Arnat Sakdaronnarong

อิสลามาบัด 12 ม.ค. – ตำรวจปากีสถานได้รับแจ้งเหตุวัยรุ่นหญิงชาวปากีสถาน 2 คนหายตัวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนพบตัวทั้งคู่ในอีกเมืองที่อยู่ห่างจากบ้านกว่า 1,200 กิโลเมตร โดยยอมรับว่าได้วางแผนไปเกาหลีใต้เพื่อไปดูวง ‘บีทีเอส’ (BTS) บอยแบนด์ชื่อดังระดับโลกของเกาหลีใต้ ตำรวจปากีสถานเผยว่า วัยรุ่นหญิง 2 คนนี้ ซึ่งมีอายุ 13 และ 14 ปี ได้หายตัวไปในนครการาจีเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว ตำรวจได้เดินทางไปตรวจค้นหาหลักฐานที่บ้านของทั้งสองคนจนพบสมุดบันทึกที่มีข้อความเกี่ยวกับการวางแผนเดินทางไปเกาหลีใต้เพื่อไปดูวงบีทีเอส เช่น ข้อมูลตารางเดินรถไฟ รวมถึงข้อความที่ระบุว่าจะวางแผนหลบหนีไปกับเพื่อนอีกคนของทั้งคู่ ตำรวจจึงเริ่มแกะรอยตามตัวเด็กหญิงทั้งสองคนจนพบตัวทั้งคู่ที่ถูกตำรวจของนครละฮอร์ในแคว้นปัญจาบ ทางตอนใต้สุดของปากีสถาน ควบคุมตัวไว้หลังเดินทางไปถึงเมืองนี้โดยรถไฟ ทั้งยังกล่าวเตือนผู้ปกครองชาวปากีสถานให้สอดส่องเรื่องการใช้สื่อออนไลน์ของบุตรหลานเพื่อให้รู้เท่าทันพฤติกรรมของลูก ขณะนี้ เพลงป็อปของเกาหลีใต้ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ เคป็อป (K-pop) กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลกในกลุ่มคนทุกเพศทุกวัย ซึ่งรวมถึงปากีสถาน ทั้งนี้ โปสเตอร์และอัลบั้มเพลงของวงบีทีเอสก็ประสบความสำเร็จด้านยอดขายอย่างสูงในภูมิภาคเอเชียใต้เช่นเดียวกับซีรีส์ของเกาหลีใต้.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐกับญี่ปุ่นประกาศกระชับความร่วมมือทางทหารครั้งสำคัญ และเพิ่มขีดความสามารถด้านทหารในญี่ปุ่น เมื่อวันพุธตามเวลาในสหรัฐ

เจนีวา 12 ม.ค. – องค์การอนามัยโลกระบุว่า กำลังทำงานร่วมกับจีนเพื่อควบคุมความเสี่ยงจากการระบาดของโรคโควิด-19 ที่อาจพุ่งสูงขึ้นอีกครั้งในช่วงเทศกาลวันตรุษจีนที่มีการเดินทางคึกคัก แต่ยังคงไม่ได้รับข้อมูลโควิดที่เพียงพอจากจีน อับดีเราะห์มาน มาฮาหมัด ผู้อำนวยการฝ่ายการประสานงานเพื่อแจ้งเตือนและรับมือขององค์การอนามัยโลก เผยว่า องค์การอนามัยโลกกำลังทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ในจีนเพื่อควบคุมความเสี่ยงจากการระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงเทศกาลวันตรุษจีน ซึ่งเป็นช่วงที่มีผู้คนจำนวนมากเดินทางจากพื้นที่เสี่ยงสูงไปยังพื้นที่เสี่ยงต่ำ แต่ยังคงไม่ได้ข้อมูลที่เพียงพอจากจีนเพื่อนำมาใช้ประเมินความรุนแรงที่เกิดจากยอดผู้ป่วยโควิดที่พุ่งสูงขึ้น ขณะที่มาเรีย แวน เคอร์โคฟ หัวหน้าฝ่ายเทคนิคด้านโรคโควิดขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า องค์การอนามัยโลกยังคงขาดข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิดในจีน องค์การอนามัยโลกยังระบุในแถลงการณ์ว่า จีนยังคงรายงานยอดผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดต่ำกว่าความจริง แม้ตอนนี้จีนกำลังพยายามให้ข้อมูลเกี่ยวกับโรคโควิดมากขึ้นกว่าเดิมก็ตาม ขณะที่ทางการจีนยืนยันว่า ข้อมูลเกี่ยวกับโรคโควิดของจีนมีความโปร่งใสและเชื่อถือได้ ส่วนคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนเผยว่า เจ้าหน้าที่ของจีนได้หารือร่วมกับองค์การอนามัยโลกเมื่อวันพุธผ่านระบบออนไลน์ในหลายประเด็น เช่น สถานการณ์ระบาดของโรคโควิดในปัจจุบัน แนวทางการรักษา และการฉีดวัคซีนโควิด ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 10.8 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 33,300 คน.-สำนักข่าวไทย

