได้นั้น มีการคัดกรองและป้องกันเป็นอย่างดี โดยกลุ่มผู้เดินทางนี้จะมาเป็นแบบโควต้าใช้ระยะเวลาอยู่ไทยยาวนานขั้นตอนก่อนเข้าประเทศต้องมีการตรวจโรคหาเชื้อโควิชในรอบ 72 ชั่วโมง และไม่เคยไปอยู่ในพื้นที่ชุมชนแออัด ต้องมีบัตรประกันสุขภาพไม่ต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับประเทศไทยในอนาคตหากป่วยหรือติดเชื้อโควิดเมื่อมาถึงไทยยังต้องถูกกักตัวใน State […]

อีก 2 เดือนถอดกำไลอีเอ็ม “ปลอดประสพ”

กรมคุมประพฤติ 18 ก.ย.-อธิบดีคุมประพฤติ เผยอีก 2 เดือน “ปลอดประสพ” ได้ฤกษ์ถอดกำไลอีเอ็ม ส่วน “ยงยุทธ” ปลดอุปกรณ์ติดตามตัวต้นเดือน ก.พ.64 ตามจำนวนโทษที่เหลือ พร้อมให้ตรวจสอบข้อมูลจากศูนย์อีเอ็มได้ตลอด 24 ชั่วโมง นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต อธิบดีกรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมคุมประพฤติได้ทยอยติดกำไลอีเอ็มให้กับผู้ที่ได้รับการพักโทษในคดียาเสพติดตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ทุกวันและผู้ต้องขังตามพ.ร.บ.ฟื้นฟูสมรรภาพผู้ติดยาเสพติด โดยยังไม่มีผู้ต้องขัง “บิ๊กเนม” ในคดีความผิดการเมืองเข้ามาเพิ่มเติม ยกเว้นกรณีนายปลอดประสพ สุรัสวดี และนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ ซึ่งเป็นผู้ต้องขังสูงวัยในล็อตแรกที่ยังอยู่ระหว่างการใช้กำไลอีเอ็ม โดยบุคคลทั้ง 2 ได้เข้ารายงานตัวต่อทางสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดในพื้นที่ที่กำหนดแล้ว สำหรับนายปลอดประสพ จะติดอุปกรณ์ติดตามตัวเป็นเวลา 2 เดือน คาดว่าจะปลดกำไลอีเอ็มได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ส่วนนายยงยุทธจะติดกำไลติดตามตัวเป็นระยะเวลา 5 เดือน และจะปลดอุปกรณ์ติดตามตัวช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ปี 2564 ทั้งนี้ช่วงเวลาของการติดกำไลอีเอ็มจะนับตามจำนวนโทษที่เหลือ ซึ่งแต่ละคนจะมีโทษไม่เท่ากัน “ยืนยันว่าปัจจุบันทั้ง 2 คนยังติดกำไลอีเอ็มจริง และไม่ได้มีการถอดออก หากสงสัยสามารถตรวจสอบข้อมูลได้จากศูนย์ปฎิบัติควบคุมอิเลคทรอนิกส์ติดตามตัวได้ตามระบบเรียลไทม์ได้ตลอด 24 ชั่วโมงว่าอยู่ในบ้านหรือออกไปข้างนอก ซึ่งหากมีการถอดหรือทำลายก็จะมีสัญญาณแจ้งเตือนทันที” อธิบดีกรมคุมประพฤติ […]

รมว.แรงงาน แสดงความเสียใจล่ามแรงงานเสียชีวิต

ก.แรงงาน 18 ก.ย.-รมว.แรงงาน แสดงความเสียใจครอบครัวล่ามแรงงานไทยป่วยโควิดเสียชีวิต เตรียมขอดินพระราชทานจากสำนักพระราชวังให้ญาตินำไปประกอบพิธีฝังศพตามขั้นตอนของศาสนาอิสลาม นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวแสดงความเสียใจต่อครอบครัวกรณีการเสียชีวิตของนายหมัด มะมิน ล่ามประจำสำนักงานแรงงานซาอุดีอาระเบีย เนื่องจากติดเชื้อโควิด-19 เพราะไปช่วยคนงานกลับประเทศ โดยได้กลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลราชวิถี เมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา และเสียชีวิตวันนี้(18ก.ย.)เวลา 12.00 น. ที่โรงพยาบาลราชวิถี โดยญาติจะนำศพไปทำพิธีตามศาสนาอิสลาม ในวันพรุ่งนี้ ณ อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา ในส่วนของกระทรวงแรงงานได้ดำเนินการขอดินพระราชทานจากสำนักพระราชวังเพื่อนำไปให้ญาติประกอบพิธีฝังศพตามศาสนาอิสลามต่อไป สำหรับนายหมัด มะมิน อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17/1 หมู่ที่ 13 ตำบาลดอนเกาะกา อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา สำเร็จการศึกษาสาขาศาสนศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยอัล – อัชฮัร กรุงไคโร ประเทศอียิปต์ สมรสกับนางอนุรักษ์ มะมิน มีบุตรด้วยกัน 2 คน ได้แก่ นายไรย์ฮาน มะมิน อายุ 17 […]

สธ.ยืนยันล่ามแรงงานไทย เสียชีวิต

สำนักข่าวไทย 18 ก.ย.-อธิบดีกรมการแพทย์ เผยล่ามแรงงานไทยประจำซาอุดีอาระเบีย ติดโควิดเสียชีวิตแล้ว ที่โรงพยาบาลราชวิถี นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ยืนยันขณะนี้มีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต 1 ราย ที่โรงพยาบาลราชวิถี ผู้ป่วยรายนี้เป็นล่ามให้แรงงานไทยที่ซาอุดีอาระเบีย ติดเชื้อตั้งแต่ที่ซาอุดีอาระเบีย และประสานส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี เมื่อต้นเดือนกันยายน โดยขณะที่ส่งตัวมายังโรงพยาบาลราชวิถี ผู้ป่วยอาการค่อนข้างหนัก ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ เมื่อมาถึงได้ทำการตรวจหาเชื้อซ้ำ แต่ก็ไม่พบเชื้อ แต่เมื่อทำการเอกซเรย์พบว่า การทำงานของปอดเสียหายแล้ว ถือว่าอาการค่อนข้างหนัก และเสียชีวิตเมื่อช่วงประมาณ 12.00 น.ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลราชวิถี แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเสียชีวิตเพราะโควิดได้หรือไม่ เนื่องจากการทำงานของปอดสูญเสียจากโควิด แต่ก่อนมาโรงพยาบาลราชวิถีตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 แล้ว .-สำนักข่าวไทย

ล่ามแรงงานไทยป่วยโควิด เสียชีวิต

สำนักข่าวไทย 18ก.ย.-ล่ามแรงงานไทยป่วยโควิด รักษาที่ รพ.ราชวิถี เสียชีวิต เมื่อช่วงเที่ยงวันนี้ กรมการแพทย์เตรียมแถลงรายละเอียดเวลา 14.30 น. เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.วันนี้ (18ก.ย.) มีรายงานว่า ล่ามประจำสำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย เสียชีวิตจากโควิด-19 หลังจากเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2563 เดินทางมาถึงประเทศไทย และเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2563 ตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 ผลตรวจพบเชื้อ สำหรับรายละเอียดทั้งหมดกรณีล่ามที่เดินทางจากซาอุดีอาระเบียเสียชีวิตนั้น ในเวลา14.30น. อธิบดีกรมกรมการแพทย์ จะแถลงข่าวที่ห้องประชุมไพจิตร ปวะบุตร ชั้น 9 อาคาร7 ตึก สป. สำหรับ ล่ามประจำสำนักงานแรงงานในประเทศซาอุดีอาระเบีย อายุ 54 ปี เป็นคนไทยมุสลิม มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา มีบุตรชาย 2 คนอยู่ที่กรุงริยาด ก่อนหน้านี้มีอาการป่วย เนื่องจากติดเชื้อโควิด–19 และได้รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูนานกว่า 1 เดือน จนมีอาการดีขึ้นจนแพทย์ระบุว่าตรวจไม่พบเชื้อโควิด–19 แล้ว […]

ไฟเขียวจัดหาเครื่องฉายรังสีให้ 7 รพ.

สธ.18 ก.ย.-“อนุทิน”เผยคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ เห็นชอบโครงการจัดหาเครื่องฉายรังสีวงเงิน 878.2 ล้านบาทให้แก่ รพ. 7 แห่ง ช่วยผู้ป่วยมะเร็งทั่วประเทศเข้าถึงการรักษาเพิ่มขึ้นในสถานการณ์โควิด ลดความเสี่ยงการติดเชื้อขณะผ่าตัดและพักฟื้น บุคลากรทางการแพทย์เสี่ยงน้อยลง พร้อมลดเวลารอคอยและความแออัด นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ได้พิจารณาผ่านโครงการจัดหาครุภัณฑ์เครื่องฉายรังสี (Linac) สำหรับแก้ปัญหาผลกระทบจากโควิด- 19 ด้านการแพทย์และสาธารณสุข วงเงิน 878.2 ล้านบาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ให้แก่โรงพยาบาล 7 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลพุทธชินราช จังหวัดพิษณุโลก โรงพยาบาลสุรินทร์ โรงพยาบาลร้อยเอ็ด โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช โรงพยาบาลสมุทรสาคร โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ทั้งนี้ คณะกรรมการกลั่นกรองฯ จะเสนอเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์ถัดไป นายอนุทินกล่าวต่อว่า สาเหตุที่ต้องเสนอโครงการดังกล่าวเนื่องจากสถานการณ์โรคโควิด 19 ผู้ป่วยมะเร็งยังต้องได้รับการรักษา หากเลื่อนการรักษาจะส่งผลให้โรคลุกลามรุนแรงมากขึ้น ไม่สามารถหายขาดได้ ขณะเดียวกันสถานพยาบาลต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการผู้ป่วยรูปแบบใหม่หรือ New Normal ด้วยการฉายรังสีเทคนิคชั้นสูงทดแทนการผ่าตัดได้ เนื่องจากผู้ป่วยมะเร็งที่มีโอกาสติดเชื้อสูงกว่าคนทั่วไป การฉายรังสีจึงเป็นทางเลือกการรักษาที่ปลอดภัย ใช้เวลาครั้งละไม่เกิน 10 […]

ทุกศูนย์อนามัยเตรียมพร้อมรับมือ “โนอึล”

กรมอนามัย18ก.ย.-กรมอนามัย กำชับศูนย์อนามัยทุกแห่ง เตรียมความพร้อมบุคลากรและการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม รับมือสถานการณ์พายุ “โนอึล” พร้อมแนะนำประชาชนหลีกเลียงการอยู่ที่โล่งแจ้ง เมื่อเกิดฝนฟ้าคะนอง และติดตามข่าวสารของทางราชการจากทุกช่องทางอย่างใกล้ชิด พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากข้อมูลกรมอุตุนิยมวิทยา รายงานสถานการณ์พายุโนอึล ที่จะเพิ่มความรุนแรงเป็นพายุระดับ 3 และกำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยคาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางและจะเคลื่อนเข้าสูภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยในช่วงวันที่ 18-20 กันยายนนี้ ซึ่งมีผลทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะเริ่มมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน หลังจากนั้นภาคเหนือและภาคอื่น ๆ จะมีผลกระทบในระยะต่อไป ทำให้พื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าวจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก จนทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ ดังนั้น ในเบื้องต้นกรมอนามัยได้มอบหมายให้ศูนย์อนามัยทั่วประเทศเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร และอุปกรณ์ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมรองรับกรณีที่เกิดอุทกภัยในพื้นที่เสี่ยง เช่น การจัดการสุขาภิบาลอาหาร การจัดการขยะ จัดหาน้ำสะอาด และชุดนายสะอาด ประกอบด้วย ถุงดำขนาดใหญ่สำหรับใส่ขยะ ถุงดำเล็กสำหรับใส่อุจจาระ น้ำยาล้างจาน สบู่ เจลล้างมือใช้ทำความสะอาดเมื่อเพื่อฆ่าเชื้อโรค หยดทิพย์(คลอรีนน้ำ) ใช้สำหรับฆ่าเชื้อโรคในน้ำ นอกจากนี้ประชาชนควรระมัดระวังสัตว์และแมลงมีพิษที่มากับน้ำท่วม รวมถึงการใช้ไฟฟ้าภายในบ้านหรือบริเวณบ้าน หากน้ำกำลังท่วม ให้ปลดสวิตช์ (เบรกเกอร์เมน) เพื่อตัดกระแสไฟฟ้า “ทั้งนี้ ขณะเกิดฝนฟ้าคะนอง ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่ง เช่น […]

เตือนระวังอุบัติเหตุจมน้ำจาก “โนอึล”

สธ.18 ก.ย.-กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนระมัดระวังอุบัติเหตุจากพายุโซนร้อน “โนอึล” ในช่วงนี้ ทำให้ในหลายพื้นที่ของประเทศ มีฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจทำให้น้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ และขอให้ระมัดระวังการจมน้ำ แนะยึดหลัก “3 ห้าม 2 ให้” วันนี้ (18 ก.ย.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากรายงานกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงตั้งแต่วันที่ 18-20 กันยายน 2563 ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อน “โนอึล” ซึ่งจะทำให้ในหลายพื้นที่ของประเทศ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมาก และมีฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรงเกิดขึ้น อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากได้ กรมควบคุมโรค จึงขอให้ประชาชนเตรียมความพร้อมรับมือพายุโซนร้อน “โนอึล” นั้น โดยประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม หรือเคยมีน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี ควรเตรียมความพร้อมในการเคลื่อนย้ายไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ควรจัดเตรียมน้ำ อาหารแห้ง ไฟฉาย ตลอดจนยารักษาโรคให้พร้อม และติดตามข่าวสารจากหน่วยงานของรัฐอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมในทุกด้านเพื่อป้องกันความสูญเสียทรัพย์สิน และขอให้ระมัดระวังการจมน้ำในช่วงดังกล่าวด้วย เนื่องจากแหล่งน้ำต่างๆ มีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น […]

