เหตุลอบวางระเบิดข้างถนนในปากีสถาน ตาย 8 ราย

อิสลามาบัด 14 ก.ย. – เหตุลอบวางระเบิดข้างถนนในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย ซึ่งรวมถึงอดีตหัวหน้าคณะกรรมการสันติภาพของรัฐบาลปากีสถาน โดยกลุ่มตอลิบานในปากีสถานอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดดังกล่าว ตำรวจของเขตสวัตของปากีสถานเผยว่า เกิดเหตุลอบวางระเบิดริมถนนที่เมืองคาบัลในหุบเขาสวัตเมื่อช่วงคืนวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มตอลิบานในปากีสถานในช่วงเกิดเหตุไม่สงบเมื่อปี 2550-2552 เหตุดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 8 ราย ในจำนวนนี้ มีอดีตหัวหน้าคณะกรรมการสันติภาพของรัฐบาลปากีสถาน 1 รายที่เสียชีวิตขณะนั่งอยู่ในรถกระบะที่ถูกลอบวางระเบิดข้างถนน รวมถึงตำรวจท้องถิ่น 2 นาย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยส่วนตัว 2 นาย และแรงงานอีก 3 ราย ในขณะเดียวกัน กลุ่มตอลิบานในปากีสถาน หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ กลุ่มเตห์รีก-เอ-ตอลิบาน ปากีสถาน (Tehreek-e Taliban Pakistan) ได้ออกมาอ้างว่าเป็นผู้ลอบวางระเบิดในครั้งนี้ และอ้างว่าอดีตหัวหน้าคณะกรรมการสันติภาพของของรัฐบาลปากีสถานที่เสียชีวิตมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุสังหารสมาชิก 3 รายของกลุ่มตอลิบานในปากีสถาน ทั้งยังอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุปะทะกองทัพปากีสถานที่ทำให้มีทหารปากีสถานเสียชีวิต 3 นายในเขตคูร์รัม ซึ่งมีพรมแดนติดอัฟกานิสถานเมื่อวันอังคาร ทั้งนี้ กลุ่มตอลิบานในปากีสถานเป็นกลุ่มที่แยกตัวออกมาจากกลุ่มตอลิบานในอัฟกานิสถาน แต่ทั้งสองกลุ่มมีอุดมการณ์เดียวกัน ก่อนหน้านี้ รัฐบาลปากีสถานระบุว่า กลุ่มตอลิบานในปากีสถานเริ่มก่อเหตุโจมตีอยู่บ่อยครั้ง นับตั้งแต่กลุ่มตอลิบานยึดอำนาจการปกครองอัฟกานิสถานในเดือนสิงหาคมปีก่อน.-สำนักข่าวไทย

วัยรุ่นอเมริกันที่ฆ่าคนร้ายขืนใจถูกสั่งคุมประพฤติ-ปรับเงิน

ไอโอวา 14 ก.ย. – หญิงวัยรุ่นอเมริกันที่ใช้มีดแทงผู้ต้องหาข่มขืนเสียชีวิตถูกศาลรัฐไอโอวาของสหรัฐตัดสินลงโทษคุมประพฤติ 5 ปี และสั่งชดใช้เงิน 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.5 ล้านบาท) ให้แก่ครอบครัวผู้ต้องหาข่มขืน บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ศาลรัฐไอโอวาของสหรัฐตัดสินลงโทษจำคุกไพเพอร์ ลูอิส วัย 17 ปี จากกรณีที่เธอใช้มีดแทงนายซาคารี บรู๊กส์ วัย 37 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาข่มขืนเธอ จนเสียชีวิตในนครดิมอยน์ เมืองเอกของรัฐไอโอวาเมื่อปี 2563 ในขณะที่เธอมีอายุเพียง 15 ปี และสั่งให้ลูอิสชดใช้เงิน 150,000 ดอลลาร์สหรัฐให้แก่ครอบครัวของนายบรู๊กส์ ก่อนหน้านี้ ศาลรัฐไอโอวาได้ตัดสินให้ลูอิสมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาและทำร้ายร่างกายโดยเจตนา ซึ่งมีโทษจำคุกรวมสูงถึง 10 ปี โดยที่ลูอิสอาจได้รับโทษจำคุก 20 ปี หากเธอฝ่าฝืนโทษคุมประพฤติในที่พักอาศัยและต้องสวมอุปกรณ์ติดตามตัว ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอพีรายงานอ้างแถลงการณ์ของลูอิสในชั้นศาลที่ระบุว่า แม้จิตวิญญาณของเธอถูกเผาไหม้ แต่เธอจะยังคงเปล่งประกายอยู่ในเปลวเพลิง เธอจะส่งเสียงร้องคำราม ส่องแสงเป็นประกาย และเติบโตต่อไปในอนาคต เพราะเธอคือผู้รอดชีวิต ก่อนหน้านี้ […]

ยูเครนเผยยึดพื้นที่คืนจากรัสเซียเพิ่มเป็น 8,000 ตร.กม.

