ส.ป.ก. ยืนยันแนวเขตบริเวณที่พิพาทเขาใหญ่ ไม่มีทับซ้อน

กรุงเทพฯ 2 มี.ค.- เลขาธิการ ส.ป.ก. ยันแนวเขตพื้นที่พิพาทบริเวณบ้านเหวปลากั้ง ต.หมูสี อยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินแน่นอน โดย ส.ป.ก. ได้รับมอบพื้นที่มาตามกระบวนการจำแนกป่า จากนั้นมี พ.ร.ก.กำหนดเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2534 หาก ครม. มีนโนบายให้ ส.ป.ก. ส่งมอบพื้นที่พิพาทไปอยู่ในความรับผิดชอบของกรมอุทยานฯ จะต้องปรับปรุงกฎหมายระดับพระราชบัญญัติ


นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กล่าวว่า ส.ป.ก. ออกแถลงการณ์เรื่อง กรณีพิพาทระหว่างแนวเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมากับแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เพื่อยืนยันว่า พื้นที่พิพาทบริเวณบ้านเหวปลากั้ง หมู่ที่ 10 ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาอยู่ในเขตปฏิรูปที่ดินอย่างแน่นอน โดยไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อนกับเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แต่อย่างใด

ในแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่ได้ปรากฏว่า มีเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชได้เข้ารื้อถอนหมุดหลักฐานซึ่งเจ้าหน้าที่ส.ป.ก. ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ภายใต้กฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมบริเวณดังกล่าว อันอาจก่อให้เกิดเป็นประเด็นพิพาทในระหว่างส่วนราชการด้วยกันนั้น


ส.ป.ก. ยืนยันว่า ที่ดินในบริเวณพิพาทเป็นที่ดินที่ส.ป.ก. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์เพื่อใช้ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามมาตรา 26 (3) และมาตรา 36 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 และพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่อำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนินและอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2534

ทั้งนี้กรมแผนที่ทหารได้ตรวจสอบข้อมูล Field book ซึ่งเป็นการบันทึกการรังวัดขอบเขตของกรมอุทยานฯ เอง ตามมาตรฐานแผนที่และการรังวัดสากลแล้ว ยืนยันว่า พื้นที่ข้อพิพาทไม่ได้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

สำหรับพื้นที่บริเวณดังกล่าว ส.ป.ก. ได้รับมาจากการนำที่ดินที่จำแนกออกจากป่าเขาใหญ่เฉพาะพื้นที่ที่อยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติและเขตป่าสงวน (พื้นที่อยู่นอกเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ตามพระราชกฤษฎีกาที่ประกาศในราชกิจจานุบกษา เมื่อวันที่ 18 กันยายน 2505) เนื้อที่ประมาณ 33,896 ไร่ ตามที่คณะรัฐนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2530 มอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับไปดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามข้อเสนอของคณะกรรมการพัฒนาที่ดินครั้งที่ 6/2527 เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2527 ที่มีกรมป่าไม้ (ผู้รับผิดชอบงานอุทยานแห่งชาติในขณะนั้น) และส.ป.ก. ร่วมเป็นกรรมการ โดยได้สำรวจจนเป็นที่ยุติแล้วว่า พื้นที่ที่ส่งมอบให้ส.ป.ก. ข้างต้นมีสภาพการใช้ประโยชน์โดยการประกอบเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ประมาณ 86.25 %


ดังนั้นส.ป.ก. จึงมีอำนาจหน้าที่นำที่ดินเนื้อที่ประมาณ 33,896 ไร่ที่ได้รับมอบซึ่งที่ดินบริเวณพิพาทรวมอยู่ในส่วนนี้ด้วย มาจัดให้แก่เกษตรกรตามพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 โดยไม่มีประเด็นปัญหาเกี่ยวกับการทับซ้อนของแผนที่แสดงแนวเขตในบริเวณพื้นที่พิพาทระหว่างส.ป.ก. กับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

หากคณะรัฐมนตรีมีนโยบายให้ปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐตามโครงการ One Map เพื่อให้ที่ดินที่ส.ป.ก. ได้รับมาในบริเวณพิพาทไปอยู่ในแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องปรับปรุงกฎหมายในระดับพระราชบัญญัติ รวมถึงช่วยเหลือเยียวยาเกษตรกรผู้สุจริตซึ่งเสียสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจากผลกระทบดังกล่าวเพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประชาชนจากการดำเนินงานปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐ 10 ข้อ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติต่อไป

เลขาธิการส.ป.ก. ระบุว่า ได้กำหนดแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยยึดมั่นในหลักการว่า หากปรากฎข้อเท็จจริงใดๆ ว่า มีเจ้าหน้าที่ของส.ป.ก. รังวัดจัดที่ดินในพื้นที่ที่ยังมีสภาพป่า ย่อมเป็นกรณีที่ไม่ชอบด้วยระเบียบและข้อตกลงอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องจะต้องตรวจสอบ โดยได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ตลอดจนย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่เพื่อให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายด้วยแล้ว หากพบว่า เจ้าหน้าที่ของส.ป.ก. ผู้ใดได้กระทำความผิดหรือจัดที่ดินโตยฝ่าฝืนเจตนารมณ์แห่งกฎหมายหรือกระทำการใดๆ ที่ไม่ถูกต้องอันก่อให้เกิดความเสียหายกับการดำเนินการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ส.ป.ก. จะดำเนินการตามกฎหมายทั้งทางวินัย ทางแพ่ง และทางอาญาให้ถึงที่สุด ในทางกลับกัน หากตรวจสอบแล้วพบว่า ส.ป.ก. จัดที่ดินที่ชอบด้วยระเบียบและกฎหมาย ก็เป็นกรณีสมควรที่เกษตรกรจะต้องได้รับการคุ้มครองสิทธิกฎหมายและมีความชอบธรรมในการถือครองที่ดินของส.ป.ก. ต่อไป โดยไม่ควรที่จะมีหน่วยงานใดก็ตามรบกวนหรือรอนสิทธิของประชาชนเหล่านี้