กทม.เตรียมพร้อมรับมือ “โนอึล”

กทม.17 ก.ย.-ผู้ว่าฯกทม.แจ้งทุกหน่วยงาน เตรียมพร้อมรับมือ “โนอึล” คาด 19 ก.ย.ฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯกทม.) โพสต์เพจเฟซบุ๊กผู้ว่าฯอัศวิน ว่า 19 ก.ย.นี้ กรุงเทพฯ เตรียมรับมือฝนตกหนักจากพายุ “โนอึล” โดยระบุว่า กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งเตือนว่า วันที่ 18-20 ก.ย.นี้ พายุโซนร้อนโนอึล ระดับ 3 จะเข้าสู่ประเทศไทย ส่งผลให้เกิดลมกระโชกแรง และฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ โดยกรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะได้รับผลกระทบจากฝนที่เพิ่มขึ้นในวันที่ 19 ก.ย.63 กทม.ได้แจ้งทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือผลกระทบจากฝนตกหนักและน้ำท่วมขัง เพื่อให้กระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด โดยขณะนี้กทม.ได้พร่องน้ำในคลองสายต่าง ๆ รวมถึงแก้มลิงทุกแห่ง มีการขุดลอกคลอง และจัด เก็บวัชพืชในคลองอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมท่อระบายน้ำ เครื่องสูบน้ำ สถานีสูบน้ำ อุโมงค์ระบายน้ำ และธนาคารน้ำใต้ดิน เพื่อให้การระบายน้ำทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังได้เตรียมเครื่องมือ เครื่องจักร รถหน่วยซ่อมบำรุง รถยก รถเครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง และจัดเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานตรวจสอบและแก้ไขจุดที่มีปัญหาน้ำท่วมในช่วงฝนตก ตลอดจนประสานงานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง […]

กทม.ย้ำการปฏิบัติหน้าที่ 19 ก.ย.ด้วยความสุภาพ

กทม.17ก.ย.-กทม.กำชับเจ้าหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย ในการชุมนุมวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ เน้นย้ำรักษาวินัยและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุภาพ นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (รองผู้ว่าฯกทม.) เป็นประธานการประชุมคณะผู้บริหาร กทม.ผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขต ครั้งที่ 6/2563 เพื่อมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่เทศกิจ โดยมีผู้บริหารกทม.ผู้บริหารสำนักเทศกิจ และหัวหน้าฝ่ายเทศกิจ 50 สำนักงานเขต ร่วมประชุมวันนี้ (17ก.ย.) ณ ห้องประชุมกรุงธน 3 สำนักเทศกิจ รองผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า วันนี้ได้เน้นย้ำเรื่องสถานการณ์โรคโควิด-19 แม้ใน ขณะนี้จะพบว่าผู้ที่ติดเชื้อคือผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศที่กักตัวอยู่ในสถานที่ที่รัฐจัดให้ แต่ยังไม่สามารถจะไว้วางใจได้ในสถานการณ์ได้ การ์ดจะต้องไม่ตก รวมถึงการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะเจ้าหน้าที่ของรัฐที่จะต้องตรวจตรา ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและผู้ประกอบการถือปฏิบัติตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง สำหรับสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มมวลชนต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร มีหลายกลุ่มมาก ทั้งที่เกี่ยวและไม่เกี่ยวกับการเมือง เช่น กลุ่มปลดแอกชาวสองล้อมาทวงถามความคืบหน้าขอขึ้นสะพานข้ามแยกและลงอุโมงค์ข้ามแยกที่ลานคนเมือง กลุ่มผู้ค้าตลาดนัดจตุจักร กลุ่มเลือกข้างประชาธิปไตย ที่ผ่านมาสำนักเทศกิจและสำนักงานเขตพื้นที่ได้ดำเนินการอำนวยความสะดวกและดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างต่อเนื่อง และในวันที่ 19-20 ก.ย.นี้ จะมีการชุมนุมรวมตัวกันที่บริเวณสนามหลวง คาดว่าจะมีมวลชนจำนวนมาก จึงมอบหมายสำนักงานเขตพระนครและสำนักเทศกิจติดตามสถานการณ์และเตรียมความพร้อมกำลังพล โดยเน้นย้ำให้รักษาวินัยและปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุภาพ .-สำนักข่าวไทย

1 205 206 207 208 209 236