กรุงเทพฯ 3 ต.ค.- ครม. มีมติเห็นชอบแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงกระทรวงเกษตรฯ 3 กรม แทนอธิบดีที่เกษียณ ตามที่ “รมว. ธรรมนัส” เสนอ “ชูชาติ” ผงาดขึ้นคุมกรมชลประทาน “พีรพันธ์” คุมกรมส่งเสริมการเกษตร “ประเสริฐ” คุมกรมหม่อนไหม รวมถึงแต่งตั้งรองปลัดกระทรวงฯ 2 ตำแหน่ง
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 5 ตำแหน่งตามที่ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยมีตำแหน่งรองปลัดกระทรวงฯ 2 ตำแหน่งและอธิบดี 3 ตำแหน่ง
สำหรับตำแหน่งรองปลัดกระทรวงฯ ประกอบด้วย
- นางสาวภัทราภรณ์ โสเจยยะ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
- นายนวนิตย์ พลเคน ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ส่วนตำแหน่งอธิบดี 3 ตำแหน่งแทนผู้เกษียณอายุราชการนั้น ตำแหน่งที่ถูกจับตามากที่สุดคือ อธิบดีกรมชลประทานซึ่งร้อยเอกธรรมนัสเสนอให้นายชูชาติ รักจิตร ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมชลประทานแทนนายประพิศ จันทร์มา ให้นายพีรพันธ์ คอทอง รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรแทนนายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง นอกจากนี้ยังมีกรมหม่อนไหมซึ่งแต่งตั้งให้พันจ่าเอกประเสริฐ มาลัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไปดำรงตำแหน่งแทนนายประกอบ เผ่าพงศ์ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำแหน่งที่ร้อยเอกธรรมนัสยังไม่ได้เสนอให้ครม. พิจารณาคือ อธิบดีกรมประมง แทนนายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์เกษียณอายุราชการ โดยร้อยเอกธรรมนัสกำลังพิจารณาบุคคลที่สามารถแก้ไขปัญหาให้ชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายเกี่ยวกับการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) ซึ่งมีประกาศและระเบียบออกมามากมายจนเป็นอุปสรรคในการประกอบอาชีพ โดยวาระเร่งด่วนที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีมีคำสั่งให้ร่วมแก้ไขปัญหา
ส่วนนโยบายการจัดสรรที่ดินทำกินให้เกษตรกรซึ่งเป็นอีกนโยบายสำคัญของรัฐบาลนั้น ร้อยเอกธรรมนัสยังมอบหมายให้นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุขซึ่งดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) มา 5 ปีแล้ว ขับเคลื่อนต่อไป
ก่อนหน้านี้ร้อยเอกธรรมนัสได้กล่าวเพื่อสยบข่าวลือว่า จะมีการโยกย้ายล้างบาง โดยระบุว่า การแต่งตั้งข้าราชการกระทรวงเกษตรฯ จะแต่งตั้งโยกย้ายเฉพาะทดแทนผู้เกษียณอายุราชการซึ่งต้องพิจารณาตามความเหมาะสม ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ให้ทำงานตามนโยบายอย่างเต็มที่ อีกทั้งตนเองเป็นผู้ให้โอกาสคน ดังนั้นอธิบดีกรมต่างๆ จึงไม่ต้องกังวล
สำหรับการทำงานในกระทรวงเกษตรฯ จะต้องทำงานให้เกิดประสิทธิผลตามตัวชี้วัด หากทำไม่ได้ จำเป็นต้องเปลี่ยนตัวบุคคล
ส่วนที่มีข่าวการซื้อขายตำแหน่งในระดับผู้อำนวยการสำนักในกรมชลประทานนั้น ได้มอบหมายให้นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยในยุคของตนนั้น จะเกิดการซื้อขายตำแหน่งไม่ได้ หากพบว่า มีจริง จะดำเนินการตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย