Arnat Sakdaronnarong

เบอร์ลิน 8 พ.ย. – ตัวแทนงานฟุตบอลโลก หรือเวิลด์คัพ 2022 ที่มีกาตาร์เป็นเจ้าภาพ ระบุว่า การรักเพศเดียวกันเป็นความเสียหายทางจิตใจ ในขณะที่กาตาร์กำลังเตรียมเปิดฉากการแข่งขันฟุตบอลโลกในอีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ นายคาลิด ซัลมาน อดีตนักฟุตบอลทีมชาติกาตาร์ และตัวแทนงานฟุตบอลโลก 2022 ที่มีกาตาร์เป็นเจ้าภาพ ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ของเยอรมนี ซึ่งถ่ายทำในกรุงโดฮาของกาตาร์ ว่า กลุ่มรักเพศเดียวกันต้องเคารพกฎหมายของกาตาร์ เนื่องจากการรักเพศเดียวกันเป็นเรื่องต้องห้ามตามกฎหมายอิสลาม ทั้งยังระบุว่า เขาไม่ได้เป็นชาวมุสลิมที่เคร่งในหลักศาสนา แต่มองว่าสิ่งที่ทำให้การรักเพศเดียวกันเป็นเรื่องต้องห้ามตามกฎหมายอิสลาม เนื่องจากการรักเพศเดียวกันเป็นความเสียหายทางจิตใจ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ของกาตาร์ที่เดินทางมาพร้อมกับนายซัลมานได้ขอให้หยุดการสัมภาษณ์กลางคัน ขณะที่คณะผู้จัดงานฟุตบอลโลกของกาตาร์ยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก่อนหน้านี้ นักฟุตบอลหลายคนได้ออกมาแสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับสิทธิของแฟนบอลที่จะเดินทางมาชมการแข่งขันฟุตบอลโลกที่กาตาร์ โดยเฉพาะกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBT+) และผู้หญิง ซึ่งกลุ่มสิทธิหลายแห่งระบุว่ากฎหมายของกาตาร์ปฏิบัติต่อบุคคลกลุ่มนี้อย่างไม่เท่าเทียม ทั้งนี้ กาตาร์เป็นประเทศแรกในภูมิภาคตะวันออกกลางที่ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 20 พ.ย. – 18 ธ.ค.  แต่กลับตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจากปัญหากฎหมายด้านแรงงานต่างชาติและกฎหมายด้านสังคมที่เข้มงวด อย่างไรก็ดี กาตาร์คาดว่าจะมีผู้เดินทางมาเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้กว่า 1 ล้านคน. -สำนักข่าวไทย

ปักกิ่ง 8 พ.ย. – จีนเปิดตัวเครื่องบินบรรทุกผู้โดยสารขนาดใหญ่ลำแรกที่สร้างขึ้นเอง ชื่อว่า ‘ซี919’ (C919) ซึ่งได้รับการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านอากาศยานของจีน ที่งานแสดงอากาศยานที่เมืองจูไห่ ทางตอนใต้ของจีน จีนเปิดตัวอากาศยานลำตัวแคบ ซี919 ซึ่งเป็นเครื่องบินบรรทุกผู้โดยสารลำแรกที่จีนสร้างขึ้นเอง บนทางวิ่งเครื่องบินในงานแสดงอากาศยานที่เมืองจูไห่ ก่อนบินขึ้นสู่ท้องฟ้าของเมืองและกลับมาลงจอดบนทางวิ่งต่อหน้าสายตาผู้ชมหลายร้อยคนที่เดินทางมาร่วมงานนี้ ทางการจีนหวังว่าเครื่องบิน ซี919 ซึ่งผลิตโดยบริษัทเครื่องบินพาณิชย์จีน (COMAC) จะกลายเป็นคู่แข่งสำคัญในตลาดการบินกับเครื่องบินของต่างชาติ เช่น โบอิง 737 แมกซ์ของสหรัฐ และแอร์บัส เอ320 ของยุโรป รวมถึงเป็นประโยชน์ต่อจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศอีกด้วย สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เครื่องบิน ซี919 ได้ผ่านการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านอากาศยานของจีนในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ขณะที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้กล่าวชื่นชมการพัฒนาเครื่องบินรุ่นนี้ว่าเป็นความสำเร็จที่น่ายินดีและเป็นความพยายามที่ตรงตามเจตจำนงของประเทศ ส่วนสายการบินไชน่า อีสเทิร์น ซึ่งเป็นสายการบินที่มีผู้โดยสารมากเป็นอันดับ 2 ของจีน ระบุในเดือนพฤษภาคมว่า สายการบินฯ วางแผนที่จะนำเครื่องบิน ซี919 จำนวน 4 ลำมาปฏิบัติการบิน แม้เครื่องบินรุ่นนี้จะยังไม่ได้ผ่านการรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลด้านอากาศยานของสหรัฐและยุโรปก็ตาม. -สำนักข่าวไทย

อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ระบุว่า เขาจะประกาศเรื่องใหญ่มากในสัปดาห์หน้า แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าเป็นเรื่องอะไร คาดกันว่าน่าจะเป็นเรื่องที่เขาเตรียมลงชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอีกครั้งในการเลือกตั้งปี 2567

เปียงยาง 8 พ.ย. – เกาหลีเหนือระบุว่า ไม่เคยทำข้อตกลงซื้อขายอาวุธกับรัสเซีย และไม่มีแผนที่จะทำเช่นนั้น หลังสหรัฐออกมากล่าวหาเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ดูเหมือนเกาหลีเหนือเป็นผู้จัดหากระสุนปืนใหญ่ให้รัสเซียใช้ในสงครามยูเครน สำนักข่าวกลางเกาหลี หรือเคซีเอ็นเอ ของเกาหลีเหนือ รายงานอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ไม่เผยนามในกระทรวงกลาโหมของเกาหลีเหนือที่ระบุว่า ข้อกล่าวหาของสหรัฐที่ว่าเกาหลีเหนือเป็นผู้จัดหากระสุนปืนใหญ่ให้แก่รัสเซียนั้นเป็นเพียงข่าวลือ เนื่องจากเกาหลีเหนือไม่เคยทำข้อตกลงซื้อขายอาวุธกับรัสเซียและไม่มีแผนที่จะทำเช่นนั้นในอนาคต เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวยังระบุว่า การกระทำดังกล่าวของสหรัฐมีเจตนาที่จะทำลายภาพลักษณ์ของเกาหลีเหนือในเวทีนานาชาติเพื่อเรียกร้องให้มีการใช้มาตรการคว่ำบาตรที่ผิดกฎหมายของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ต่อเกาหลีเหนือ ก่อนหน้านี้ นายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ กล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า สหรัฐมีข้อมูลที่ชี้ว่าเกาหลีเหนือลอบส่งกระสุนปืนใหญ่จำนวนมากให้แก่รัสเซีย ทั้งยังระบุว่า เกาหลีเหนือได้พยายามปิดบังการขนส่งกระสุนปืนใหญ่ด้วยการขนส่งผ่านหลายประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ โดยที่สหรัฐกำลังเฝ้าจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่ารัสเซียจะได้รับกระสุนปืนใหญ่ดังกล่าวจากเกาหลีเหนือหรือไม่. -สำนักข่าวไทย

จาการ์ตา 8 พ.ย. – ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย เผยว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย อาจจะไม่เข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ที่อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพ ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นที่เกาะบาหลีในวันที่ 15-16 พ.ย. ประธานาธิบดีวิโดโดกล่าวกับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สของอังกฤษเมื่อวันจันทร์ว่า จากการที่เขาได้พูดคุยกับประธานาธิบดีปูตินเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้ค่อนข้างแน่ใจว่าผู้นำรัสเซียจะไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย ทั้งยังระบุว่า อินโดนีเซียยังคงยินดีต้อนรับรัสเซียเข้าร่วมงานประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 เนื่องจากงานนี้ไม่ใช่การประชุมเวทีทางการเมือง แต่เป็นการประชุมเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการพัฒนา ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซียได้เชิญประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ในฐานะแขกพิเศษของประเทศเจ้าภาพ โดยที่ยูเครนไม่ได้เป็นสมาชิกของกลุ่มจี 20 อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีเซเลนสกีระบุเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าเขาจะไม่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวหากมีชื่อประธานาธิบดีปูตินเข้าร่วมงาน ทั้งนี้ มีผู้นำระดับโลกอีกหลายคนที่ยืนยันว่าจะเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ เช่น ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน. -สำนักข่าวไทย

