ประกาศสทนช. เตือนเฝ้าระวังน้ำท่วม-น้ำหลาก 18-25 พ.ค. นี้

กรุงเทพฯ 17 พ.ค. – สทนช. ออกประกาศเตือนเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากระหว่าง 18 – 25 พ.ค. พร้อมย้ำมาตรการรับฤดูฝน 67 ที่ขณะนี้ใกล้จะประกาศเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้ว วางแผนระบายน้ำเขื่อนเสี่ยงน้ำล้น ตรวจสอบดูแลพนังกั้นน้ำและระบบเตือนภัยให้มีความพร้อมสูงสุด


นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า จากการติดตามสภาพอากาศพบว่า ปัจจุบันมีหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงปกคลุมบริเวณอ่าวมะตะบัน ประเทศเมียนมา ส่งผลให้ลมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากจึงได้ออกประกาศสทนช. เตือนเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากระหว่างวันที่ 18 – 25 พฤษภาคมเพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังและแจ้งเตือนภัยให้แก่ประชาชนในพื้นที่เสี่ยง 26 จังหวัดดังนี้

  1. ภาคเหนือได้แก่
  • จังหวัดเชียงใหม่ (อำเภอฝาง อมก๋อย และจอมทอง)
  • จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน แม่สะเรียง และสบเมย)
  • จังหวัดลำปาง (อำเภอเกาะคา เถิน และแม่พริก)
  • จังหวัดลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน)
  • จังหวัดอุตรดิตถ์ (อำเภอตรอน)
  • จังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง และแม่ระมาด)
  • จังหวัดสุโขทัย (อำเภอเมืองสุโขทัย และศรีสัชนาลัย)
  • จังหวัดน่าน (อำเภอปัว บ่อเกลือ เชียงกลาง ทุ่งช้าง ท่าวังผา เฉลิมพระเกียรติ และสองแคว)
  • จังหวัดแพร่ (อำเภอวังชิ้น)
  • จังหวัดพิษณุโลก (อำเภอนครไทย และเนินมะปราง)
  • จังหวัดเพชรบูรณ์ (อำเภอเมืองเพชรบูรณ์ และเขาค้อ)

2. ภาคตะวันออกได้แก่


  • จังหวัดชลบุรี (อำเภอเมืองชลบุรี และศรีราชา)
  • จังหวัดระยอง (อำเภอเมืองระยอง)
  • จังหวัดจันทบุรี (อำเภอเมืองจันทบุรี มะขาม ขลุง และโป่งน้ำร้อน)
  • จังหวัดตราด (อำเภอเมืองตราด เขาสมิง และบ่อไร่)

3. ภาคใต้ได้แก่

  • จังหวัดชุมพร (อำเภอท่าแซะ และพะโต๊ะ)
  • จังหวัดระนอง (อำเภอเมืองระนอง กะเปอร์ ละอุ่น สุขสำราญ และกระบุรี)
  • จังหวัดพังงา (อำเภอเมืองพังงา คุระบุรี ตะกั่วป่า กะปง และท้ายเหมือง)
  • จังหวัดภูเก็ต (อำเภอเมืองภูเก็ต กะทู้ และถลาง)
  • จังหวัดกระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม อ่าวลึก คลองท่อม ปลายพระยา และเกาะลันตา)
  • จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี พนม บ้านตาขุน และเกาะพะงัน) จังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตูล ควนโดน ควนกาหลง ทุ่งหว้า และมะนัง)
  • จังหวัดตรัง (อำเภอเมืองตรัง ปะเหลียน นาโยง  กันตัง ห้วยยอด หาดสำราญ รัษฎา และวังวิเศษ)
  • จังหวัดพัทลุง (อำเภอป่าบอน และตะโหมด)
  • จังหวัดสงขลา (อำเภอสะเดา)
  • จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอช้างกลาง พิปูน ฉวาง ทุ่งใหญ่ และถ้ำพรรณรา)

สทนช. ยังประชุมร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้แก่ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) (สสน.) กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรธรณี กรมชลประทาน

การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เป็นต้น ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากสภาวะเอลนีโญเข้าสู่สภาวะลานีญาและใกล้เข้าสู่ช่วงฤดูฝนอย่างเป็นทางการของประเทศไทยที่คาดว่า กรมอุตุนิยมวิทยาใกล้จะประกาศเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้ว


ทั้งนี้คาดว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของฤดูฝนจะยังมีปริมาณฝนตกไม่มากนัก ประกอบกับพื้นดินที่แห้งในช่วงฤดูแล้งจะดูดซับน้ำฝนที่ตกลงมาทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำไม่มาก ซึ่งได้มีการเตรียมน้ำต้นทุนสำรองไว้สำหรับช่วงเวลาดังกล่าวแล้ว โดยปริมาณฝนจะเริ่มเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม ส่วนในเดือนตุลาคมจะมีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้

สนทนช. กำชับทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ตาม 10 มาตรการรับมือฤดูฝนปี 67 และแผนป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำท่วม โดยได้มีการวางแผนปรับการระบายน้ำในอ่างฯ ที่มีความเสี่ยงเกิดภาวะน้ำล้นเช่น เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เขื่อนบางลาง จ.ยะลา เขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี เป็นต้น และแผนระบายน้ำดังกล่าวจะมีการเสนอต่อคณะกรรมการลุ่มน้ำเพื่อพิจารณา โดยเน้นย้ำให้หน่วยงานมีการบริหารจัดการน้ำในอ่างฯ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เร่งตรวจสอบความมั่นคงของพนังกั้นน้ำต่างๆ เพื่อเตรียมรองรับกรณีเกิดน้ำหลากจากฝนตกหนัก

อีกทั้งจะมีการซักซ้อมร่วมกับหน่วยงานเตือนภัย เช่น กรมทรัพยากรน้ำ ในการดูแลเตรียมความพร้อมของเครื่องมือ ไปจนถึงระบบการแจ้งเตือนภัย และการเตรียมแผนเผชิญเหตุอุทกภัยของ ปภ. โดยปภ. ได้ประสานไปยังทุกจังหวัดให้มีการจัดทำแผนเผชิญเหตุอุทกภัยให้สอดคล้องกับมาตรการรับมือฤดูฝนแล้ว

นอกจากนี้สทนช. จะซักซ้อมความเข้าใจในการเตรียมรับมือสถานการณ์ในฤดูฝนร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการลุ่มน้ำ เพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดแก่ประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

สำหรับการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝนที่จะถึงนี้ยังคงกำชับให้หน่วยงานวางแผนการใช้น้ำโดยคำนึงถึงปริมาณน้ำในฤดูแล้งถัดไปเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการขาดแคลนน้ำ รวมทั้งคำนึงถึงโอกาสในการเกิดภาวะน้ำทะเลหนุนสูงช่วงฤดูแล้งซึ่งจะทำให้มีความเค็มรุกล้ำเข้ามาในแม่น้ำหรือคลองต่าง ๆ และจำเป็นจะต้องใช้ปริมาณน้ำมาผลักดันความเค็มเพื่อรักษาคุณภาพน้ำให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานด้วย. 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร