โรงเรียน 4 แห่งแนวชายแดนเปิดการเรียนตามปกติ

ตาก 4 ก.ค. – โรงเรียน 4 แห่งแนวชายแดน อ.พบพระ จ.ตาก เปิดทำการเรียนการสอนตามปกติหลังปิดเรียนรวมวันหยุดไป 4 วัน แต่ยังมีการซ้อมแผนหนีภัยหลังได้รับผลกระทบการสู้รบในเมียนมา


สถานการณ์ความตึงเครียดที่แนวชายแดนไทย-เมียนมา จากการสู้รบระหว่างทหารทหารเคเอ็นยูกับทหารเมียนมา ที่ยิงปะทะกันอย่างหนักด้วยอาวุธหนักนานกว่า 7 วัน ซึ่งตลอดวันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมาสถานการณ์เริ่มคลี่คลายดีขึ้น หลังทหารกะเหรี่ยงเคเอ็นยูถอนกำลังออกจากการปิดล้อมฐานบ้านอูเกรทะ ซึ่งจุดปะทะอยู่ตรงข้ามกับพื้นที่บ้านวาเล่ย์ใต้ ตำบลพบพระ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ทำให้โรงเรียนในพื้นที่ชายแดนใกล้กับจุดปะทะจำนวน 4 แห่ง ปิดโรงเรียนชั่วคราวนาน 4 วัน

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาโรงเรียนทั้ง 4 แห่งได้เปิดทำการเรียนการสอนแล้ว หลังตลอดสองวันที่ผ่านมาไม่มีเสียงปืนและเสียงระเบิดในฝั่งเมียนมา ส่วนที่โรงเรียนบ้านวาเล่ย์ ซึ่งอยู่ติดแนวชายแดนมากที่สุด ช่วงเช้าที่ผ่านมาครูและนักเรียนยังเตรียมซ้อมแผนการหนีภัยโดยซ้อมความเข้าใจกับนักเรียนถ้าหากเกิดสถานการณ์การสู้รบขึ้นมาอีกในระหว่างเรียนหนังสือ


ด้านนางอมรรัตน์ พรหมขัติแก้ว ผอ.โรงเรียนบ้านวาเล่ย์ กล่าวว่าวันนี้โรงเรียนได้เปิดทำการเรียนการสอนแล้ว แต่ยังเฝ้าติดตามสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิดและใช้ความปลอดภัยของนักเรียนเป็นหลัก หากมีสถานการณ์เกิดขึ้นอีกโรงเรียนจะประกาศให้นักเรียนเข้าไปหลบในหลุมหลบภัยของโรงเรียนซึ่งเป็นหลุมหลบภัยขนาดใหญ่มั่นคงและแข็งแรงซึ่งมีการซักซ้อมอยู่เป็นประจำ

ขณะเดียวกันแม้ว่าเสียงปืนการยิงปะทะจะสงบลงชั่วคราว แต่สถานการณ์ล่าสุดมีรายงานว่าทหารเมียนมาจำนวนมากกำลังเข้าไปเสริมในพื้นที่จุดยุทธศาสตร์ใกล้กับฐานทหารอูเกรทะ ทำให้ชาวกะเหรี่ยงหลายหมู่บ้านซึ่งมีบ้านเรือนอยู่ฝั่งตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก ชาวเดินทางข้ามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ขอหลบภัยการสู้รบชั่วคราวในพื้นที่ปลอดภัยในฝั่งประเทศไทย จำนวนสามแห่ง คือ 1.บ้านมอเกอร์ไทย 2.บ้านวาเล่ย์เหนือ 3.บ้านหมื่นฤาชัย ซึ่งทั้งสามแห่งเป็นพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวที่ทางฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ จัดไว้รองรับผู้หนีภัยการสู้รบชาวเมียนมา ซึ่งยอดผู้หนีภัยชาวเมียนมาล่าสุดมีจำนวน 785 คน คาดว่าถ้าสถานการณ์กลับมาตึงเครียดขึ้นอีกผู้หนีภัยชาวเมียนมาก็อาจจะข้ามแนวชายแดนมามากยิ่งขึ้น

ส่วนการส่งกลับผู้หนีภัยจากการสู้รบทั้งสามแห่งจะขึ้นอยู่กับความสมัครใจในการเดินทางกลับ ซึ่งขณะนี้ผู้หนีภัยซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิงยังคงไม่มั่นใจในสถานการณ์จึงยังขอดูสถานการณ์ในประเทศไทยต่อไป


