สหรัฐจับชายขับรถเทสลาตกหน้าผาเป็นเหตุจงใจ

แคลิฟอร์เนีย 4 ม.ค. – ตำรวจสหรัฐจับกุมชายวัย 41 ปี ชาวรัฐแคลิฟอร์เนีย ในข้อหาหลายกระทง หลังมีหลักฐานชี้ว่าเขาจงใจขับรถยนต์เทสลาตกหน้าผาสูงราว 80 เมตรพร้อมผู้โดยสารอีก 3 คน แต่ทั้งสี่ชีวิตรอดตายปาฏิหาริย์ ตำรวจทางหลวงของรัฐแคลิฟอร์เนียระบุในแถลงการณ์ล่าสุดเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า ตำรวจได้จับกุมชายขับรถยนต์เทสลาตกหน้าผาสูงชัน เนื่องจากมีหลักฐานและผลการสืบสวนเบื้องต้นที่ชี้ว่าเขาจงใจก่อเหตุดังกล่าว ชายคนนี้ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่าและทำให้เด็กตกอยู่ในอันตราย โดยที่เขาจะถูกนำตัวไปไว้ที่เรือนจำเทศมณฑลซานมาเทโอในรัฐแคลิฟอร์เนียหลังเสร็จสิ้นการรักษาตัวในโรงพยาบาล ขณะนี้ ตำรวจยังไม่ทราบความสัมพันธ์ที่แน่ชัดระหว่างคนขับกับผู้โดยสารทั้งสามคน ทั้งยังระบุว่า ระบบขับขี่อัตโนมัติของเทสลาไม่ได้มีส่วนทำให้รถยนต์ตกหน้าผา ก่อนหน้านี้ ตำรวจทางหลวงรัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่า เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เทสลาตกหน้าผาสูงราว 80 เมตรบนถนนเลียบชายฝั่งเมื่อเช้าวันจันทร์ แต่คนขับและผู้โดยสารรวม 4 คนรอดตายปาฏิหาริย์ คนขับและผู้โดยสารประกอบด้วยชายคนขับรถวัย 41 ปี หญิงไม่ทราบอายุ เด็กชายวัย 9 ขวบ และเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวทั้งหมดที่มีอาการบาดเจ็บสาหัสไปรักษาในโรงพยาบาลแล้ว. -สำนักข่าวไทย

ไต้หวันจะแจกเงินประชาชนฉลองตรุษจีน

ไต้หวันจะแจกเงินสด 6,000 ดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (ราว 6,600 บาท) ให้แก่ประชาชนทุกคนในปีนี้ โดยระบุว่าเงินดังกล่าวเป็นผลตอบแทนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจร้อยละ 6.45 ในปี 2564 ซึ่งเป็นการเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี 2553

นิวซีแลนด์จะไม่บังคับนักเดินทางจีนแสดงผลตรวจโควิด

เวลลิงตัน 4 ม.ค. – นิวซีแลนด์จะไม่กำหนดให้นักเดินทางจากจีนแสดงผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบก่อนเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งเป็นนโยบายที่แตกต่างจากอีกหลายประเทศที่กำหนดให้นักเดินทางจากจีนต้องตรวจโควิดก่อนเข้าประเทศหลังมีข้อกังวลเรื่องยอดผู้ป่วยโควิดที่พุ่งสูงขึ้นในจีน พญ. อาเยชา เวอร์รัล รัฐมนตรีกำกับดูแลเรื่องโรคโควิดของนิวซีแลนด์ ระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า หน่วยงานประเมินความเสี่ยงด้านสุขภาพของนิวซีแลนด์ได้ข้อสรุปว่า นักเดินทางจากจีนไม่ได้ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการระบาดของโรคโควิดในนิวซีแลนด์อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นการจำกัดการเดินทางเข้านิวซีแลนด์จึงไม่จำเป็นหรือชอบธรรม อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่จะขอให้นักเดินทางจากจีนบางส่วนเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดด้วยความสมัครใจเพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคโควิด ซึ่งเป็นแนวทางที่สอดคล้องกับข้อกังวลขององค์การอนามัยโลกเกี่ยวกับการที่จีนไม่ยอมแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของโรคโควิดในประเทศ ทั้งยังระบุว่า นิวซีแลนด์กำลังวางแผนเริ่มตรวจน้ำเสียจากเที่ยวบินระหว่างประเทศเพื่อหาเชื้อโควิด หากแนวทางนี้ประสบผลสำเร็จ ก็จะนำมาใช้แทนการตรวจหาเชื้อโควิดอย่างเจาะจงและสมัครใจกับนักเดินทางเป็นรายบุคคล ก่อนหน้านี้ หลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย อังกฤษ สหรัฐ และญี่ปุ่น ได้ประกาศข้อกำหนดให้นักเดินทางจากจีนต้องมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบก่อนเดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากมีข้อกังวลเกี่ยวกับการระบาดอย่างรุนแรงและการเปิดเผยข้อมูลด้านสาธารณสุขของจีน ขณะที่จีนออกมาตำหนิว่าข้อกำหนดดังกล่าวเป็นการเลือกปฏิบัติกับชาวจีน. -สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้เร่งตามหาชาวจีนติดโควิดหายตัวจาก รร. กักตัว

โซล 4 ม.ค. – เกาหลีใต้เร่งตามหานักเดินทางชาวจีนรายหนึ่งที่มีผลตรวจติดเชื้อโควิดเมื่อเดินทางถึงเกาหลีใต้ แต่กลับหายตัวไปในขณะที่กำลังรอเข้าที่พักในโรงแรมที่ใช้เป็นสถานที่กักตัว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเกาหลีใต้เผยวันนี้ว่า นักเดินทางชาวจีนไม่เผยนามรายหนึ่งมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกหลังเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติอินชอนของเกาหลีใต้เมื่อช่วงค่ำวันอังคาร และถูกส่งตัวไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้สนามบินเพื่อรอคิวกักตัว อย่างไรก็ดี ชาวจีนคนนี้กลับหายตัวไปโดยไม่ได้บอกกล่าว ขณะนี้ ตำรวจเกาหลีใต้ได้ออกประกาศจับชาวจีนคนดังกล่าวแล้ว ซึ่งอาจทำให้บุคคลนี้ได้รับโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี หรือโทษปรับเงินสูงสุด 10 ล้านวอน (ราว 269,000 บาท) หากพบว่ามีความผิดฐานละเมิดกฎหมายป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อของเกาหลีใต้จริง นอกจากนี้ ชาวจีนคนนี้อาจถูกเนรเทศและถูกสั่งห้ามเดินทางเข้าเกาหลีใต้เป็นระยะเวลาหนึ่ง นับตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.จนขณะนี้มีนักเดินทางจากจีนเข้าเกาหลีใต้แล้วทั้งหมด 2,189 คน สำนักงานควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ หรือเคดีซีเอ รายงานวันนี้ว่า ผลการตรวจนักเดินทางจากจีน 590 คนพบว่าติดเชื้อโควิด 136 คน หรือร้อยละ 23 เฉพาะวันอังคารวันเดียวพบนักเดินทางจากจีนติดเชื้อโควิดร้อยละ 26 จากทั้งหมด 281 คน เกาหลีใต้ได้ประกาศเมื่อวันอังคารเรื่องกำหนดให้นักเดินทางจากจีนต้องตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทางเข้าประเทศ โดยจะต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดแบบพีซีอาร์เมื่อเดินทางถึงเกาหลีใต้ และสามารถยื่นผลตรวจโควิดแบบพีซีอาร์เป็นลบภายใน 48 ชั่วโมง หรือยื่นผลชุดตรวจโควิดด้วยตนเองเป็นลบภายใน 24 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางจากจีนได้ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. […]

ออสเตรเลียยันให้นักเดินทางจีนตรวจโควิดไม่เกี่ยวการเมือง

ซิดนีย์ 4 ม.ค. – ออสเตรเลียระบุว่า จีนขาดความโปร่งใสเรื่องข้อมูลเกี่ยวกับโรคโควิด-19 พร้อมแย้งว่า การประกาศใช้ข้อกำหนดตรวจโควิดในกลุ่มนักเดินทางจากจีนไม่ได้เกิดขึ้นจากแรงจูงใจทางการเมือง นายจิม ชาลเมอร์ส รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของออสเตรเลีย เผยกับสถานีโทรทัศน์เอบีซีของออสเตรเลียในวันนี้ว่า รัฐบาลออสเตรเลียตัดสินใจประกาศใช้ข้อกำหนดตรวจหาเชื้อโควิดในกลุ่มนักเดินทางจากจีน เนื่องจากต้องระมัดระวังเรื่องความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการระบาดของโรคโควิดในจีน ซึ่งออสเตรเลียรู้สึกกังวลเรื่องความโปร่งใสในการเปิดเผยข้อมูลโรคโควิด ทั้งยังระบุว่า ข้อกำหนดดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นจากแรงจูงใจทางการเมืองอย่างแน่นอน รัฐบาลออสเตรเลียประกาศใช้ข้อกำหนดให้นักเดินทางจากจีน ฮ่องกง และมาเก๊า ต้องมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบภายใน 48 ชั่วโมงก่อนเดินทางเข้าออสเตรเลีย โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 ม.ค. เป็นต้นไป แม้ว่านายพอล เคลลี หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของออสเตรเลีย ได้ส่งหนังสือลงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 แนะให้รัฐบาลออสเตรเลียยกเลิกการใช้ข้อกำหนดดังกล่าวในกลุ่มนักเดินทางจากจีน เนื่องจากขาดข้อมูลยืนยันด้านสาธารณสุข ขัดแย้งกับนโยบายด้านโควิดของออสเตรเลียที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน และยังไม่เห็นความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการระบาดของโรคโควิด ก่อนหน้านี้ จีนได้ออกมาตำหนิการเพิ่มข้อกำหนดด้านโควิดต่อนักเดินทางจากจีนว่าเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ พร้อมขู่ว่าจะตอบโต้ประเทศที่ใช้ข้อกำหนดดังกล่าว หลังมีหลายประเทศ เช่น สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ที่ประกาศใช้ข้อกำหนดให้นักเดินทางจากจีนต้องตรวจโควิดก่อนเดินทางเข้าประเทศเมื่อไม่นานมานี้. -สำนักข่าวไทย

“ไบเดน” เตรียมต้อนรับ “คิชิดะ” เยือนสหรัฐ 13 ม.ค.

วอชิงตัน 4 ม.ค. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เตรียมต้อนรับนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น ที่มีกำหนดเดินทางเยือนสหรัฐในวันที่ 13 ม.ค. เพื่อกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ทำเนียบขาวของสหรัฐระบุในแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีไบเดนเตรียมให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรีคิชิดะที่มีกำหนดเดินทางเยือนสหรัฐในวันศุกร์ที่ 13 ม.ค. เพื่อกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ ทั้งยังระบุว่า ผู้นำสหรัฐและญี่ปุ่นจะหารือร่วมกันในประเด็นต่าง ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เกาหลีเหนือ จีน และการโจมตียูเครนของรัสเซีย นอกจากนี้ ประธานาธิบดีไบเดนจะให้การสนับสนุนญี่ปุ่นในฐานะประธานกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือจี 7 ในปีนี้ และการดำรงตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของญี่ปุ่นในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ต่อไป ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีคิชิดะได้เตือนประธานาธิบดีไบเดนเมื่อปีก่อนว่า การที่จีนต้องการยึดเกาะไต้หวันเข้าเป็นส่วนหนึ่งของจีนอาจทำให้เกิดปัญหาขัดแย้งครั้งใหม่ ซึ่งอาจทำให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเผชิญกับสถานการณ์ขัดแย้งเช่นเดียวกับยูเครน นอกจากนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังได้ประกาศยกเครื่องนโยบายด้านกลาโหมครั้งใหญ่ในเดือนธันวาคม ซึ่งรวมถึงการเพิ่มงประมาณด้านความมั่นคงและการทหาร เพื่อรับมือกับอิทธิพลของจีนอีกด้วย. -สำนักข่าวไทย

