กรุงเทพฯ 28 ก.ย. –กรมอุตุนิยมวิทยาเผย พายุไต้ฝุ่น “โนรู” ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามแล้ว เมื่อเวลา 04.00 น. คาดว่า จะอ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อน แล้วเคลื่อนผ่านลาว เข้าไทยตี 1 คืนนี้ โดยอาจจะยังมีความแรงระดับพายุโซนร้อนอยู่ขณะเคลื่อนสู่จ. อำนาจเจริญและอุบลราชธานี ล่าสุดมีรายงานว่า เครื่องบินที่มท.1 -รมว. ดีอีเอสโดยสารไปยังจ. อุบลราชธานี เพื่อสั่งการรับพายุและช่วยเหลือประชาชน ไม่สามารถลงจอดได้เนื่องจากสภาพอากาศ จึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่จ. พิษณุโลก แล้ว vedio conference กับหน่วยงานในพื้นที่แทน

นางสาวชมภารี ชมภูรัตน์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยากล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.00 ของวันนี้ (28 ก.ย.) พายุไต้ฝุ่น“โนรู” ได้เคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองฮอยอัน ประเทศเวียดนามแล้ว โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 70 กิโลเมตรทางตะวันออกของแขวงเซกอง ประเทศลาว หรือที่ละติจูด 15.9 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.1 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน แล้วเคลื่อนผ่านประเทศลาวตอนล่างและเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างของประเทศไทยบริเวณจังหวัดอำนาจเจริญและอุบลราชธานีในคืนนี้ เวลาประมาณ01.00 น. (29 ก.ย.)
ทั้งนี้คาดว่า ขณะที่เคลื่อนสู่ประเทศไทย พายุนี้จะยังคงเป็นพายุโซนร้อน จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงตามลำดับ ประเทศไทยได้รับอิทธิพลจากพายุ “โนรู” ทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นแล้วหลังจากพายุขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม ขอให้ประชาชนติดตามสถานการณ์และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดทั้งจากฝนตกหนักและลมแรง นอกจากนั้นระหว่างนี้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ส่งผลทำให้มีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีฝนตกหนักมากบางแห่งกับมีลมแรงบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม สำหรับประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งให้ระวังอันตรายจากคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย



กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศแจ้งเตือน ฉบับที่ 12 เมื่อเวลา 05.00 น. แจ้งถึงพื้นที่ที่คาดว่า จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ดังนี้
วันที่ 28 กันยายน 2565
– ภาคเหนือได้แก่ จังหวัดพิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่ จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ชัยภูมิขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
– ภาคกลางได้แก่ จังหวัดลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง และพระนครศรีอยุธยา
– ภาคตะวันออกได้แก่ จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด
– ภาคใต้ได้แก่ จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
วันที่ 29 กันยายน 2565
– ภาคเหนือได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง น่าน พะเยา แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตากกำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่ จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
– ภาคกลางได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรีอ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
– ภาคตะวันออกได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
– ภาคใต้ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
วันที่ 30 กันยายน 2565
– ภาคเหนือได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน พะเยา น่าน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตากกำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
– ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้แก่ จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร ชัยภูมิ และนครราชสีมา
– ภาคกลางได้แก่ จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท กาญจนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรีอ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
– ภาคตะวันออกได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
– ภาคใต้ได้แก่ จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา และภูเก็ต
ล่าสุดมีรายงานว่า เครื่องบินที่พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอสโดยสารเพื่อเดินทางไปตรวจเยี่ยมจังหวัดอุบลราชธานี ไม่สามารถลงจอดที่ท่าอากาศยานอุบลราชธานีได้เนื่องจากสภาพอากาศ ดังนั้นจึงเปลี่ยนไปลงจอดที่ท่าอากาศยานพิษณุโลก แล้ว vedio conference เพื่อกำชับหน่วยงานในพื้นที่ให้เตรียมรับมือและพร้อมช่วยเหลือประชาชน.-สำนักข่าวไทย