ยูเครนยังคงใช้ปฏิบัติการโต้กลับรัสเซียอย่างรวดเร็วในวันพุธ จนทำให้ยึดพื้นที่คืนจากรัสเซียได้เพิ่มขึ้นเป็น 8,000 ตารางกิโลเมตร นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ระบุว่า ปฏิบัติการดังกล่าวของยูเครนรุดหน้าไปมากอย่างมีนัยสำคัญ แต่คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะได้คืนพื้นที่ทั้งหมดที่ถูกรัสเซียยึดไป

สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นจะร่วมพระราชพิธีศพควีนอังกฤษ

โตเกียว 14 ก.ย. – สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ ของญี่ปุ่น จะเสด็จฯ ร่วมพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 19 กันยายน โดยนับเป็นการเสด็จฯ เยือนต่างประเทศครั้งแรกนับตั้งแต่ขึ้นครองราชย์ในปี 2562 นายฮิโรกาสุ มัตสึโนะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น เผยวันนี้ว่า สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะ และสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ จะเสด็จฯ ร่วมพระราชพิธีพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในวันที่ 19 กันยายน แต่นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ของญี่ปุ่น และเจ้าหน้าที่รัฐบาลคนอื่นๆ จะไม่ได้เดินทางไปเข้าร่วมพระราชพิธีพระบรมศพ นายมัตสึโนะยังระบุว่า สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเคยพบกับสมาชิกราชวงศ์ญี่ปุ่นถึง 3 รุ่น และทรงเคยเชิญสมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะและพระชายา เสด็จฯ เยือนอังกฤษ แต่กลับเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ขึ้นเสียก่อน ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะทรงเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในช่วงคริสต์ทศวรรษหลังปี 1980 และสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะ ก็ทรงเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยดังกล่าวในช่วงเวลาเดียวกัน ขณะที่สมเด็จพระจักรพรรดินารุฮิโตะทรงศึกษาที่มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด พระองค์ได้เสด็จฯ เข้าพบสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ รวมถึงเสด็จฯ […]

คาดพสกนิกรอังกฤษต่อแถวยาว 7.5 กม. สักการะพระบรมศพควีน

ลอนดอน 14 ก.ย. – รัฐบาลอังกฤษคาดว่าอาจมีพสกนิกรอังกฤษราว 750,000 คน มาต่อแถวยาวถึง 7.5 กิโลเมตร เพื่อเข้าถวายสักการะพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในวันนี้ ที่เวสต์มินสเตอร์ฮอลล์ ในกรุงลอนดอน รัฐบาลอังกฤษเผยในวันอังคารว่า อาจมีพสกนิกรอังกฤษราว 750,000 คน มาต่อแถวยาวถึง 7.5 กิโลเมตร เพื่อเข้าถวายสักการะพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในวันนี้ ที่เวสต์มินสเตอร์ฮอลล์ ในกรุงลอนดอน ซึ่งจะเปิดให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพได้ตั้งแต่เวลา 17.00 น. ของวันนี้ตามเวลาในอังกฤษ หรือตรงกับเวลา 23.00 น. ของวันนี้ตามเวลาประเทศไทย เป็นเวลา 4 วัน ก่อนที่จะมีพระราชพิธีฝังพระบรมศพ ในวันจันทร์ที่ 19 กันยายน รัฐบาลอังกฤษยังระบุว่า พสกนิกรอังกฤษหลายแสนคนที่เดินทางมารอถวายสักการะพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะต้องต่อแถวยาวเหยียดไปตามริมฝั่งทางใต้ของแม่น้ำเทมส์ ผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่ง เช่น ลอนดอน อาย (London Eye) และโรงละครเชคสเปียร์ส โกลบ (Shakespeare’s […]

