สทนช. เตือน 29 จังหวัดเฝ้าระวังน้ำท่วม-น้ำหลาก

กรุงเทพฯ 21 สทนช. ออกประกาศเตือนเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำไหลหลาก สาเหตุจากพบว่า จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวมะตะบัน ประเทศเมียนมา โดยมีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้น จะทำให้ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก


นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า สทนช. ออกประกาศ เรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลากเนื่องจากพบว่า กรมอุตุนิยมวิทยพบว่า จะมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวมะตะบัน ประเทศเมียนมา โดยมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้น จะทำให้ด้านตะวันตกของภาคเหนือและภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก

สทนช. ได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำตามฝนคาดการณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) รวมถึงการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงน้ำหลากและพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่มบริเวณต้นน้ำจากกรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรธรณี พบว่า มีพื้นที่เสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และบริเวณชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำเนื่องจากระบายไม่ทันเพิ่มเติมในช่วงวันที่ 22 – 26 พฤษภาคม 2567 รวม 29 จังหวัดดังนี้


  1. ภาคเหนือได้แก่
  • จังหวัดเชียงราย (อำเภอเมืองเชียงราย แม่สรวย พาน เทิง เชียงของ และเวียงป่าเป้า)
  • จังหวัดเชียงใหม่ (อำเภอแม่อาย เชียงดาว สะเมิง แม่วาง และแม่ริม)
  • จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอปาย แม่ลาน้อย และขุนยวม)
  • จังหวัดลำปาง (อำเภอวังเหนือ เมืองปาน แจ้ห่ม และงาว)
  • จังหวัดลำพูน (แม่ทา บ้านโฮ่ง และลี้)
  • จังหวัดอุตรดิตถ์ (อำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ฟากท่า และท่าปลา)
  • จังหวัดตาก (อำเภอเมืองตาก แม่สอด และอุ้มผาง)
  • จังหวัดน่าน (อำเภอเมืองน่าน แม่จริม และเวียงสา)
  • จังหวัดแพร่ (อำเภอเมืองแพร่ สอง ร้องกวาง สูงเม่น และเด่นชัย)
  • จังหวัดพิษณุโลก (อำเภอชาติตระการ และเนินมะปราง)
  • จังหวัดเพชรบูรณ์ (อำเภอหล่มเก่า)

2. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้แกา

  • จังหวัดหนองคาย (อำเภอเมืองหนองคาย และโพนพิสัย)
  • จังหวัดบึงกาฬ (อำเภอบุ่งคล้า เซกา และบึงโขงหลง)
  • จังหวัดนครพนม (อำเภอเมืองนครพนม และศรีสงคราม)
  • จังหวัดชัยภูมิ (อำเภอเมืองชัยภูมิ คอนสาร หนองบัวแดง และเทพสถิต)
  • จังหวัดมหาสารคาม (อำเภอชื่นชม เชียงยืน และโกสุมพิสัย)
  • จังหวัดร้อยเอ็ด (อำเภอเมืองร้อยเอ็ด ธวัชบุรี โพนทอง และเสลภูมิ)
  • จังหวัดสุรินทร์ (อำเภอสังขะ)
  • จังหวัดศรีสะเกษ (อำเภอขุขันธ์ และขุนหาญ)
  • จังหวัดอุบลราชธานี (อำเภอน้ำยืน และศรีเมืองใหม่)

3. ภาคตะวันตกได้แก่

  • จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี สังขละบุรี ทองผาภูมิ ศรีสวัสดิ์ ไทรโยค และด่านมะขามเตี้ย)
  • จังหวัดราชบุรี (อำเภอสวนผึ้ง และบ้านคา)
  • จังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน และหนองหญ้าปล้อง)
  • จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (อำเภอหัวหิน และปราณบุรี)

4. ภาคใต้ได้แก่


  • จังหวัดชุมพร (อำเภอสวี และหลังสวน)
  • จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอสมุย ดอนสัก และกาญจนดิษฐ์)
  • จังหวัดนครศรีธรรมราช (อำเภอขนอม สิชล และนบพิตำ)
  • จังหวัดสงขลา (อำเภอสะบ้าย้อย)
  • จังหวัดยะลา (อำเภอยะหา และรามัน)
  • จังหวัดนราธิวาส (อำเภอเจาะไอร้อง สุไหงปาดี สุไหงโก-ลก และแว้ง)  