นิวเดลี 11 ม.ค. – ชาวอินเดียต่างพากันฉลองยินดีหลังเพลง ‘นาทู นาทู’ (Naatu Naatu) ที่ใช้ประกอบภาพยนตร์เรื่อง ‘อาร์อาร์อาร์’ (RRR) ของอินเดียสร้างประวัติศาสตร์คว้ารางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมบนเวทีลูกโลกทองคำ หรือโกลเดน โกลบส์ 2023 เป็นครั้งแรก บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า เพลง ‘นาทู นาทู’ ซึ่งเป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง ‘อาร์อาร์อาร์’ หรือมีชื่อไทยว่า ‘ก้องเกียรติกบฏ’ ได้รับรางวัลลูกโลกทองคำ สาขาเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โดยเอาชนะนักร้องชื่อดังอย่างเทย์เลอร์ สวิฟต์ และริฮานน่า ที่มีชื่อเข้าชิงในสาขาเดียวกัน โดยมีการถ่ายทำฉากที่มีเพลงนี้อยู่ในภาพยนตร์ที่หน้าบ้านพักประจำตำแหน่งของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ในบริเวณทำเนียบประธานาธิบดีเมื่อปี 2563 เอ็มเอ็ม กีรวานี ผู้ประพันธ์เพลง กล่าวขณะรับรางวัลดังกล่าวว่า เขารู้สึกตื่นตกใจกับความสำเร็จอย่างล้นหลามเกินคาดหมายของเพลงนี้ ด้านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย เผยว่า เขารู้สึกดีใจอย่างมากกับข่าวดีในครั้งนี้ และขอแสดงความยินดีกับทีมงานผู้ผลิตภาพยนตร์ ทั้งยังระบุว่า รางวัลนี้ถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่ทำให้ชาวอินเดียภาคภูมิใจ ภาพยนตร์เรื่อง ‘อาร์อาร์อาร์’ ซึ่งใช้ภาษาเตลูกูเป็นภาษาหลัก เขียนบทและกำกับโดย […]

โตเกียว 11 ม.ค. – ยูนิโคล่ (UNIQLO) แบรนด์เครื่องแต่งกายระดับโลกของญี่ปุ่น เผยว่า จะปรับขึ้นเงินเดือนสูงสุดถึงร้อยละ 40 ให้แก่พนักงานหลายพันคนในญี่ปุ่น เพื่อให้ยูนิโคล่แข่งขันในตลาดโลกได้มากขึ้น ฟาสต์ รีเทลลิ่ง (Fast Retailing) บริษัทแม่ของยูนิโคล่ ระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า บริษัทจะปรับขึ้นเงินเดือนสูงสุดถึงร้อยละ 40 ให้แก่พนักงานประจำราว 8,400 คนจากทั้งหมด 56,000 คนในญี่ปุ่น การปรับขึ้นเงินเดือนในครั้งนี้มีเกณฑ์ที่แตกต่างกัน เช่น พนักงานเข้าใหม่จะได้รับการปรับขึ้นเงินเดือนสูงสุดร้อยละ 20 และพนักงานระดับผู้จัดการที่มีประสบการณ์สูงอาจได้รับการปรับเงินเดือนสูงถึงร้อยละ 40 ทั้งยังระบุว่า การปรับเงินเดือนในครั้งนี้จะช่วยสร้างการเติบโตในหน้าที่การงานของแต่ละบุคคล และช่วยสร้างการแข่งขันในตลาดโลกมากขึ้น ประกาศดังกล่าวของฟาสต์ รีเทลลิ่ง มีขึ้นในขณะที่ญี่ปุ่นมีอัตราเงินเฟ้อสูงถึงร้อยละ 3.7 ในเดือนพฤศจิกายนปีก่อน ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2524 และมีขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ได้ออกมาเรียกร้องให้บริษัทในญี่ปุ่นปรับขึ้นเงินเดือน อย่างไรก็ดี ฟาสต์ รีเทลลิ่ง ไม่ได้ระบุในแถลงการณ์ว่า การปรับขึ้นเงินเดือนในครั้งนี้เป็นผลมาจากสภาพเศรษฐกิจของญี่ปุ่น แต่ระบุเพียงว่าได้ตัดสินใจปรับขึ้นเงินเดือนเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่สอดคล้องกับสภาวะตลาดทั่วโลก.-สำนักข่าวไทย

