กรุงเทพฯ 30 ก.ย.- กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ คาดระดับน้ำที่ จ.อุบลราชธานี จะสูงกว่าตลิ่ง 3.39 เมตรในวันที่ 6 ต.ค. แต่ยังต่ำกว่าระดับสูงสุดในปี 2562 ซึ่งเกิดอุทกภัยรุนแรง กว่าสถานการณ์จะคลี่คลายใช้เวลาระบายน้ำออกถึง 1 เดือน เตรียมประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าฯ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กำชับเร่งระบายน้ำ ช่วยเหลือเยียวยาประชาชน
นายชยันต์ เมืองสง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า ปริมาณน้ำในลำน้ำมูลที่ไหลผ่านจังหวัดอุบลราชธานีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เช้านี้ระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำ M.7 ในเขตอำเภอเมืองสูงกว่าตลิ่ง 2.62 เมตร เมื่อนำปริมาณน้ำจากฝนที่ตกลงมาเพิ่มในช่วงที่ได้รับอิทธิพลจากพายุดีเปรสชัน “โนรู” รวมกับปริมาณน้ำท่าที่มีอยู่เดิมในลำน้ำชีและมูลซึ่งจะระบายผ่านจังหวัดอุบลราชธานีมาคำนวณ คาดการณ์ว่า ในวันที่ 6 ตุลาคม ระดับน้ำจะสูงกว่าตลิ่ง 3.39 เมตร
เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 ซึ่งเกิดอุทกภัยรุนแรงในจังหวัดอุบลราชาธานี คาดว่า สถานการณ์ปีนี้รุนแรงน้อยกว่า โดยในปี 2562 ระดับน้ำสูงสุดที่สถานีวัดน้ำ M.7 สูงกว่าตลิ่ง 3.97 เมตร โดยใช้เวลาถึง 1 เดือนจึงระบายน้ำหมด
ปัจจุบันระดับน้ำแม่น้ำโขงสูงขึ้น แต่ยังคงต่ำกว่าระดับน้ำที่สถานีวัดน้ำ M.7 ประมาณ 10 เมตรจึงยังระบายน้ำแม่น้ำมูลออกได้ โดยกรมชลประทานกำลังติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มที่สะพานโขงเจียม อำเภอโขงเจียมซึ่งเป็นพื้นที่สุดท้าย ก่อนน้ำมูลจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง เพื่อเร่งระบายน้ำออกโดยเร็ว
ทั้งนี้เตรียมจะประชุมคณะทำงานอำนวยการบริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร่วมกับหน่วยงานปฏิบัติในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดการระบายน้ำและการช่วยเหลือเยียวยาประชาชนต่อไป.-สำนักข่าวไทย