พร้อมกันนี้ยืนยันว่า ส.ป.ก. จะยืนหยัดในการปฏิบัติหน้าที่ในการคุ้มครองสิทธิของเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อเกษตรกรรมให้เป็นไปตามเจตนารมณ์แห่งกฎหมายทุกประการและจะตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของส.ป.ก. ที่ปฏิบัติหน้าที่มิชอบเพื่อพิสูจน์ทราบ หากพบการกระทำความผิด จะดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัดต่อไป.- 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Satellite images show wake of destruction of wildfires burning across California

เปิดปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าแอลเอไหม้ลามหนัก

มีหลายปัจจัยที่ทำให้ไฟป่าในเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอ (LA) ในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐไหม้ลามเป็นวงกว้างอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นวิกฤตไฟป่าครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศ

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูงฝั่งปอยเปต พบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา

รู้ตัวคนไทยพลัดตกตึกสูง 18 ชั้น ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา เบื้องต้นพบไม่ได้ถูกจับโยนลงมา และอาคารดังกล่าวถูกระบุเป็นฐานบัญชาการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีคนไทยถูกหลอกไปทำงานที่นี่จำนวนมาก

Palisades Fire

สหรัฐสั่งอพยพกว่าแสนคนหนีไฟป่า 6 จุดในแคลิฟอร์เนีย

ลอสแอนเจลิส 9 ม.ค.- สหรัฐสั่งอพยพประชาชนมากกว่า 100,000 คน เนื่องจากจำนวนไฟป่าที่โหมไหม้ในเทศมณฑลลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนียเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 จุดแล้ว เพราะกระแสลมแรงเทียบเท่าเฮอริเคนและสภาพอากาศแล้ง เจ้าหน้าที่เผยว่า ในจำนวนไฟป่าทั้ง 6 จุด มีอยู่ 4 จุดที่ยังไม่สามารถควบคุมได้เลย ไฟป่าจุดแรก คือ พาลิเซดส์ไฟร์ (Palisades Fire) เกิดขึ้นช่วงเช้าวันที่ 7 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นใกล้แปซิฟิก พาลิเซดส์ ซึ่งเป็นย่านที่พักอาศัยทางตะวันตกเฉียงเหนือของเทศมณฑล ต้นเพลิงมาจากไฟไหม้พุ่มไม้ที่โหมไหม้จนเกินควบคุมเพราะกระแสลมแรง ต้องอพยพคนอย่างน้อย 30,000 คน ไฟป่าจุดที่ 2 คือ อีตันไฟร์ (Eton Fire) เกิดขึ้นในเย็นวันเดียวกันที่หุบเขาอีตันแคนยอน เผาไหม้พื้นที่ขยายวงกว้างมากพอ ๆ กับไฟป่าจุดแรก ไฟป่าจุดที่ 3 คือ เฮิร์ตส์ไฟร์ (Hurst Fire) เกิดขึ้นกลางดึกวันเดียวกันในย่านซิลมาร์ของนครลอสแอนเจลิส จากนั้นในเช้าวันที่ 8 มกราคมเกิดไฟป่าจุดที่ 4 คือ วูดลีไฟร์ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เผยไม่มีคนไทยบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุไฟป่าแอลเอ

นายกฯ เผย ไม่มีคนไทยได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จากเหตุไฟป่าที่แอลเอ มีเพียงร้านอาหารไทยที่ได้รับความเสียหาย สั่ง กงสุลเปิดศูนย์ช่วยเหลือคนไทย

“เฉิน” ตัวการสำคัญฉกเงินคนจีนในไทย บงการอยู่ต่างประเทศ

คดีคนจีนหลอกฉกเงินคนจีน รวมมูลค่า 13 ล้านบาท ตำรวจตามไปพบรถคันก่อเหตุ และยึดเงินคืนมาได้ แต่ “อาเฉิน” ตัวการสำคัญ หนีออกนอกประเทศไปแล้ว

ทำเนียบฯ เตรียมสถานที่ต้อนรับเด็กและเยาวชน ร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ 2568

ทำเนียบรัฐบาล จัดเต็ม เตรียมสถานที่ต้อนรับเด็กและเยาวชน ร่วมงานวันเด็กแห่งชาติ2568 เปิดหน้าทำงาน-นั่งเก้าอี้ นายกรัฐมนตรี สวมบทบาทโฆษกรัฐบาล “นิวส์จิ๋ว” อ่านข่าวภาคภาษาไทย และอังกฤษ พบขบวนมาสคอต “หมูเด้ง” และผองเพื่อน