กรุงเทพฯ 1 มิ.ย.- อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยาระบุ จะมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งอันดามันซึ่งเป็นด้านรับลมมรสุม ล่าสุดคาดว่า จะมีแนวร่องมรสุมพาดผ่านไทยตอนบนช่วง 5-10 มิ.ย. ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ 10 จังหวัดด้านรับมรสุมยังมีฝนตกต่อเนื่องอีก จึงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม รวมถึงคลื่นลมกำลังค่อนข้างแรง โดยบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร
นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1-4 มิ.ย. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณอ่าวมะตะบัน ประเทศเมียนมา ทำให้ประเทศไทยตอนบนจะยังมีฝนและฝนฟ้าคะนองบางแห่ง แต่ที่ต้องเฝ้าระวังฝนที่ตกต่อเนื่องและตกหนักบางพื้นที่คือ ภาคตะวันออก 4 จังหวัดได้แก่ ระยอง ชลบุรี จันทบุรี และตราด รวมถึงภาคใต้ฝั่งตะวันตก 6 จังหวัดซึ่งเป็นด้านรับมรสุมได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
ล่าสุดพบว่า ฝนจะกลับมาเพิ่มขึ้นอีกเนื่องจากคาดว่า จะมีร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณประเทศไทยตอนบนระหว่างวันที่ 5-10 มิ.ย. ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ 10 จังหวัดด้านรับลมมรสุมดังกล่าวมีฝนตกต่อเนื่องอีก จึงขอให้ประชาชนบริเวณระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่ม ตลอดจนคลื่นลมที่มีกำลังค่อนข้างแรงซึ่งทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2 – 3 เมตร โดยเฉพาะบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1 – 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง
สำหรับพายุส่วนพายุไต้ฝุ่น “มาวาร์ (MAWAR)” ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนรุนแรง กำลังเคลื่อนตัวไปทางมหาสมุทรแปซิฟิกซึ่งคาดว่า จะอ่อนกำลังลงตามลำดับ โดยไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
ทั้งนี้ขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http:/www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.-สำนักข่าวไทย