เกาหลีเหนือชี้ซ้อมรบเกาหลีใต้-สหรัฐเป็นเรื่องอันตราย

โซล 7 พ.ย. – กองทัพเกาหลีเหนือระบุว่า การซ้อมรบร่วมกันระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐเป็นการกระทำที่ยั่วยุอย่างโจ่งแจ้งและเป็นการซ้อมรบที่อันตราย โดยเกาหลีเหนือได้จำลองการโจมตีฐานทัพและเครื่องบินรบของทั้งสองประเทศเพื่อเตรียมตอบโต้การซ้อมรบดังกล่าวไว้แล้ว สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ ของทางการเกาหลีเหนือ รายงานอ้างแถลงการณ์ของกองทัพเกาหลีเหนือในวันนี้ว่า การซ้อมรบร่วมกันระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐภายใต้รหัส ‘วิจิเลินต์ สตอร์ม’ (Vigilant Storm) เป็นการกระทำที่ยั่วยุโดยมีเจตนาเพิ่มความตึงเครียด รวมถึงเป็นการซ้อมรบที่อันตรายและเข้าข่ายก้าวร้าวรุนแรง กองทัพเกาหลีเหนือได้จำลองการโจมตีรูปแบบต่าง ๆ เพื่อทำลายฐานทัพอากาศและฝูงบินของเกาหลีใต้กับสหรัฐ รวมถึงการโจมตีเมืองสำคัญของเกาหลีใต้อีกด้วย นอกจากนี้ กองทัพเกาหลีเหนือยังยืนยันว่า ได้ทดสอบยิงขีปนาวุธร่อน 2 ลูกไปตกในน่านน้ำนอกชายฝั่งเมืองอุลซัน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นที่ตั้งโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์และนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา รวมถึงการทดสอบยิงขีปนาวุธทิ้งตัวอีก 2 ลูกที่สามารถบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ได้ด้วย เคซีเอ็นเอยังรายงานว่า เสนาธิการกองทัพประชาชนเกาหลีเหนือ หรือเคพีเอ ได้กล่าวหารัฐบาลเกาหลีใต้กับสหรัฐว่าพยายามยั่วยุให้เกิดการเผชิญหน้าที่ไม่แน่นอนมากขึ้น พร้อมให้คำมั่นว่าจะขัดขวางการซ้อมรบร่วมกันของทั้งสองประเทศด้วยวิธีทางการทหารที่ยั่งยืน แน่วแน่ และรุนแรง ทั้งยังระบุว่า ยิ่งศัตรูเดินหน้าใช้วิธีทางทหารยั่วยุเกาหลีเหนือมากขึ้นเท่าใด เกาหลีเหนือก็จะยิ่งตอบโต้ศัตรูอย่างเต็มกำลังและไร้ความปราณีมากขึ้นเท่านั้น. -สำนักข่าวไทย

ผู้นำอินโดนีเซียเผย “ปูติน” ยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องร่วมประชุมจี 20

ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย ระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ที่อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพในเดือนนี้หรือไม่