โซล 7 พ.ย. – อดีตประธานาธิบดีมุน แจอิน ของเกาหลีใต้จะเลิกเลี้ยงสุนัขพันธุ์พุงซาน (Pungsan) 2 ตัวที่นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ มอบให้เป็นของขวัญหลังการประชุมสุดยอดผู้นำในปี 2561 เนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนเรื่องค่าเลี้ยงดูจากประธานาธิบดีคนปัจจุบัน สำนักงานของอดีตประธานาธิบดีมุนเผยวันนี้ว่า อดีตประธานาธิบดีมุนวางแผนจะเลิกเลี้ยงสุนัขคู่หนึ่งที่นายคิมมอบให้เป็นของขวัญหลังการประชุมสุดยอดผู้นำในปี 2561 เนื่องจากไม่ได้รับการสนุนเรื่องค่าเลี้ยงดูจากประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล สุนัขทั้งสองตัวได้รับการจัดให้เป็นทรัพย์สมบัติของรัฐตามกฎหมายในฐานะที่เป็นหลักฐานในเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ โดยที่มีอดีตประธานาธิบดีมุนได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดูแลสุนัขภายใต้การปรึกษาหารือร่วมกับหอจดหมายเหตุแห่งชาติกับกระทรวงมหาดไทยของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นการตัดสินใจร่วมกันอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน สำนักงานของอดีตประธานาธิบดีมุนยังระบุว่า ได้พยายามติดต่อขออำนวยความสะดวกในการเลี้ยงสุนัขทั้งสองตัว เช่น การขออนุมัติเงินสนับสนุนในการเลี้ยงดู แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากทำเนียบประธานาธิบดียุนได้คัดค้านคำขอดังกล่าวโดยไม่อธิบายเหตุผล ทั้งยังระบุว่า ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ดูเหมือนมีแนวคิดแง่ลบต่อการเลี้ยงดูสุนัขพันธุ์พุงซานของอดีตประธานาธิบดีมุนอีกด้วย ในขณะเดียวกัน ทำเนียบประธานาธิบดียุนได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะขัดขวางคำร้องดังกล่าว และกำลังหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ ขณะที่หนังสือพิมพ์โชซุน อิลโบ ของเกาหลีใต้ รายงานอ้างเจ้าหน้าที่รัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐสภาเกาหลีใต้ไม่เผยนามที่ระบุว่า ขณะนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังโต้แย้งกันว่าจะอนุมัติเงินเลี้ยงสุนัขเดือนละ 2.5 ล้านวอน (ราว 66,000 บาท) ให้แก่อดีตประธานาธิบดีมุนหรือไม่ ด้านกระทรวงมหาดไทยของเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ยังไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่น สหรัฐ และเกาหลีใต้ เห็นพ้องที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อยับยั้งภัยคุกคามจากขีปนาวุธของเกาหลีเหนือในระดับภูมิภาค