เผย “ปูติน-สี” จะคุยเรื่องยูเครน-ไต้หวันที่อุซเบกิสถาน

มอสโก 14 ก.ย. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จะหารือร่วมกันในประเด็นเรื่องยูเครนกับไต้หวันที่งานประชุมในอุซเบกิสถานวันพฤหัสบดี ซึ่งรัฐบาลรัสเซียระบุว่าเป็นวาระพิเศษทางภูมิรัฐศาสตร์การเมืองโลกอย่างมีนัยสำคัญ นายยูริ อูชาคอฟ ที่ปรึกษาประธานาธิบดีรัสเซียเผยว่า ประธานาธิบดีปูตินกับประธานาธิบดีสีจะหารือร่วมกันเกี่ยวกับประเด็นทวีภาคีและประเด็นสำคัญในระดับภูมิภาคและนานาชาติ ผู้นำรัสเซียกับจีนจะให้การประเมินเชิงบวกต่อระดับความไว้วางใจที่สูงเป็นประวัติการณ์ภายใต้ความสัมพันธ์รูปแบบพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์ระดับทวิภาคี ทั้งยังระบุว่า รัฐบาลรัสเซียให้ความสำคัญกับจุดยืนที่เป็นกลางของจีนต่อภาวะวิกฤตในยูเครน เนื่องจากจีนเข้าใจถึงแรงกดดันที่ทำให้รัสเซียต้องใช้ปฏิบัติการพิเศษทางทหารในยูเครนเป็นอย่างดี ซึ่งรัสเซียจะหารือในประเด็นนี้กับจีนอย่างละเอียดที่งานประชุมในอุซเบกิสถานวันพฤหัสบดี แต่จะไม่มีการลงนามในข้อตกลงด้านพลังงานครั้งใหม่กับจีนในอุซเบกิสถาน ทั้งนี้ การประชุมระหว่างประธานาธิบดีปูตินกับประธานาธิบดีสีจะจัดขึ้นนอกรอบเวทีประชุมสุดยอดผู้นำองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ที่นครซามาร์กันต์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของอุซเบกิสถาน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า การประชุมนี้เริ่มขึ้นในปี 2544 เพื่อรับมือแนวคิดสุดโต่งด้านศาสนาอิสลามและความกังวลด้านความมั่นคงอื่น ๆ ในภูมิภาค ประกอบด้วยจีน รัสเซีย และ 4 สาธารณรัฐในเอเชียกลาง คือ คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน คีร์กิซสถาน และทาจิกิสถาน โดยมีอินเดียและปากีสถานเข้าร่วมในปี 2560 นอกจากนี้ การเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวของประธานาธิบดีสียังถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำจีนเดินทางออกนอกประเทศในรอบกว่า 2 ปีนับตั้งแต่เกิดการระบาดของโรคโควิด-19 อีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

ศาลเยอรมนีสั่งคุกตลอดชีวิตชายยิง พนง. ปั๊มตายเหตุถูกสั่งสวมแมสก์

ศาลเยอรมนีตัดสินลงโทษจำคุกชายวัย 50 ปีตลอดชีวิตจากคดีที่เขายิงพนักงานปั๊มน้ำมันเสียชีวิตหลังพนักงานคนดังกล่าวเตือนให้เขาสวมหน้ากากอนามัย