เมืองหลวงอินเดียสั่งปิดโรงเรียนประถมหลังเผชิญมลพิษอากาศ

นิวเดลี 4 พ.ย. – กรุงนิวเดลีของอินเดียสั่งหยุดการเรียนการสอนในโรงเรียนประถมศึกษาตั้งแต่วันเสาร์เป็นต้นไป และกำลังพิจารณาว่าจะใช้คำสั่งจำกัดการใช้ยานยนต์บนท้องถนนหรือไม่ ในขณะที่กำลังประสบปัญหามลพิษทางอากาศระดับสูงอย่างต่อเนื่อง นายอาร์วินด์ เคจริวาล มุขมนตรีกรุงนิวเดลีของอินเดีย เผยวันนี้ว่า เขาได้สั่งหยุดการเรียนการสอนในโรงเรียนประถมศึกษาทั้งหมดในกรุงนิวเดลีตั้งแต่วันเสาร์ และกำลังพิจารณาว่าจะใช้คำสั่งจำกัดการใช้ยานยนต์บนท้องถนนหรือไม่ คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ผู้ปกครองชาวอินเดียและนักสิ่งแวดล้อมหลายคนรู้สึกวิตกกังวลและเรียกร้องผ่านสื่อโซเชียลมีเดียให้ทางการกรุงนิวเดลีพิจารณาใช้คำสั่งหยุดการเรียนการสอนในโรงเรียนเพื่อลดผลกระทบด้านมลพิษทางอากาศต่อเด็ก ขณะที่คณะกรรมการควบคุมมลพิษของรัฐบาลอินเดียได้ประกาศห้ามรถบรรทุกสินค้าที่ไม่จำเป็นและใช้น้ำมันดีเซลเดินทางเข้ากรุงนิวเดลีโดยเด็ดขาด ข้อมูลจากคณะกรรมการควบคุมมลพิษของรัฐบาลอินเดียระบุว่า มีชาวกรุงนิวเดลีจำนวนมากแจ้งเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับอาการหายใจไม่สะดวก ระคายเคืองตา จมูก และคอ ในขณะที่กรุงนิวเดลีมีดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับรุนแรงและอันตราย (severe and hazardous) เกือบทั่วทุกพื้นที่ และมีค่าสูงกว่าระดับ 400 ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง และส่งผลกระทบรุนแรงต่อผู้ที่มีโรคประจำตัว.-สำนักข่าวไทย

“เซเลนสกี” เผยจะไม่ร่วมประชุมจี 20 หากมีชื่อ “ปูติน”

เคียฟ 4 พ.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ระบุว่า ยูเครนจะไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ที่อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพในเดือนนี้ หากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย เข้าร่วมประชุมด้วย ประธานาธิบดีเซเลนสกีเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า หากประธานาธิบดีปูตินเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ที่อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพในวันที่ 15-16 พ.ย. ยูเครนก็จะไม่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว ขณะที่นางเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอินโดนีเซีย กล่าวว่า อินโดนีเซียยังไม่ทราบแน่ชัดว่าประธานาธิบดีปูตินจะเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้หรือไม่ และกำลังรอการยืนยันจากรัฐบาลรัสเซีย แต่คาดว่าจะได้รับคำตอบที่ชัดเจนในช่วงก่อนถึงกำหนดจัดงานเพียงไม่กี่วัน ทั้งยังระบุว่า อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ในปีนี้ ไม่มีสิทธิขับรัสเซียพ้นจากการเป็นประเทศสมาชิกของกลุ่ม หรือเพิกถอนคำเชิญประธานาธิบดีปูตินเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวตามข้อเรียกร้องของยูเครนเมื่อวันอังคาร ยกเว้นแต่เพียงว่าประเทศสมาชิกกลุ่มจี 20 จะลงมติเห็นชอบร่วมกัน ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย ได้ใช้ความพยายามอย่างหนักในการเป็นตัวกลางแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครนด้วยการเดินทางเยือนกรุงเคียฟและกรุงมอสโกในเดือนมิถุนายน รวมถึงเชิญประธานาธิบดีเซเลนสกีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ด้วยตัวเอง อย่างไรก็ดี ขณะนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ ยังคงยืนยันที่จะเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ที่จะจัดขึ้นที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย. -สำนักข่าวไทย