แคลิฟอร์เนีย 7 พ.ย. – แอปเปิล อิงค์ บริษัทผู้ผลิตสมาร์ตโฟนรายใหญ่ของโลก คาดการณ์ว่าจะผลิตไอโฟน 14 ได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่เคยตั้งไว้ หลังเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ที่โรงงานผลิตไอโฟนแห่งใหญ่ในจีน และทำให้แอปเปิลต้องปรับลดเป้ายอดขายไอโฟนในช่วงเทศกาลวันหยุดสิ้นปีนี้ แอปเปิลระบุในแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาในสหรัฐว่า แอปเปิลกำลังประสบปัญหาด้านกำลังผลิตที่ลดลง แต่ไม่ได้อธิบายว่าได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าวอย่างไร ทั้งยังระบุว่า แม้ไอโฟน 14 โปร (iPhone 14 Pro) และไอโฟน 14 โปร แมกซ์ (iPhone 14 Pro Max) จะยังคงเป็นที่ต้องการในตลาดอย่างสูง แต่แอปเปิลก็จำเป็นต้องปรับลดคาดการณ์ยอดวางจำหน่ายสมาร์ตโฟนทั้งสองรุ่นลดลงจากที่เคยตั้งเป้าไว้ก่อนหน้านี้ ทั้งยังระบุว่า ลูกค้าของแอปเปิลอาจจะต้องรอรับสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ซึ่งเปิดตัวในเดือนกันยายนที่ผ่านมา นานขึ้นกว่าเดิม ก่อนหน้านี้ โรงงานผลิตไอโฟนของฟ็อกซ์คอนน์ บริษัทผู้รับช่วงผลิตให้แก่แอปเปิล ที่นครเจิ้งโจวในมณฑลเหอหนาน ทางตอนกลางของจีน ซึ่งมีพนักงานราว 200,000 คน ได้ประกาศใช้มาตรการควบคุมการระบาดของโรคโควิดอย่างเข้มงวดจนทำให้พนักงานหลายคนพากันแห่หนีออกจากโรงงาน ขณะที่สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานเมื่อเดือนตุลาคมว่า แอปเปิลอาจมีกำลังผลิตไอโฟนลดลงมากถึงร้อยละ 30 ที่โรงงานในนครเจิ้งโจวในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากการใช้มาตรการคุมโควิดที่เข้มงวดในจีน. -สำนักข่าวไทย

เคียฟ 7 พ.ย. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เตือนว่า รัสเซียอาจโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนมากขึ้น ขณะที่กรุงเคียฟขอให้ประชาชนพิจารณาเดินทางออกจากเมืองหลวงที่ยังคงถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องจนทำให้เผชิญกับปัญหาด้านพลังงานไฟฟ้า ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวเมื่อคืนวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่นว่า รัสเซียกำลังระดมสรรพกำลังเพื่อโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานของยูเครน โดยเฉพาะด้านพลังงาน มากขึ้น ทั้งยังระบุว่า ขณะนี้ มีชาวยูเครนกว่า 4.5 ล้านคนที่ต้องใช้ชีวิตโดยไม่มีไฟฟ้าใช้งานแล้ว ขณะที่นายเซอร์เก โควาเลนโก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หรือซีอีโอ ของยาสโน (YASNO) บริษัทผู้จัดหาพลังงานรายใหญ่ของกรุงเคียฟ ระบุผ่านเฟซบุ๊กว่า ยูเครนจะเผชิญกับปัญหาขาดดุลด้านพลังงานร้อยละ 32 ในวันนี้ คำเตือนของประธานาธิบดีเซเลนสกีมีขึ้นหลังจากที่นายวิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ว่า เขาขอให้ประชาชนพิจารณาถึงสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกรูปแบบ ซึ่งรวมถึงกรณีเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ที่ทำให้กรุงเคียฟเผชิญกับเหตุไฟดับและขาดแคลนน้ำประปา ทั้งยังระบุว่า ชาวกรุงเคียฟควรตัดสินใจเดินทางไปอยู่กับเพื่อนหรือครอบครัวที่อาศัยอยู่นอกเมืองหลวงยูเครน ขณะที่นายยาโรสลาฟ ยานูเชวิช ผู้ว่าการแคว้นเคอร์ซอน ทางตอนใต้ของยูเครน เผยว่า กองทัพรัสเซียได้ทำลายระบบสายส่งไฟฟ้าเป็นระยะทางยาว 1.5 กิโลเมตร ทำให้เมืองเบอริสลาฟไม่มีไฟฟ้าใช้เช่นกัน. -สำนักข่าวไทย