ทหารรัสเซียตายเพิ่มเป็น 89 นายหลังโดนยูเครนโจมตีวันปีใหม่

มอสโก 4 ม.ค. – กระทรวงกลาโหมของรัสเซียเผยว่า มีทหารรัสเซียเสียชีวิตเพิ่มเป็น 89 นายจากเหตุยูเครนโจมตีเมืองมาคีฟกาในช่วงวันปีใหม่ โดยที่เมืองดังกล่าวตั้งอยู่ทางตะวันออกของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครอง กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยแพร่คลิปแถลงการณ์ของพลโทเซอร์เก เซฟริวคอฟ เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของกองทัพรัสเซีย ที่ระบุว่า มีทหารรัสเซียเสียชีวิตเพิ่มเป็น 89 นายจากเหตุยูเครนโจมตีเมืองมาคีฟกาในวันปีใหม่ โดยพบผู้เสียชีวิตรายใหม่อยู่ใต้ซากปรักหักพัง ขณะนี้ รัสเซียได้ตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจขึ้นมาทำงานและสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผลสอบสวนในเบื้องต้นคาดว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากการที่มีทหารบางคนแอบใช้โทรศัพท์มือถือในระยะอาวุธของยูเครนจนทำให้รัสเซียถูกโจมตี กองทัพรัสเซียได้ออกมาตรการใหม่เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต และจะลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้เช่นกัน พลโทเซฟริวคอฟระบุด้วยว่า รัสเซียได้ทำลายระบบยิงจรวดจำนวนมากของยูเครนที่ใช้โจมตีเมืองมาคีฟกา ทำลายระบบเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรสูง (HIMARS) จำนวน 4 เครื่อง รวมถึงสังหารนักสู้ต่างชาติและทหารของยูเครนราว 200 นายที่เมืองดรูชคีฟกาในแคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกของยูเครน ก่อนหน้านี้ ยูเครนได้เปิดฉากยิงจรวดหลายลำกล้องอัตตาจรสูงโจมตีฐานทัพชั่วคราวของรัสเซียที่เมืองมาคีฟกาเมื่อเวลา 00.01 น. ของวันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม ต่อมารัสเซียเผยเมื่อวันจันทร์ว่า มีทหารเสียชีวิต 63 นายจากเหตุยูเครนโจมตีเมืองดังกล่าว ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุดของทหารรัสเซียที่เสียชีวิตจากการโจมตีเพียงครั้งเดียวนับตั้งแต่รัสเซียบุกโจมตียูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ปีก่อน. -สำนักข่าวไทย

อินเดียเร่งสอบกรณีเด็กอุซเบกิสถานตายหลังกินยาลดไข้

กระทรวงสาธารณสุขอินเดียเผยวันนี้ว่า กำลังเร่งสอบสวนกรณีที่อุซเบกิสถานระบุว่า มีเด็ก 18 คนเสียชีวิตหลังรับประทานยาน้ำลดไข้ที่ผลิตโดยบริษัทยาของอินเดีย และให้สัญญาว่าจะเพิ่มบทลงโทษหนักขึ้น หากพบว่ายาของบริษัทดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับเหตุเสียชีวิต

อังกฤษไร้แผนบังคับนักเดินทางจีนตรวจโควิดก่อนเข้าประเทศ

ลอนดอน 29 ธ.ค. – อังกฤษระบุว่ายังไม่มีแผนที่จะกลับไปใช้ข้อกำหนดให้นักเดินทางจากต่างประเทศต้องตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทางเข้าอังกฤษ ซึ่งเป็นแนวทางที่ตรงข้ามกับอีกหลายประเทศ เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น และอิตาลี ที่ประกาศข้อกำหนดให้นักเดินทางจากจีนต้องตรวจโควิดก่อนเข้าประเทศ โฆษกรัฐบาลอังกฤษเผยกับหนังสือพิมพ์เทเลกราฟของอังกฤษว่า อังกฤษยังไม่มีแผนที่จะกลับไปใช้ข้อกำหนดให้นักเดินทางจากต่างประเทศต้องตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทางเข้าอังกฤษ ทั้งยังระบุว่า รัฐบาลอังกฤษจะพิจารณาว่า ควรจะใช้มาตรการควบคุมโรคโควิดในกลุ่มนักเดินทางชาวจีนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เทเลกราฟยังระบุว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุขของอังกฤษ จะประชุมร่วมกันเพื่อตัดสินใจว่าจะใช้ข้อกำหนดให้นักเดินทางจากจีนต้องตรวจโควิดก่อนเดินทางเข้าอังกฤษเหมือนกับอีกหลายประเทศที่ประกาศใช้มาตรการนี้ไปก่อนแล้วหรือไม่ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ขณะนี้ มีหลายประเทศ เช่น สหรัฐ ญี่ปุ่น และอิตาลี ที่ประกาศข้อกำหนดให้นักเดินทางจากจีนต้องตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเดินทางเข้าประเทศ เนื่องจากมีข้อกังวลเกี่ยวกับยอดผู้ป่วยติดเชื้อโควิดที่พุ่งสูงขึ้นหลังจีนประกาศยกเลิกใช้นโยบายทำให้ยอดผู้ป่วยโควิดเป็นศูนย์แล้ว.-สำนักข่าวไทย

รถชนในอุโมงค์ทางด่วนเกาหลีใต้จนไฟไหม้ ตาย 5 คน

โซล 29 ธ.ค. – เกิดอุบัติเหตุรถบัสชนรถบรรทุกในอุโมงค์ทางด่วนที่ย่านชานเมืองของกรุงโซลในเกาหลีใต้ จนทำให้เกิดเพลิงไหม้ขนาดใหญ่ลุกท่วมเป็นวงกว้างในอุโมงค์ดังกล่าว และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน เจ้าหน้าที่ของสำนักงานดับเพลิงของเมืองกวาชอนในจังหวัดคยองกี ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงโซล เผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า อุบัติเหตุรถบัสชนรถบรรทุกในอุโมงค์ทางด่วนทำให้เกิดเพลิงไหม้เป็นวงกว้างขึ้นเมื่อเวลา 13.50 น. ของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับเวลา 11.50 น. ของวันนี้ตามเวลาประเทศไทย ทั้งยังระบุว่า ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถควบคุมสถานการณ์ไฟไหม้ได้แล้ว และกำลังเข้าไปในอุโมงค์เพื่อสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม หลังเหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 คน และมีผู้บาดเจ็บราว 20 คนจากอาการสำลักควันไฟ สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานอ้างคำพูด นายลี ซัง-มิน รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในและความปลอดภัยของเกาหลีใต้ที่เรียกร้องให้ทุกหน่วยงานเร่งระดมสรรพกำลังลงพื้นที่เกิดเหตุอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยเหลือชีวิตประชาชนที่อาจติดอยู่ในอุโมงค์ดังกล่าว ด้านสื่อท้องถิ่นของเกาหลีใต้ได้เผยแพร่ภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นเปลวเพลิงขนาดใหญ่และควันไฟที่พวยพุ่งออกมาจากอุโมงค์แห่งนี้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายร้อยนายกำลังเร่งฉีดน้ำควบคุมสถานการณ์ไฟไหม้อย่างเต็มที่.-สำนักข่าวไทย

รัสเซียปัดตกแผนสันติภาพของ “เซเลนสกี”

มอสโก/เคียฟ 29 ธ.ค. – นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย ระบุว่า รัสเซียจะไม่ดำเนินการตามแผนสันติภาพของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และคิดว่ายูเครนยังไม่พร้อมที่จะเปิดการเจรจาเพื่อสันติภาพอย่างจริงจังกับรัสเซีย สำนักข่าวอาร์ไอเอของรัสเซียรายงานอ้างคำพูดของนายลาฟรอฟที่ระบุว่า ความคิดของประธานาธิบดีเซเลนสกีที่ต้องการขับรัสเซียออกจากพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนและคาบสมุทรไครเมียโดยได้รับความช่วยเหลือจากชาติตะวันตก และต้องการให้รัสเซียจ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ยูเครนนั้นเป็นเหมือนภาพลวงตาที่ไม่มีวันเป็นจริง ทั้งยังระบุว่า รัสเซียจะยังคงเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการต่อสู้และและขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีในสมรภูมิยูเครนต่อไป นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย เผยว่า รัสเซียจะไม่เจรจาสันติภาพกับยูเครน หากยูเครนไม่ยอมรับว่าแคว้นทั้งสี่ ได้แก่ แคว้นลูฮันสก์กับโดเนตสก์ ทางตะวันออก และแคว้นเคอร์ซอนกับซาปอริชเชีย ทางตอนใต้ ได้รับการผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียแล้ว ทั้งนี้ คำกล่าวของเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งสองคนของรัสเซียมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีกำลังเดินหน้าเสนอแผนสันติภาพ 10 ข้อ ซึ่งรวมถึงข้อเรียกร้องให้รัสเซียเคารพอำนาจอธิปไตยของยูเครนและถอนกำลังทหารทั้งหมดออกจากยูเครน ในขณะเดียวกัน นายโอเลกซี อาเรสโตวิช ที่ปรึกษาทำเนียบประธานาธิบดียูเครน เผยผ่านเฟซบุ๊กวันนี้ว่า ยูเครนกำลังตกเป็นเป้าโจมตีจากขีปนาวุธกว่า 100 ลูก และอาจได้ยินเสียงไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังทั่วประเทศ ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สและสื่อท้องถิ่นของยูเครนรายงานตรงกันว่า ขณะนี้ มีเสียงระเบิดดังขึ้นหลายครั้งในกรุงเคียฟ เมืองซิตโทเมีย และเมืองโอเดสซา โดยที่ทางการยูเครนได้ประกาศตัดไฟฟ้าที่เมืองโอเดสซาและแคว้นดนิโปรเปตรอฟสก์เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานแล้ว.-สำนักข่าวไทย

เหตุน้ำท่วม-ดินถล่มในฟิลิปปินส์ ตายเพิ่มเป็น 33 คน

มะนิลา 29 ธ.ค. – เหตุฝนตกหนักที่ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มในพื้นที่ทางตอนกลางและตอนใต้ของฟิลิปปินส์ในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งตรงกับวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส ทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 33 คน และยังคงมีผู้สูญหายอีกกว่า 20 คน ตำรวจฟิลิปปินส์เผยว่า พบผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่มเพิ่มอีก 1 คนเมื่อวันพุธ เป็นชายวัย 62 ปี ที่เมืองมาตีในจังหวัดดาเวาโอเรียนตัลบนเกาะมินดาเนา โดยที่ชายคนนี้เสียชีวิตหลังถูกดินถล่มทับในขณะที่กำลังตกปลาอยู่ริมแม่น้ำกับเพื่อนอีก 3 คนที่ยังคงสูญหาย ขณะที่สำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์ระบุว่า มีบ้านเรือนหลายร้อยหลังได้รับความเสียหาย พื้นที่เกษตรกว่า 31,200 ไร่ถูกทำลาย และมีประชาชนหลายหมื่นคนต้องอพยพไปอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่มในครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านในจังหวัดมีซามิสโอกซีเดนตัลบนเกาะมินดาเนา ซึ่งมีมากถึง 15 คนที่เสียชีวิตจากการจมน้ำหรือดินถล่มจากฝนตกหนัก ทั้งนี้ ฟิลิปปินส์ ซึ่งมีประชากรราว 110 ล้านคน ต้องเผชิญกับสภาพอากาศย่ำแย่ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับเทศกาลหยุดยาวช่วงคริสต์มาส.-สำนักข่าวไทย

1 9 10 11 12 13 315