คนเลี้ยงหมูเดือด บุกทำเนียบพรุ่งนี้ จี้รัฐแก้หมูเถื่อน

กรุงเทพฯ 8 พ.ค.- นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเผย วันพรุ่งนี้คนเลี้ยงหมูทั่วประเทศจะรวมพลังจี้รัฐปราบปรามขบวนการลักลอบนำเข้าและค้าหมูเถื่อน ย้ำเป็นขบวนการอภิมหาทุจริตจากการลักลอบนำเข้าหมู กินส่วนต่างมูลค่ามหาศาล ตั้งแต่ เอกชน ทุนเทา เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องต้นทางถึงปลายทางแบบครบวงจร


นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติกล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (9 พ.ค.) เวลา 09.00 น. ผู้เลี้ยงหมูจากทุกภาคทั่วประเทศนัดรวมตัวกันที่วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหารกรุงเทพมหานคร แล้วเคลื่อนสู่ทำเนียบรัฐบาลเพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลให้แก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าและค้าเนื้อหมูเถื่อนโดยทันที โดยเตรียมคำถาม 10 ข้อให้รัฐบาลตอบ ดังนี้

  1. หมูเถื่อนไหลมาโลดๆ คนปลูกข้าวโพดจะขายให้ใคร
  2. หมูเถื่อนไหลเข้าฝั่งไทย ชาวไร่ชาวนาจะหวังพึ่งใคร
  3. หมูเถื่อนไหลมาขนาดนี้ แล้วหนี้สินชาวนาจะใช้อย่างไร
  4. หมูไหลเรือมาอย่างโหด ชาวไร่ข้าวโพดจะอยู่อย่างไร
  5. หมูลักลอบเข้ามาหลายร้อยรำเรือ จะเหลือที่อยู่ให้ให้ขาวไร่นาอยู่ไหม
  6. หมูลักลอบเข้ามาไทยเป็นร้อยๆ ลำ ชาวนาตาดำๆ จะขายข้าวขายรำให้ใคร
  7. หมูเถื่อนไหลมาอย่างมโหฬาร หรือชาวนาต้องลาอาชีพเกษตรกรไทย
  8. หมูเถื่อนเข้าเป็นร้อยๆ คอนเทนเนอร์ ชาวไร่นาต้องรอเก้อไม่รู้จะขายพืชไร่ให้ใคร
  9. หมูลักลอบไหลล่องเรือมา แล้วชาวนาจะเหลืออะไร
  10. หมูเถื่อนกระจายทั่วไทย แล้วทำไมตรวจมาหาไม่เจอ

สำหรับสาเหตุที่ต้องให้รัฐบาลเข้ามาเร่งแก้ไขเนื่องจากมีขบวนการอภิมหาทุจริตจากการลักลอบนำเข้าหมู กินส่วนต่างมูลค่ามหาศาล ตั้งแต่ เอกชน ทุนเทา เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องต้นทางถึงปลายทางแบบครบวงจร


นายสุรชัยกล่าวว่า สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติและสมาคมผู้เลี้ยงสุกรทั้ง 4 ภาคได้พยายามเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหามาโดยตลอดเนื่องจากเป็นการทำลายอาชีพของผู้เลี้ยงสุกรไทย โดยราคาสุกรหน้าฟาร์มได้ตกต่ำลงต่อเนื่อง แต่ยังคงพบว่า มีการลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนหมูเข้ามามากทางเรือ

ล่าสุดได้ทำหนังสือถึงนายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร พร้อมสำเนาถึงนายฐิติพงศ์ คำผุย ผู้อำนวยการส่วนบริการศุลกากร 1 สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง โดยสมาคมขอให้ทำลายสินค้าชิ้นส่วนเนื้อสุกรในตู้ที่ตกค้างอยู่ในท่าเรือแหลมฉบัง 161 ตู้ เป็นเวลา 7-8 เดือน พร้อมให้กรมศุลกากรชี้แจงถึงแนวทางการดำเนินการแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าเนื้อหมูมายังสมาคมภายในวันที่ 30 เม.ย. ที่ผ่านมา เพื่อเป็นการยืนยันว่า ไม่มีการปล่อยปละละเลยให้เกิดการกระทำความผิด ซึ่งจะก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรทั้งประเทศกับหน่วยงานราชการ ที่อาจนำไปสู่ปัญหาการเผชิญหน้าของทั้งสองฝ่าย

