กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-อธิบดีกรมชลประทาน ระบุได้ปรับเพิ่มการระบายน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยาอีกครั้ง เนื่องจากน้ำเหนือมีปริมาณมาก ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำพื้นที่ท้ายเขื่อนสูงขึ้นอีก 50 เซนติเมตร แจ้งเตือน 11 จังหวัดเฝ้าระวัง
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ในช่วงวันที่ 27-29 กรกฎาคม 2565 แม่น้ำเจ้าพระยาที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1,200–1,300 ลบ.ม./วินาที และคาดการณ์ปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรัง ที่สถานี Ct.19 จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 100 ลบ.ม./วินาที รวมกับปริมาณน้ำท่าจากลำน้ำสาขาอื่น ๆ อีกประมาณ 150 ลบ.ม./วินาที จะส่งผลให้ปริมาณน้ำที่บริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 1,450–1,550 ลบ.ม./วินาที
กรมชลประทาน มีความจำเป็นต้องระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มมากขึ้น ในอัตราระหว่าง 1,000–1,250 ลบ.ม./วินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.50 เมตร ได้แก่ พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชุมชนหากมีแนวโน้มว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นอีก จะแจ้งให้ทราบต่อไป

ทั้งนี้ ยืนยันว่า จะบริหารจัดการน้ำและควบคุมปริมาณการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในเกณฑ์ดังกล่าวอย่างเต็มศักยภาพ พร้อมแจ้งเตือน 11 จังหวัดในลุ่มน้ำเจ้าพระยา (อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยาสุพรรณบุรี ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนบริษัท ห้างร้าน ที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร เป็นต้นรวมทั้งประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย ขอให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย