ตรัง 1 ก.พ. – ป้าวัย 65 ปี ชาว ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ใช้พื้นที่ว่างรอบบ้านประมาณ 3 ไร่ ปลูกทุกอย่าง โดยเฉพาะบอนสี เพาะขายตามกระแส ขุดบ่อเลี้ยงปลา ทำนา กลายเป็นศูนย์เรียนรู้และสร้างรายได้จากการขายผักรอบบ้านสัปดาห์ละไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท
นางถนอม ขาวทอง อายุ 65 ปี ชาว ต.ท่างิ้ว อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ใช้เนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ รอบๆ ตัวบ้าน ปลูกขึ้นฉ่าย ผักบุ้ง ปูเล่ ผักชี ต้นหอม ผักกาด พริกสด มะพร้าวน้ำหอม ไม้ดอกไม้ประดับ บอนสี และพืชผักชนิดอื่นๆ เกือบ 100 ชนิด เหลือกินก็เก็บขายให้กับแม่ค้าที่มารับซื้อถึงบ้าน ส่วนไม้จำพวกบอนสีหาเก็บมาจากสวนยางพาราใกล้บ้าน เอามาเพาะและขายราคาต้นละ 100-200 บาท ส่วนต้นฤาษีผสมสีต่างๆ ขายกิ่งละ 10 บาท โดยเริ่มต้นปลูกทุกอย่างที่กินได้เพื่อใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ประกอบกับในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ลูกหลานตกงาน คุณป้าจึงหันมาปลูกต้นไม้และพืชผักต่างๆ ไว้เต็มพื้นที่ เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระของลูกหลาน ทำไปทำมามีรายได้กว่า 1,000 บาทต่อสัปดาห์
นอกจากนี้ยังมีการผสมปุ๋ยอินทรีย์ใช้เอง พร้อมทั้งรื้อฟื้นบ่อเลี้ยงปลาเก่าที่มีน้ำตื้นเขิน มาเลี้ยงปลากินพืช ซึ่งโตเร็วและได้น้ำหนักดี โดยปีนี้ได้ทำนาปีในพื้นที่ว่างหลังบ้านประมาณ 1 ไร่ เพื่อให้มีข้าวไว้กินตลอดทั้งปี อีกทั้งยังปลอดภัยจากการใช้สารเคมีด้วย ซึ่งความขยันของคุณป้าทำให้ไม่ต้องซื้อหาอะไรมากนัก ยกเว้นสิ่งที่ปลูกเองไม่ได้ ทำให้มีเกษตรกรจากหลายพื้นที่เดินทางมาศึกษาดูงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นศูนย์เรียนรู้ระดับตำบลไปแล้ว โดยต้นไม้และผักส่วนหนึ่งได้แจกจ่ายให้กับเกษตรกรที่ไปศึกษาดูงาน เพื่อนำกลับไปปลูก หวังต่อยอดเป็นอาชีพเสริมต่อในอนาคต
นางถนอม ขาวทอง กล่าวว่า ปลูกผักกาด ผักบุ้ง พริก ขึ้นฉ่าย หลายชนิดปลูกไว้ที่หลังบ้านด้วย มีแม่ค้ามารับซื้อถึงบ้าน ส่วนบอนสีมีอยู่แถวบ้าน เพราะเคยปลูกแล้วทิ้งขว้างไป พอมีกระแสเลยเก็บมาปลูกใหม่ เมื่อก่อนต้นละ 200-300 บาท ตอนนี้ไม่ค่อยมีราคาแล้ว.-สำนักข่าวไทย