สำหรับประเด็นที่สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติต้องการขอกรมศุลกากรดำเนินการโดยเร่งด่วนเกี่ยวกับตู้สินค้าเนื้อสุกรแช่แข็งที่ตกค้างอยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบังได้แก่


  1. ขอให้ส่งทำลายสินค้าเนื้อสุกรในตู้ที่ตกค้างทั้งหมด 161 ตู้
  2. ขอให้เปิดเผยรายชื่อผู้กระทำผิดซึ่งนำเข้าสินค้าเนื้อสุกรแช่แข็งที่ตกค้างทั้งหมด 161 ตู้ ขอรายชื่อผู้ประกอบการนำเข้า ที่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานราชการไว้ทั้งหมด 27 ราย หรืออาจจะมีมากกว่าจำนวนดังกล่าวจนถึงปัจจุบัน
  3. ขอตัวเลขจำนวนการส่งตู้สินค้าชิ้นส่วนเนื้อสุกรผิดกฎหมายที่ตกเป็นของแผ่นดินและส่งให้กรมปศุสัตว์เพื่อทำลายในปีงบประมาณ 2565-2566

ที่ผ่านมาสมาคมได้สนับสนุนเงิน 1 ล้านบาทแก่กรมปศุสัตว์เพื่อใช้ทำลายหมูเถื่อนที่ลักลอบนำเข้ามา แต่ปัจจุบันภาคเอกชนไม่มีเงินจะสนับสนุนแล้ว

นอกจากนี้ได้เสนอขอนัดหมายอธิบดีกรมศุลกากรเพื่อประชุมร่วมระหว่างกรมศุลกากรและสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติเพื่อหารือถึงการแก้ปัญหาการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนดังกล่าวอย่างเบ็ดเสร็จ

ส่วนข้อเสนอของผู้บริหารระดับสูงของบางหน่วยงานที่แนะนำให้มีการนำตู้คอนเทนเนอร์บรรจุชิ้นส่วนสุกรที่ตกค้างที่ท่าเรือแหลมฉบังตีกลับออกไปนอกราชอาณาจักร (reexport) ไม่ถือเป็นแนวทางแก้ปัญหาที่ไม่ถูกต้อง เพราะจากการเฝ้าสังเกตการณ์ของสมาคมมาระยะหนึ่งพบว่า เรือที่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ส่วนใหญ่ไม่ได้ตีกลับไปยังประเทศต้นทาง แต่มีจุดหมายปลายทางที่ประเทศกัมพูชา หลังจากนั้นมีการทยอยลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนสุกรกลับเข้ามายังประเทศไทยทางด้านหลายจังหวัดในภาคตะวันออก

ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการลักลอบนำเข้าหมูเถื่อนซึ่งเพิ่มอย่างมากตั้งแต่ต้นปี 2565 สร้างความเสียหายต่อตลาดการค้าสุกรมีชีวิตเนื่องจากหมูเถื่อนที่มีต้นทุนต่ำกว่าหมูที่เลี้ยงภายในประเทศ ทำให้เกิดแรงกดดันต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงที่ต้องขายหมูขาดทุนตัวละ 2,000-3,000 บาท หากพิจารณาภาพรวมความเสียหายเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 100-150 ล้านบาทต่อวัน คิดจากจำนวนหมูที่เข้าโรงฆ่าเฉลี่ย 50,000 ตัวต่อวันในปัจจุบัน จึงเป็นการทำลายอุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรของประเทศไทย

สำหรับสภาวะราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มทุกภูมิภาคอ่อนตัวลงต่อเนื่อง ราคาอยู่ระหว่าง 70-79 บาทต่อกิโลกรัมขึ้นอยู่แต่ละภาค ขณะที่ผู้เลี้ยงยังต้องเผชิญปัญหาต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ยังคงเป็นปัญหาทั้งระบบ ทำให้ต้นทุนการเลี้ยงอยู่ที่ประมาณ 100 บาทต่อกิโลกรัม โดยคณะอนุกรรมการต้นทุนการผลิตสุกรของคณะกรรมการนโยบายพัฒนาสุกรและผลิตภัณฑ์จะประชุมพิจารณาคาดการณ์ต้นทุนไตรมาส 2/2566 ในวันที่ 10 พ.ค. นี้ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น