“สี จิ้นผิง” ชี้จีนกับเยอรมนีควรร่วมมือกันท่ามกลางความวุ่นวาย

ปักกิ่ง 4 พ.ย. – ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน กล่าวชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นที่จีนกับเยอรมนีต้องร่วมมือกันมากขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและวุ่นวาย ในระหว่างที่เขาได้พบปะกับนายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี เป็นครั้งแรกในกรุงปักกิ่งของจีน สถานีวิทยุโทรทัศน์กลางแห่งประเทศจีน หรือซีซีทีวี รายงานว่า ประธานาธิบดีสีกล่าวในระหว่างการประชุมแบบพบกันแบบตัวต่อตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ที่นายกรัฐมนตรีชอลซ์เข้ารับตำแหน่งที่หอประชุมประชาชนในกรุงปักกิ่งว่า ในฐานะที่จีนกับเยอรมนีเป็นประเทศทรงอิทธิพล ทั้งสองประเทศควรทำงานร่วมกันมากขึ้นในช่วงเวลาที่โลกกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและวุ่นวายเพื่อคงไว้ซึ่งสันติภาพของโลก ขณะที่นายกรัฐมนตรีชอลซ์บอกกับผู้นำจีนว่า การพบปะกันแบบตัวต่อตัวระหว่างเขากับประธานาธิบดีสีเป็นเรื่องดี ๆ ที่เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียด เช่น การบุกโจมตียูเครนของรัสเซียที่เป็นปัญหาต่อระเบียบโลก นายกรัฐมนตรีชอลซ์ยังระบุว่า เยอรมนีกับจีนจะหารือร่วมกันในประเด็นด้านความสัมพันธ์ระหว่างทวีปยุโรปกับจีน การรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภาวะอดอยากทั่วโลก การพัฒนาความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างเยอรมนีกับจีน รวมถึงประเด็นอื่น ๆ ที่ทั้งสองประเทศมีมุมมองที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ นักวิเคราะห์หลายรายตั้งข้อสังเกตว่า นายกรัฐมนตรีชอลซ์ถือเป็นผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำของโลก หรือจี 7 คนแรกที่เดินทางเยือนจีนในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา และการเดินทางเยือนจีนในครั้งนี้ของผู้นำเยอรมนีจะเป็นการทดสอบความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับชาติตะวันตกหลังจากที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายทวีความตึงเครียดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่ถล่มเขตกันชนทางทะเลเมื่อคืนวานนี้

โซล 4 พ.ย. – เกาหลีเหนือยิงปืนใหญ่ถล่มเขตกันชนทางทะเลระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้เมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธเป็นจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ ซึ่งรวมถึงการทดสอบยิงขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามทวีปที่ประสบความล้มเหลวเมื่อวันพฤหัสบดี กองทัพเกาหลีใต้เผยวันนี้ว่า เกาหลีเหนือได้ยิงกระสุนปืนใหญ่ราว 80 นัดไปยังเขตกันชนทางทะเลระหว่างเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้เมื่อเวลา 23.28 น. ของคืนวันพฤหัสบดีตามเวลาในเกาหลีใต้ หรือตรงกับเวลา 21.28 น. ของคืนเดียวกันตามเวลาประเทศไทย ทั้งยังระบุว่า การยิงปืนใหญ่ของเกาหลีเหนือเป็นการละเมิดข้อตกลงปี 2561 ที่มีการกำหนดเขตกันชนขึ้นเพื่อลดความตึงเครียดระหว่างทั้งสองประเทศ ขณะที่นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ระบุว่า การทดสอบยิงขีปนาวุธทิ้งตัวข้ามทวีปของเกาหลีเหนือเข้าข่ายผิดกฎหมายและเป็นภัยต่อความมั่นคง รัฐบาลสหรัฐกับเกาหลีใต้ให้คำมั่นว่าจะร่วมมือกันเพื่อหาทางต่อต้านภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นของเกาหลีเหนือ ก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธราว 30 ลูกในช่วงวันพุธถึงวันพฤหัสบดี ในจำนวนนี้ มีขีปนาวุธ 1 ลูกไปตกในพื้นที่ใกล้น่านน้ำของเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเกาหลีในปี 2496 ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญหลายรายให้ความเห็นว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธหลายลูกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเพื่อประท้วงการซ้อมรบร่วมกันระหว่างสหรัฐกับเกาหลีใต้ รวมถึงเตรียมความพร้อมในการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหม่ ซึ่งจะเป็นครั้งที่ 7 ของเกาหลีเหนือ ทั้งนี้ เกาหลีเหนือเคยออกมาระบุว่า การซ้อมรบทางอากาศร่วมกันของสหรัฐกับเกาหลีใต้ภายใต้รหัส ‘วิจิเลินต์ สตอร์ม’ (Vigilant Storm) หรือการระวังภัยทางอากาศ เป็นการซ้อมรบทางทหารที่รุนแรงและยั่วยุเพื่อตั้งเป้าโจมตีเกาหลีเหนือ พร้อมทั้งขู่สหรัฐกับเกาหลีใต้ว่าจะต้องชดใช้ด้วยความเสียหายครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์หากยังคงเดินหน้าซ้อมรบร่วมกันต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ทวิตเตอร์จะเริ่มปลดพนักงานในวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐ

แคลิฟอร์เนีย 4 พ.ย. – ทวิตเตอร์ระบุว่า บริษัทจะเริ่มปรับลดพนักงานออกจากตำแหน่งในวันศุกร์ตามเวลาในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐ หลังอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าเทสลา ปิดดีลซื้อกิจการทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ก่อน สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างอีเมลของทวิตเตอร์ที่ส่งถึงพนักงานเป็นการภายในเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า พนักงานของทวิตเตอร์จะได้รับข้อความแจ้งเกี่ยวกับอนาคตในการทำงานผ่านทางอีเมลตั้งแต่เวลาเปิดทำการในวันศุกร์ ทวิตเตอร์จำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการปรับลดจำนวนพนักงานทั่วโลก ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ยากลำบาก เพื่อให้บริษัทดำเนินกิจการต่อไปได้อย่างมั่นคง พนักงานทุกคนไม่จำเป็นต้องเข้ามาทำงานในวันศุกร์ เนื่องสำนักงานของทวิตเตอร์จะปิดทำการชั่วคราวในวันดังกล่าว และจะระงับการแตะบัตรผ่านเข้าออกสำนักงานออกไปก่อน อีเมลดังกล่าวยังระบุว่า ทวิตเตอร์ทราบดีว่าการปรับลดจำนวนพนักงานจะส่งผลกระทบต่อบุคลากรจำนวนมากที่ได้สร้างคุณประโยชน์ให้แก่บริษัท แต่ทวิตเตอร์ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากจำเป็นต้องทำเช่นนี้เพื่อให้บริษัทขับเคลื่อนต่อไปได้ในอนาคต อย่างไรก็ดี อีเมลของทวิตเตอร์ไม่ได้เปิดเผยว่าจะปรับลดพนักงานเป็นจำนวนเท่าใด แต่หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์และนิวยอร์กไทม์สของสหรัฐรายงานว่า ทวิตเตอร์จะปลดพนักงานออกจากตำแหน่งร้อยละ 50 จากพนักงานทั้งหมด 7,500 คน.-สำนักข่าวไทย

อดีตนายกฯ ปากีสถานอาการคงที่หลังถูกยิงที่ขา

อิสลามาบัด 4 พ.ย. – นายอิมราน ข่าน อดีตนายกรัฐมนตรีปากีสถาน เข้ารับการผ่าตัดเอากระสุนออกและมีอาการคงที่ หลังเขาถูกยิงที่ขาในขณะเข้าร่วมขบวนประท้วงที่แคว้นปัญจาบ ทางตะวันออกของปากีสถาน เพื่อเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ก่อนครบวาระ แกนนำระดับสูงของพรรคพีทีไอ (PTI) ของนายข่านระบุว่า นายข่าน วัย 70 ปี กล่าวโทษนายกรัฐมนตรีเชห์บาซ ชารีฟ และรัฐบาลปากีสถานว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุโจมตีในครั้งนี้ นายข่านยังเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีชารีฟลาออกจากตำแหน่ง ไม่เช่นนั้นก็จะต้องเผชิญกับเหตุประท้วงทั่วประเทศ ทั้งยังระบุว่า นายข่านจะแจ้งความกับตำรวจปากีสถานเพื่อเอาผิดกับนายกรัฐมนตรีชารีฟและนายรานา ซานวลลาห์ รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของปากีสถาน รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชารีฟได้ออกแถลงการณ์ประณามเหตุโจมตีดังกล่าว และเรียกร้องให้ตำรวจปากีสถานเร่งสืบสวนเรื่องนี้ ส่วนนายซานวลลาห์ได้ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาของนายข่าน และระบุว่านายกรัฐมนตรีชารีพจะไม่ลาออกจากตำแหน่งตามข้อเรียกร้องของพรรคพีทีไอ ขณะที่มุขมนตรีของแคว้นปัญจาบประกาศผ่านทวิตเตอร์ว่า เขาได้ตั้งทีมสืบสวนร่วมเพื่อสอบสวนเหตุดังกล่าวแล้ว ในขณะเดียวกัน นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์ว่า เขาขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในปากีสถานหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงและขอประณามผู้ก่อเหตุยิงนายข่าน ทั้งยังระบุว่า สหรัฐพร้อมยืนหยัดสนับสนุนระบอบประชาธิปไตยและความสงบสุขในปากีสถาน และขอยืนเคียงข้างประชาชนปากีสถานทุกคน.-สำนักข่าวไทย