สทนช. ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกสะสมมากกว่า 90 มิลลิเมตร ในช่วงเวลา 24 ชั่วโมง และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เคยเกิดน้ำท่วมอยู่เป็นประจำ หรือพื้นที่ชุมชนเมืองที่เคยเกิดน้ำท่วมขังระบายไม่ทัน ตลอดจนเตรียมแผนรับสถานการณ์น้ำหลาก เตรียมความพร้อมบุคลากร เครื่องจักรเครื่องมือ กำจัดสิ่งกีดขวางทางน้ำ ลอกท่อระบายน้ำ และบูรณาการความพร้อมให้ความช่วยเหลือได้ทันที พร้อมกันนี้ขอให้ประชาสัมพันธ์สถานการณ์น้ำ และแจ้งเตือนล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนที่คาดว่า จะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพได้ทันท่วงทีหากเกิดสถานการณ์. 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

New Delhi railway station overcrowding leaves 15 dead

เบียดกันเสียชีวิตที่สถานีรถไฟในอินเดีย

นิวเดลี 16 ก.พ.- เกิดเหตุฝูงชนเบียดเสียดกันจนมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ขณะพยายามยื้อแย่งกันขึ้นรถไฟโดยสารที่สถานีรถไฟในกรุงนิวเดลีของอินเดียเมื่อคืนวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น สถานีโทรทัศน์เอ็นดีทีวี (NDTV) รายงานอ้างเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นว่า เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.00 น.วันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 21.30 น.วันเสาร์ตามเวลาไทย มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 15 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้หญิง 10 คน และเด็ก 3 คน และยังมีผู้บาดเจ็บ 15 คน  เหตุการณ์สลดเกิดขึ้นที่ชานชาลา 2 แห่งของสถานีรถไฟในกรุงนิวเดลี ขณะที่ผู้โดยสารจำนวนมากยื้อแย่งกันขึ้นรถไฟ 2 ขบวนที่มาถึงล่าช้า เพื่อที่จะเดินทางไปร่วมเทศกาลมหากุมภเมลา ซึ่งเป็นพิธีอาบน้ำศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดูที่เมืองประยาคราช  รัฐอุตตรประเทศที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 13 มกราคมจนถึงวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 29 มกราคม ซึ่งถือเป็นวันศักดิ์สิทธิที่สุดของเทศกาล เกิดเหตุผู้แสวงบุญเบียดเสียดกันจนมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 คน.-820(814).-สำนักข่าวไทย  

นายกฯ​ ปลื้ม​เยือนจีนอย่างเป็นทางการ​ ย้ำไทยได้ประโยชน์

นายกฯ​ ปลื้ม​เล่าละเอียดอีกรอบเยือนจีนอย่างเป็นทางการ​ สรุปย้ำไทยได้ประโยชน์ความมั่นคง-การค้า-เสริมสร้างความสัมพั​นธ์ให้ยาวนาน​ พร้อมเปิดอีกมุมเล่าจากภาพถ่ายฝีมือตัวเองในมือถือ​ ที่พักเรือนรับรอง-เซลฟี่​ “หลี่​ เฉียง” ​บอดี้การ์ดหญิงที่ดังในโซเชียล

มธ.แปรอักษรล้อการเมือง เหน็บ MOU ขึ้นภาพคู่ “อิ๊งค์-พิธา”

“ธรรมศาสตร์” แปรอักษรล้อการเมือง หลังงานบอลจบ เหน็บ MOU ขึ้นภาพคู่ “แพทองธาร-พิธา” บอกเป็นผู้นำฝ่ายบริหาร-ฝ่ายค้าน วิจารณ์นโยบายรัฐบาล “บ้านเพื่อคนไทย-คอนโดเพื่อคนจีน” แถมแซะน้ำท่วมต้องรอ “เมียคนใต้” พร้อมถาม “โทนี่” กลับมาได้ไง