รัฐสภา 21 ก.ค.-“สุพัฒนพงษ์” ย้ำรัฐบาลพยายามแก้ปัญหาพลังงานทุกประเภท ลดผลกระทบต่อประชาชน ขออดทน สถานการณ์โลกยังผันผวน
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร หลังฝ่ายค้านแสดงความเป็นห่วงเรื่องค่าไฟฟ้าและน้ำมันที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น ว่า ค่าไฟฟ้าที่จะเกิดขึ้นเป็นรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับฐานการคำนวณค่าไฟฟ้า ซึ่งในอดีตเมื่อปี 2557-2558 ก็มีการปรับวิธีคำนวณค่าฐานไฟฟ้าเช่นเดียวกัน โดยนำค่า FT เวลานั้นมาคำนวณด้วย และเนื่องจากก๊าซธรรมชาติในเวลานั้นมีเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ ค่าไฟฟ้าจึงดูเหมือนไม่ได้ปรับสูงมาก
“แตกต่างจากปัจจุบันที่ก๊าซธรรมชาติในประเทศพร่องลงไป และรัฐบาลต้องมีแผนนำเข้าจากต่างประเทศ ไม่เช่นนั้นจะเกิดวิกฤติด้านพลังงาน ทำให้ต้องนำต้นทุนในส่วนนี้มาพิจารณาด้วย ดังนั้น ในปัจจุบันหากใช้ไฟฟ้ามากก็จำเป็นต้องจ่ายค่าไฟมากเช่นกัน เพราะด้วยต้นทุนจากการนำเข้าที่สูง แต่รัฐบาลไม่อยากให้เป็นภาระของประชาชน จึงจำเป็นต้องพิจารณาและดำเนินการทุกอย่างให้รอบคอบที่สุด โดยพิจารณาถึงการสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและการดูแลกลุ่มเปราะบาง คาดว่าสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้จะมีความชัดเจน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าว
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า ส่วนราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้น เพราะสถานการณ์โลกที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประเทศไทย แต่รัฐบาลพยายามประคับประคองและดูแลราคาน้ำมันให้เป็นไปอย่างเหมาะสม ให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้ ซึ่งหากเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยกับประเทศในภูมิภาคอาเซียน ราคาน้ำมันของประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 8 ถือว่าไม่แพงมากนัก ขณะที่น้ำมันเบนซินปรับลดลงต่อเนื่อง ขอให้ประชาชนอดทนรอสถานการณ์โลกที่ขณะนี้ยังมีความผันผวน
“สำหรับน้ำมันดีเซล รัฐบาลจะดูแล เพราะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ทั้งด้านเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ ยืนยันว่า ได้นำเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาประคับประคองราคาน้ำมันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจวงกว้างมากเกินไป ขณะที่ราคาก๊าซหุงต้ม ก็จะดูแลอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้เป็นภาระของประชาชน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าว.-สำนักข่าวไทย