ออสเตรเลียอาจใช้ภาพบุคคลสำคัญบนธนบัตรแทนควีนอังกฤษ

ซิดนีย์ 13 ก.ย. – รัฐบาลออสเตรเลียระบุว่า ออสเตรเลียจะไม่เปลี่ยนไปใช้พระบรมฉายาทิสสลักษณ์ของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 แทนสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 บนธนบัตร 5 ดอลลาร์ออสเตรเลีย และอาจเปลี่ยนไปใช้รูปบุคคลสำคัญของออสเตรเลียแทน นายแอนดรูว์ ลีห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังของออสเตรเลีย เผยวันนี้ว่า แม้เหรียญกษาปณ์ของออสเตรเลียมีข้อกำหนดให้ใช้พระบรมฉายาทิสสลักษณ์ของราชวงศ์อังกฤษ แต่การตัดสินใจใช้พระบรมฉายาทิสสลักษณ์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 บนธนบัตร 5 ดอลลาร์ออสเตรเลียนั้นไม่ได้อยู่ในข้อกำหนด และการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ นายลีห์ยังตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามว่ารัฐบาลออสเตรเลียจะพิจารณาเปลี่ยนพระบรมฉายาทิสสลักษณ์ของราชวงศ์อังกฤษเป็นบุคคลสำคัญของออสเตรเลีย เช่น นายเอ็ดเวิร์ด มาโบ นักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิในดินแดนชนพื้นเมืองหรือไม่ว่า รัฐบาลออสเตรเลียจะต้องหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ต่อไป และไม่จำเป็นต้องเร่งรีบเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เรื่องสำคัญในตอนนี้คือการเปลี่ยนพระบรมฉายาทิสสลักษณ์บนเหรียญกษาปณ์ สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า การเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ได้จุดประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับอนาคตของออสเตรเลียในฐานะประเทศในเครือจักรภพของอังกฤษ ซึ่งเป็นรัฐกึ่งเอกราชที่ยอมรับพระมหากษัตริย์อังกฤษเป็นประมุขแห่งรัฐ ขณะที่นายกรัฐมนตรีแอนโทนี อัลบาเนซี ของออสเตรเลีย กล่าววันนี้ว่า เขายังไม่ได้คิดเรื่องการเปลี่ยนธนบัตร 5 ดอลลาร์ออสเตรเลีย ส่วนโรงกษาปณ์ออสเตรเลียระบุว่า จะออกเหรียญกษาปณ์ที่ไม่มีพระบรมฉายาทิสสลักษณ์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในปี 2566.-สำนักข่าวไทย  

ยอดผู้ชมซีรีส์ “The Crown” ในอังกฤษพุ่งกว่า 800%

ลอนดอน 13 ก.ย. – ยอดผู้ชมซีรีส์เรื่อง ‘เดอะ คราวน์’ (The Crown) ในอังกฤษพุ่งขึ้นกว่า 800 เปอร์เซ็นต์หลังจากที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 8 กันยายน โดยซีรีส์ดังกล่าวมีเนื้อหาอิงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในยุคสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ข้อมูลจากวิป มีเดีย (Whip Media) บริษัทรวบรวมข้อมูลเชิงลึกด้านโทรทัศน์และภาพยนตร์ของสหรัฐ ระบุว่า ยอดผู้ชมซีรีส์ ‘เดอะ คราวน์’ ในอังกฤษพุ่งขึ้นกว่า 800 เปอร์เซ็นต์ในช่วงวันที่ 9-11 กันยายน เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของสัปดาห์ก่อน หลังสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 8 กันยายน ขณะที่สหรัฐมียอดผู้ชมซีรีส์ดังกล่าวเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่าในช่วงเดียวกันกับอังกฤษ และฝรั่งเศสมียอดผู้ชมเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า ส่วนทั่วโลกมียอดผู้ชมซีรีส์ ‘เดอะ คราวน์’ เพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของสัปดาห์ก่อน นอกจากนี้ ซีรีส์เรื่องนี้ยังติด 10 อันดับรายการที่มีผู้เข้าชมสูงสุดในเน็ตฟลิกซ์ของออสเตรเลียอีกด้วย หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า […]

ไฟไหม้โชว์รูมรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าในอินเดีย ตาย 8 คน

นิวเดลี 13 ก.ย. – เกิดเหตุไฟไหม้โชว์รูมรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแห่งหนึ่งในอินเดีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน และบาดเจ็บ 11 คน ซึ่งถือเป็นเหตุไฟไหม้ที่มีความเชื่อมโยงกับรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าครั้งใหญ่ที่สุดของอินเดีย ตำรวจอินเดียเผยวันนี้ว่า เกิดเหตุไฟไหม้โชว์รูมรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ตั้งอยู่ในชั้นใต้ดินของโรงแรมแห่งหนึ่งในเมืองเซกันเดอราบาด ทางตอนใต้ของอินเดีย เมื่อช่วงค่ำวันจันทร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 คน และบาดเจ็บ 11 คน ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้ที่พักอยู่ในโรงแรม และเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ ขณะนี้ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไหม้ได้แล้ว และกำลังเร่งสืบสวนเกี่ยวกับเหตุเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบว่ามีรถสกู๊ตเตอร์จอดอยู่ในจุดที่เป็นต้นเพลิง แต่ยังไม่แน่ใจว่าสาเหตุเพลิงไหม้เกิดจากรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่ชาร์จไฟมากเกินไปจนทำให้ไฟลุกลาม หรือมีสาเหตุมาจากประเด็นอื่น และยังไม่ทราบข้อมูลแน่ชัดเกี่ยวกับตัวแทนจำหน่ายหรือผู้ผลิตรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าดังกล่าว ในขณะเดียวกัน สื่อท้องถิ่นของอินเดียได้เผยแพร่ภาพถ่ายเหตุไฟไหม้ที่แสดงให้เห็นว่า ตำรวจและเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เครนและอุปกรณ์อื่น ๆ ในการช่วยชีวิตผู้ที่เข้าพักบริเวณชั้นบนของโรงแรมสูง 4 ชั้นในขณะที่ควันไฟพวยพุ่งออกมาจากทางหน้าต่างของโรงแรม ส่วนนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย ระบุในแถลงการณ์ว่า เขาขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าว และสัญญาว่าจะมอบเงินช่วยเหลือให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บจากเหตุไฟไหม้ในครั้งนี้ ด้านสำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า อินเดียเกิดเหตุไฟไหม้ที่เชื่อมโยงกับรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าหลายครั้งในปีนี้จนทำให้รัฐบาลอินเดียรู้สึกตื่นตระหนกเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว เนื่องจากได้ประกาศนโยบายสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้รถสกู๊ตเตอร์ 2 ล้อเพื่อลดปัญหามลพิษ โดยที่ผลการสืบสวนเหตุไฟไหม้ในครั้งก่อน ๆ พบว่ามีสาเหตุหลักมาจากปัญหาข้อบกพร่องในเซลล์ไฟฟ้าของแบตเตอรี่และโมดูลแบตเตอรี่.-สำนักข่าวไทย

“นาซา” ตั้งเป้าปล่อยจรวด “SLS” ครั้งใหม่ 27 ก.ย.

องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ หรือนาซา ตั้งเป้าส่งจรวด ‘สเปซ ลอนช์ ซิสเท็ม’ หรือเอสแอลเอส ขึ้นสู่อวกาศในวันที่ 27 กันยายน

ชายสูงวัยออสเตรเลียถูกจิงโจ้ที่เลี้ยงไว้ทำร้ายจนตาย

เพิร์ท 13 ก.ย. – ตำรวจออสเตรเลียเผยว่า ชายชาวออสเตรเลีย วัย 77 ปี เสียชีวิตหลังถูกจิงโจ้ที่คาดว่าเขาเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยงทำร้ายในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานว่า หน่วยกู้ชีพของออสเตรเลียได้รับแจ้งเหตุญาติพบชายออสเตรเลีย วัย 77 ปี ที่บ้านพักในเมืองเรดมอนด์ ทางตอนใต้ของนครเพิร์ทห่างออกไปราว 400 กิโลเมตร เมื่อช่วงค่ำวันอาทิตย์ โดยที่ร่างกายของเขามีบาดแผลถูกทำร้ายอย่างสาหัส หน่วยกู้ชีพได้แจ้งเหตุดังกล่าวเพื่อขอความช่วยเหลือจากตำรวจรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย ซึ่งมีนครเพิร์ทเป็นเมืองเอก หลังจิงโจ้ที่ชายคนดังกล่าวเลี้ยงไว้ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่กู้ชีพเข้าใกล้ชายคนนี้จนทำให้เขาเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ โฆษกตำรวจรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียระบุเมื่อวันจันทร์ว่า เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องตัดสินใจยิงจิงโจ้ตัวดังกล่าวตาย เนื่องจากมันมีท่าทีเป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่กู้ชีพ ตำรวจคาดว่าชายคนดังกล่าวถูกจิงโจ้ทำร้ายเมื่อวันอาทิตย์ และเชื่อว่าเขานำจิงโจ้ตัวนี้มาเลี้ยงไว้เป็นสัตว์เลี้ยง ทั้งนี้ ออสเตรเลียมีประชากรจิงโจ้ราว 50 ล้านตัว และมักไม่ค่อยเกิดเหตุจิงโจ้ทำร้ายมนุษย์ อย่างไรก็ดี ชายคนดังกล่าวนับเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกจากการถูกจิงโจ้ทำร้ายนับตั้งแต่ปี 2479.-สำนักข่าวไทย

1 45 46 47 48 49 315