โตเกียว 11 ม.ค. – ญี่ปุ่นตำหนิจีนใช้มาตรการระงับการออกวีซ่าให้แก่ชาวญี่ปุ่น โดยระบุว่าไม่เห็นด้วยกับการใช้แนวทางนี้และเรียกร้องให้จีนยกเลิกคำสั่งดังกล่าว นายฮิโรคาสุ มัตซูโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งทำหน้าที่โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น เผยวันนี้ว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวของจีนเป็นเรื่องน่าเศร้าใจอย่างยิ่ง เนื่องจากมาตรการควบคุมโรคโควิดของญี่ปุ่นที่กำหนดให้นักเดินทางจากจีนและมาเก๊าต้องมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบก่อนออกเดินทางและหลังเดินทางถึงญี่ปุ่น ไม่ได้เป็นการกีดกันนักเดินทางจีน ทั้งยังระบุว่า ญี่ปุ่นขอคัดค้านการกระทำดังกล่าวของจีนผ่านวิธีทางการทูต และเรียกร้องให้จีนยกเลิกการใช้มาตรการนี้ต่อชาวญี่ปุ่น อย่างไรก็ดี นายมัตซูโนะปฏิเสธที่จะเผยข้อมูลว่าจีนตอบโต้การคัดค้านของญี่ปุ่นอย่างไร หรือญี่ปุ่นจะเปิดการหารือกับจีนในประเด็นนี้หรือไม่ โดยระบุเพียงว่า ญี่ปุ่นจะใช้มาตรการที่เหมาะสมในขณะที่กำลังเฝ้าจับตาสถานการณ์ระบาดของโรคโควิดในจีนและการเปิดเผยข้อมูลโรคโควิดของจีน ก่อนหน้านี้ จีนได้ประกาศเมื่อวันอังคารว่าจะระงับการออกวีซ่าให้แก่ชาวญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เพื่อตอบโต้ทั้งสองประเทศที่เพิ่มข้อกำหนดต่อนักเดินทางจากจีน ซึ่งมีตัวเลขผู้ป่วยโควิดพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า ขณะนี้ จีนมียอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดสะสมกว่า 10.7 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 33,300 คน.-สำนักข่าวไทย

มอสโก 11 ม.ค. – แวกเนอร์ กรุ๊ป บริษัทกองกำลังเอกชนของรัสเซีย อ้างว่าได้ยึดครองเมืองโซเลดาร์ ทางตะวันออกของยูเครน แต่ยังไม่มีการยืนยันเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ขณะที่การสู้รบในพื้นที่ใจกลางเมืองยังคงเป็นไปอย่างดุเดือด สำนักข่าวอาร์ไอเอของรัสเซียรายงานอ้างคำพูดของนายเยฟเกนี พริโกซิน เจ้าของกลุ่มบริษัทแวกเนอร์และพันธมิตรใกล้ชิดของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เผยเมื่อคืนวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า กองกำลังของแวกเนอร์ได้ยึดครองและปิดล้อมใจกลางเมืองโซเลดาร์ ซึ่งมีชื่อเสียงเรื่องการทำเหมืองเกลือ ไว้ได้ทั้งหมดแล้ว ในขณะที่การสู้รบรอบนอกเมืองยังคงเป็นไปอย่างดุเดือด นายพริโกซินยังระบุว่า เขาจะประกาศตัวเลขนักโทษที่ถูกจับกุมในวันนี้ และขีดเส้นตายให้ทหารยูเครนยอมแพ้ภายในเวลาเที่ยงคืนของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นเช่นกัน สำนักข่าวอาร์ไอเอยังได้เผยแพร่รายงานที่ระบุว่า แวกเนอร์ได้ยึดเหมืองเกลือหลายแห่งในเมืองโซเลดาร์หลังสิ้นสุดการต่อสู้อย่างดุเดือด ขณะที่นายพริโกซินก็ได้เผยแพร่ภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นกองกำลังทหารรับจ้างที่ยืนรายล้อมรอบตัวเขาที่เหมืองเกลือแห่งหนึ่ง ทั้งนี้ เมืองโซเลดาร์ตั้งอยู่ห่างจากเมืองบัคมุต ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในแคว้นดอนบาสของยูเครน เพียง 15 กิโลเมตร และตกอยู่ในสมรภูมิรบดุเดือดมาเป็นเวลาหลายวันแล้ว อย่างไรก็ดี ขณะนี้ ยังไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับข้อกล่าวอ้างของแวกเนอร์ และทางการยูเครนก็ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย

แคลิฟอร์เนีย 11 ม.ค. – รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐประกาศคำสั่งอพยพประชาชนหลายหมื่นคนออกจากพื้นที่เมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น หลังเผชิญกับพายุรุนแรงระลอกใหม่ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 คน รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดของสหรัฐ ระบุว่า พายุฝนระลอกใหม่ทำให้หลายพื้นที่ของรัฐแคลิฟอร์เนียเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ต้องใช้คำสั่งปิดถนนสายหลัก ต้นไม้หักโค่น และมีผู้ขับขี่หรือผู้โดยสารถูกน้ำพัดหาย ซึ่งรวมถึงเด็กชายวัย 5 ขวบในพื้นที่ตอนกลางของรัฐแคลิฟอร์เนีย ขณะที่สำนักงานบริการสภาพอากาศแห่งชาติของสหรัฐแจ้งว่า รัฐแคลิฟอร์เนียจะต้องเผชิญกับพายุลูกใหม่ที่อาจทำให้มีปริมาณฝนสูงถึง 7 นิ้วในพื้นที่ทางตอนเหนือของรัฐในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น รวมถึงปริมาณหิมะตกหนาขึ้นที่เทือกเขาเซียร์ราเนวาดาในรัฐแคลิฟอร์เนีย ด้านพาวเวอร์เอาต์เทจ (Poweroutage.us) เว็บไซต์ติดตามสถานการณ์ไฟดับในสหรัฐ เผยว่า มีบ้านเรือนและสำนักงานราว 110,000 หลังในรัฐแคลิฟอร์เนียที่ตกอยู่ในสภาพไฟดับเมื่อวันอังคาร ในขณะเดียวกัน นายเกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า ขณะนี้ เขาได้สั่งอพยพประชาชนอย่างน้อย 34,000 คนออกจากพื้นที่แล้ว คาดว่าพายุลูกนี้จะทวีความรุนแรงและอันตรายมากขึ้นกว่าเดิม รัฐแคลิฟอร์เนียอาจต้องเผชิญกับพายุต่อไปจนถึงวันที่ 18 ทั้งยังระบุว่า ขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 คน.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐประกาศปรับระดับเตือนภัยเป็น ‘สีแดง’ หลังภูเขาไฟคิลาเวในรัฐฮาวายของสหรัฐเริ่มปะทุอีกครั้งเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น โดยตรวจพบแสงจ้าบนยอดเขาที่มีกลุ่มควันลอยออกมา

สายการบินแอร์อินเดีย ถูกสำนักงานการบินพลเรือนของอินเดีย (DGCA) ตำหนิจากกรณีลงโทษผู้โดยสารที่ไม่เคารพกฎระเบียบบนอากาศยานเบาเกินไป หลังเกิดเหตุผู้โดยสารชายคนหนึ่งจงใจปัสสาวะใส่ผู้โดยสารหญิงที่นั่งติดกันบนเที่ยวบิน