พ่อชาวจีนโทษนโยบายโควิดเป็นศูนย์ทำลูกชายตาย

ปักกิ่ง 3 พ.ย. – คุณพ่อชาวจีนระบุว่า การใช้นโยบายควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวดของจีนทำให้ลูกชาย วัย 3 ขวบ ของเขาเสียชีวิตทางอ้อมหลังมีภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษจากการสูดดมก๊าซดังกล่าวมากเกินไป จนทำให้เข้ารับการรักษาได้ไม่ทันการ นายถัว ฉีเล่ย คุณพ่อชาวจีนของเด็กชาย วัย 3 ขวบ ชื่อ เหวินซวน กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์สว่า เขาเชื่อว่าการใช้นโยบายควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวดของจีนมีส่วนทำให้ลูกชายเสียชีวิตหลังมีภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษจากการสูดดมก๊าซดังกล่าวมากเกินไป จนทำให้เข้ารับการรักษาได้ไม่ทันการเมื่อวันอังคารที่นครหลานโจวในมณฑลกานซู่ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ซึ่งประกาศใช้มาตรการล็อกดาวน์มาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว นายถัวยังระบุว่า เหวินซวนมีอาการป่วยหลังจากที่ภรรยาของเขาลื่นล้มเนื่องจากสูดดมก๊าซมากเกินไปในขณะที่กำลังทำอาหารเมื่อวันอังคาร เขาพยายามโทรเรียกรถพยาบาลและแจ้งตำรวจเกี่ยวกับเหตุดังกล่าว แต่ก็ไม่สามารถติดต่อใครได้ อาการป่วยของเหวินซวนเริ่มแย่ลงในอีกครึ่งชั่วโมงต่อมา นายถัวจึงตัดสินใจปั๊มหัวใจลูกชายจนอาการดีขึ้นเพียงสั้น ๆ และรีบวิ่งอุ้มลูกไปที่ประตูทางออกของชุมชนที่อยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวด แต่เจ้าหน้าที่กลับไม่ยอมเปิดประตูให้เขาออกไป และสั่งให้เขาโทรแจ้งทางการท้องถิ่นหรือเรียกรถพยาบาล นายถัวระบุว่า เขาตัดสินใจพังประตูกั้นออกไปพร้อมลูกชายโดยไม่รอรถพยาบาล และขอให้ชาวบ้านแถวนั้นช่วยโทรเรียกรถแท็กซี่เพื่อไปโรงพยาบาล แต่ความพยายามเหล่านี้กลับสูญเปล่า เมื่อแพทย์ไม่สามารถช่วยชีวิตเหวินซวนไว้ได้ เขาจึงเชื่อว่านโยบายโควิดที่เข้มงวดของจีนมีส่วนทำให้ลูกชายของเขาเสียชีวิตทางอ้อม ทั้งนี้ เรื่องราวของเหวินซวนได้กลายเป็นประเด็นพูดถึงอย่างมากในสื่อโซเชียลมีเดียของจีน และมีผู้ใช้งานเข้ามาแสดงความคิดเห็นในทำนองเดียวกับนายถัวว่า นโยบายโควิดที่เข้มงวดของจีนมีส่วนทำให้เหวินซวนเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

ตุรกีเผยเรือบรรทุกธัญพืช 6 ลำออกจากท่าเรือยูเครนวันนี้

ตุรกีระบุว่า เรือขนส่งธัญพืช 6 ลำได้เดินทางออกจากท่าเรือของยูเครนในวันนี้ หลังรัสเซียกลับมาเข้าร่วมข้อตกลงให้ยูเครนส่งออกธัญพืชผ่านเส้นทางเดินเรือในทะเลดำ

อดีตแม่บ้านฟ้อง “เจฟฟ์ เบโซส” ใช้งานหนัก-เหยียดเชื้อชาติ

วอชิงตัน 2 พ.ย. – เจฟฟ์ เบโซส มหาเศรษฐีชาวอเมริกันและผู้ก่อตั้งแอมะซอนดอตคอม (Amazon.com) ถูกอดีตแม่บ้านยื่นฟ้องว่าเธอถูกลูกน้องของเบโซสเหยียดเชื้อชาติและถูกบังคับให้ทำงานนานหลายชั่วโมงในสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขลักษณะ โดยไม่มีช่วงเวลาให้พักสั้น ๆ หรือรับประทานอาหาร เอกสารยื่นฟ้องของเมอร์เซเดส เวดา อดีตแม่บ้านของเบโซส ต่อศาลของเมืองซีแอตเทิลในรัฐวอชิงตันของสหรัฐเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นระบุว่า เวดา ซึ่งทำงานให้เบโซสในเดือนกันยายน 2562 ต้องทำงานวันละ 10-14 ชั่วโมง และยังมีหน้าที่ดูแลแม่บ้านในทีมอีก 5-6 คน โดยไม่มีห้องพักผ่อน ห้องรับประทานของว่าง หรือห้องน้ำที่เป็นสัดส่วนให้แก่พนักงาน ทำให้แม่บ้านจำเป็นต้องรับประทานอาหารในห้องซักรีด และต้องปีนหน้าต่างออกไปเข้าห้องน้ำอีกแห่งที่อยู่ไกลออกไป เนื่องจากถูกสั่งห้ามใช้ห้องน้ำที่อยู่ใกล้ห้องรักษาความปลอดภัย เอกสารดังกล่าวยังระบุข้อความที่เวดากล่าวหาพนักงานระดับผู้จัดการที่มีหน้าที่ดูแลบ้านของเบโซสว่า บุคคลเหล่านี้มีนิสัยก้าวร้าวและพูดจาดูถูกเวดา อีกทั้งยังปฏิบัติต่อเธอและแม่บ้านคนอื่น ๆ ที่เป็นชาวฮิสแปนิกไม่เท่าเทียมกับพนักงานซ่อมบำรุงและแม่บ้านที่เป็นคนผิวขาว ทั้งนี้ เวดาถูกเลิกจ้างหลังทำงานดังกล่าวเป็นเวลาเกือบ 3 ปี และตัดสินใจยื่นฟ้องเรื่องนี้ต่อศาลเพื่อเรียกร้องค่าตอบแทน ผลประโยชน์ และเงินชดเชยค่าเสียหายที่เกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้-สหรัฐประกาศขยายเวลาการซ้อมรบทางอากาศครั้งใหญ่

โซล 3 พ.ย. – กองทัพอากาศของเกาหลีใต้เผยว่า เกาหลีใต้จะขยายปฏิบัติการซ้อมรบทางอากาศครั้งใหญ่ร่วมกับสหรัฐออกไป เนื่องจากเกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธหลายลูกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการกระทำที่มีเจตนายั่วยุ กองทัพอากาศของเกาหลีเหนือระบุในแถลงการณ์หลังจากที่เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธ 3 ลูกในวันนี้ว่า เกาหลีใต้ได้ตัดสินใจขยายระยะเวลาปฏิบัติการซ้อมรบทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดร่วมกับสหรัฐภายใต้รหัส ‘วิจิเลินต์ สตอร์ม’ (Vigilant Storm) หรือการระวังภัยทางอากาศ ซึ่งเริ่มซ้อมตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม เนื่องจากเกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธหลายลูกในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการกระทำที่มีเจตนายั่วยุ ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นระบุว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธทิ้งตัว 3 ลูกในวันนี้ ซึ่งคาดว่าอาจมีขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยไกลข้ามทวีปรวมอยู่ด้วย ซึ่งเป็นขีปนาวุธที่มีพิสัยทำการระยะไกลที่สุดของเกาหลีเหนือ และได้รับการออกแบบให้สามารถบรรทุกหัวรบนิวเคลียร์ไปยังอีกฟากของโลกได้ พร้อมระบุว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้อีกอย่างน้อย 2 ลูกในครั้งนี้ด้วย ขณะที่สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นรายงานว่า เกาหลีเหนือได้ยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ 2 ลูกที่ความสูงระดับ 50 กิโลเมตรและมีพิสัยการยิง 350 กิโลเมตร ส่วนสำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงานอ้างกองทัพเกาหลีใต้ที่ระบุว่า เกาหลีเหนือได้ทดสอบยิงขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยไกลข้ามทวีป แต่ประสบความล้มเหลว.-สำนักข่าวไทย

1 27 28 29 30 31 315