คาดต้นฤดูฝนปี 66 จะมีน้ำต้นทุนมากกว่าปี 65

กรุงเทพฯ 30 ม.ค.- อธิบดีกรมชลประทาน ชี้การจัดสรรน้ำฤดูแล้งทั่วประเทศเป็นไปตามแผน อีก 3 เดือนสิ้นสุดฤดูแล้ง คาดต้นฤดูฝนปี 66 จะมีน้ำต้นทุนมากกว่าปีที่ผ่านมา ย้ำแม้ระหว่างนี้ไม่เกิดภัยแล้ง แต่ขอให้ทุกภาคส่วนใช้น้ำอย่างประหยัด เนื่องจากต้องสำรองน้ำไว้ใช้กรณีฝนมาช้าหรือทิ้งช่วง


นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า การจัดสรรน้ำในฤดูแล้งปี 2565/66 เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยภาพรวมทั้งประเทศ มีแผนจัดสรรน้ำ 43,740 ล้าน ลบ.ม. จัดสรรเพื่อให้เพียงพอกับทุกกิจกรรม 27,685 ล้าน ลบ.ม. (63%) และสำรองต้นฤดูฝน 16,055 ล้าน ลบ.ม. (37%) และได้วางแผนจัดสรรน้ำเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปรัง 10.42 ล้านไร่ ปัจจุบันเพาะปลูกไปแล้ว 8 ล้านไร่ (76%)

สำหรับลุ่มเจ้าพระยา มีแผนจัดสรรน้ำทั้งสิ้น 14,074 ล้าน ลบ.ม. จัดสรรเพื่อให้เพียงพอกับทุกกิจกรรม 9,100 ล้าน ลบ.ม. (62%) และสำรองต้นฤดูฝน 5,474 ล้าน ลบ.ม. (38%) แผนการเพาะปลูกข้าวนาปรัง 6.64 ล้านไร่ ปัจจุบันเพาะปลูกไปแล้ว 5.6 ล้านไร่ (84%) ส่วนลุ่มแม่กลอง มีแผนจัดสรรน้ำทั้งสิ้น 8,964 ล้าน ลบ.ม. จัดสรรเพื่อให้เพียงพอกับทุกกิจกรรม 5,500 ล้าน ลบ.ม. (61%) และสำรองต้นฤดูฝน 3,964 ล้าน ลบ.ม. (39%) แผนการเพาะปลูกข้าวนาปรัง 840,000 ไร่ เพาะปลูกไปแล้ว 30,000 ไร่ (3%)


ทั้งนี้ อีก 3 เดือนจะสิ้นสุดฤดูแล้ง กรมชลประทานได้จัดสรรน้ำเพื่อให้ครบทุกกิจกรรมและทุกภาคส่วน โดยจัดสรรน้ำแบบประณีตและจัดรอบเวรการส่งน้ำ จากนั้นวันที่ 1 พ.ค.66 จะเป็นวันเริ่มต้นการบริหารจัดการน้ำฤดูฝนปี 2566 คาดการณ์ว่าจะมีน้ำทั้งประเทศอยู่ประมาณ 42,000 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งมากกว่าปี 2565 อยู่ 1,600 ล้าน ลบ.ม. ในลุ่มเจ้าพระยามีน้ำประมาณ 14,000 ล้าน ลบ.ม. มากกว่าปี 2565 อยู่ 4,300 ล้าน ลบ.ม.

นายประพิศ กล่าวว่า ในฤดูแล้งนี้ กรมชลประทานดำเนินการตาม 10 มาตรการรองรับฤดูแล้งปี 2565/66 ที่ ครม.ได้เห็นชอบไว้เมื่อวันที่ 1 พ.ย.65 โดยกำหนดเป็น 6 แนวทางปฏิบัติ ได้แก่ บริหารน้ำในอ่าง/จัดหาแหล่งน้ำสำรอง/ตรวจสอบความต้องการ/จัดสรรตามกิจกรรมหลัก/สำรองน้ำเก็บกักไว้ต้นฤดูฝน/ประเมินผลและประชาสัมพันธ์ โดยวางแผนการจัดสรรน้ำให้เพียงพอในกิจกรรมหลัก ไม่ว่าจะเป็นอุปโภค บริโภค เกษตรกรรม รักษาระบบนิเวศ อุตสาหกรรม และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ การสำรองไว้ในช่วงต้นฤดูฝน 3 เดือน หากฝนมาช้าหรือเกิดฝนทิ้งช่วง จึงขอให้ประชาชนใช้น้ำอย่างประหยัดและเกิดคุณค่าสูงสุด แม้จะไม่มีภัยแล้งก็ตาม

พร้อมกันนี้ยังเร่งรัดดำเนินการโครงการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่สำคัญๆ ในหลายพื้นที่ เพื่อสร้างความมั่นคงด้านน้ำ โดยบรรเทาทั้งน้ำท่วมและน้ำแล้ง เช่น ลุ่มน้ำชี ต้นน้ำ เน้นการเก็บกักน้ำต้นทุนให้ได้มากที่สุดในบริเวณตอนบนของลุ่มน้ำชี เป็นการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 5 โครงการ ได้แก่ อ่างเก็บน้ำโปร่งขุนเพชร อ่างเก็บน้ำลำน้ำชีอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ่างเก็บน้ำพระอาจารย์จื่อ (ลำกระจวน) อ่างเก็บน้ำลำเจียงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ่างเก็บน้ำลำสะพุงอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จทั้ง 5 แห่ง จะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกักได้อีก 240 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 188,000 ไร่ ส่วนกลางน้ำ-ปลายน้ำ เป็นการหน่วงน้ำและเร่งระบายน้ำ ในตอนกลางและตอนล่างของลุ่มน้ำ ภายใต้โครงการพัฒนาแหล่งน้ำสองฝั่งลำน้ำชี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้งสิ้น 94 โครงการ รวมทั้งโครงการพัฒนาแหล่งน้ำสองฝั่งลำน้ำชี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จะเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกัก 184 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 73,692 ไร่ ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนและความมั่นคงด้านน้ำในลำน้ำชี อีกทั้งโครงการต่างๆ ยังเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการน้ำในลำน้ำชีให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เป็นการแก้ปัญหาอุทกภัย และภัยแล้งซ้ำซากในพื้นที่ลำน้ำชีได้อย่างยั่งยืน


นอกจากนี้ยังเดินหน้าโครงการคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร เป็นการขุดคลองระบายน้ำ เพื่อผันน้ำเลี่ยงตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา สามารถระบายน้ำได้สูงสุด 1,200 ลบ.ม./วินาที  ซึ่งเมื่อรวมกับขีดความสามารถในการระบายน้ำที่มีอยู่เดิม จะสามารถระบายน้ำได้รวมทั้งหมด 2,930 ลบ.ม./วินาที ปัจจุบันมีผลการดำเนินการ 26% คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2569

สำหรับโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำเก็บกัก สร้างความมั่นคงด้านน้ำ และบรรเทาปัญหาอุทกภัยและภัยแล้ง ที่กำลังดำเนินการยังมีอีกหลายโครงการ เช่น โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้อ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพล ที่จะสร้างความมั่นคงด้านน้ำให้ลุ่มน้ำเจ้าพระยา โครงการอ่างเก็บน้ำคลองวังโตนด จ.จันทบุรี ที่จะสร้างความมั่นคงด้านน้ำให้กับภาคตะวันออกและเขต EEC ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล กรมชลประทานมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาแหล่งน้ำ สร้างความมั่นคงด้านน้ำให้แก่ประชาชนทุกภาคส่วนได้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น

ตร.เชื่อชิงทอง 113 บาท ก่อเหตุคนเดียว วางแผนมาอย่างดี

เหตุคนร้ายชิงทองในร้านทองกลางห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณ 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตำรวจเชื่อคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว และวางแผนมาเป็นอย่างดี