รัฐสภา 16 ม.ค..-“สุพัฒนพงษ์” แจงนโยบายพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาคเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มุ่งกระจายความเจริญสู่ภูมิภาคทุกจังหวัด ลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
การประชุมวุฒิสภา วันนี้(16 ม.ค.) นายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้พิจารณาวาระกระทู้ถามเป็นหนังสือของนพ.อำพล จินดาวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ซึ่งตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรีถึงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค ซึ่งนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเป็นผู้ตอบกระทู้ถามแทน ชี้แจงว่า ตามที่รัฐบาลได้กำหนดพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค และการขับเคลื่อนการดำเนินงาน 5 ด้านตามแผนแม่บทและยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อมุ่งกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค ลดความเหลื่อมล้ำ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เสริมความมั่นคงในพื้นที่บริเวณชายแดน
“รัฐบาลดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่เน้นการวางโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเกิดการเข้าถึงและเป็นประตูสู่ชายแดน เพื่อให้เกิดกระจายตัวทางเศรษฐกิจไปสู่ภูมิภาค ก่อนขยายผลการพัฒนาเป็นระเบียงเศรษฐกิจ เพื่อให้ไทยเจริญเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยสนับสนุนเศรษฐกิจ BCG และพลังงานสะอาดที่เชื่อมโยงสิ่งแวดล้อมในระดับชุมชนต่าง ๆ ทั่วทุกจังหวัดอย่างทั่วถึง โดยไม่ลืมจังหวัดใกล้เคียงให้ได้รับประโยชน์ด้วย “ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าว
นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า สำหรับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ 4 ภาค ประกอบด้วย จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ ลำพูนและลำปาง เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคเหนือ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ จังหวัดนครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานีและหนองคายเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อพัฒนาเป็นฐานอุตสาหกรรมชีวิภาพแห่งใหม่ของประเทศ จังหวัfพระนครศรีอยุธยา นครปฐม สุพรรณบุรี และกาญจบุรี เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคกลาง-ตะวันตก เป็นฐานเศรษฐกิจชั้นนำด้านการเกษตร การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมไฮเทคมูลค่าสูงเชื่อมโยงกับกรุงเทพมหานครและพื้นที่โดยรอบและเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กำหนดให้จังหวัดชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ เพื่อพัฒนาเป็นศูนย์กลางของภาคใต้เชื่อมโยงโลจิสติกส์ในพื้นที่และภูมิภาคฝั่งอันดามัน เพื่อเป็นฐานการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพและการแปรรูปเกษตรมูลค่าสูงเพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานการท่องเที่ยวสู่ระดับนานาชาติ.-สำนักข่าวไทย