เครื่องบินเอฟ-16 ของกองทัพอากาศไทย จำนวน 2 ลำ ยังคงบินลาดตระเวนบนน่านฟ้าไทยชายแดนไทย-เมียนมา ด้านอำเภอพบพระ จังหวัดตาก อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันเครื่องบินรบของเมียนมาบินรุกล้ำน่านฟ้าไทยเพื่อโจมตีทหารกะเหรี่ยง เหมือนเมื่อ 4 วันก่อน ขณะที่กำลัง ตชด. และทหารภาคพื้นดินใช้รถหุ้มเกราะวี 150 ตระเวนตามพื้นที่ชายแดนไทยตลอดแนวจากพบพระถึงแม่สอด เพื่อรักษาความปลอดภัยให้ชาวบ้านและป้องกันทั้งฝ่ายกองกำลังกะเหรี่ยงและทหารเมียนมา รุกล้ำเข้ามาในผืนแผ่นดินไทย แม้ว่าการสู้รบของทั้ง 2 ฝ่าย ที่ยิงสู้รบกันมาตลอด 7 วัน จะหยุดลงชั่วคราว มา 2 วันแล้ว หลังทหารเมียนมาสามารถยึดฐานทหารที่ถูกกะเหรี่ยงตีแตกคืนมาได้แล้ว แต่ยังมีเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงเสบียงและยุทโธปกรณ์เสริมเข้ามาในพื้นที่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์ของไทยอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่กองกำลังกะเหรี่ยงและพันธมิตร มีรายงานว่าถอยร่นลงไปตามแนวชายแดนตรงข้ามกับอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ซึ่งหลายฝ่ายยังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพราะเชื่อว่าการสู้รบระลอกใหม่จะเกิดขึ้นอีก เพราะมีสัญญาณจากชาวกะเหรี่ยงในฝั่งเมียนมาที่ยังทะลักเข้ามาฝั่งไทยอย่างต่อเนื่องรวมกว่า 700 คน ไม่รวมที่หลบหนีอยู่ตามป่าและพักตามบ้านญาติในฝั่งไทยซึ่งรวมแล้วน่าจะมีนับพันคน

ขณะที่วันนี้ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ ส.ส.เต้ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร เดินทางไปที่อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เพื่อรับทราบข้อมูลผลกระทบจากการสู้รบของทหารกะเหรี่ยงและเมียนมา โดย ส.ส.เต้ เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีออกมาขอโทษชาวไทยตามแนวชายแดนจังหวัดตากที่ทำให้รู้สึกหวาดกลัวและไม่ปลอดภัย เพราะการรักษาอธิปไตยของประเทศเป็นเรื่องใหญ่ไม่ใช่เรื่องเล็ก โดยกรรมาธิการการทหาร จะเชิญผู้บัญชาการทหารอากาศ มาให้ข้อมูลถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่อนุกรรมาธิการเสริมสร้างกองทัพ เตรียมเชิญผู้บัญชาการทหารบกและแม่ทัพภาคที่ 3 มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการปกป้องอธิปไตยตามแนวชายแดนด้วย เพื่อดูว่ามีความบกพร่องหรือไม่ โดยเฉพาะช่วงที่เครื่องบินรบของเมียนมาบินเข้ามากองกำลังภาคพื้นดินมีการตรวจจับเรดาห์เครื่องบินของเมียนมาและบันทึกไว้หรือไม่ ประสานกับกองทัพอากาศอย่างไร และมีการสั่งการอย่างไร ตอบโต้ทันการหรือไม่ หลังได้ข้อเท็จจริงแล้ว จะใช้มติกรรมาธิการการทหารเชิญนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม มาชี้แจงด้วยเพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ

ขณะที่นายสมพงษ์ ฟุ้งทวีวงศ์ นายอำเภอพบพระ ยืนยันว่า ได้เตรียมพื้นที่ปลอดภัยไว้ที่ อบต.วาเล่ย์ ให้สำหรับราษฎรไทยตามตะเข็บชายแดน ที่รู้สึกไม่ปลอดภัยให้สามารถมาอาศัยชั่วคราวได้ พร้อมให้การช่วยเหลือชาวกะเหรี่ยงที่หนีภัยจากการสู้รบเข้ามา ตามหลักมนุษยธรรม .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

DSI ฝากขัง “สามารถ-แม่” พร้อมคัดค้านประกันตัว

DSI ฝากขัง “สามารถ-แม่” พร้อมคัดค้านประกันตัว ด้านแม่ตะโกนร้องขอความเป็นธรรม ถูกกลั่นแกล้ง แจงเป็นเงินบุญ ปี 64 ขณะที่ “สามารถ” เผย “อยากพูด แต่พูดไม่ได้“

งด ครม.

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” วันศุกร์

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” ศุกร์นี้ นายกฯ ตั้งเป้าปีหน้าน้ำท่วมภาคเหนือต้องไม่เกิดอีก ด้าน ศปช. เตรียมเสนอแผนแก้อย่างเป็นระบบใน ครม.สัญจร ศุกร์นี้