กรุงเทพฯ 29 มิ.ย. – เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม หลังถูกอดีตไวยาวัจกร ร้องเรียนเมื่อปี 62 ว่ายักยอกเงินวัด 95 ล้านบาท และนำศพที่เผาไหม้ไม่หมดทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา
นายชาญณรงค์ เพียรดี อดีตไวยาวัจกรวัดสุทธิวราราม เดินทางเข้าให้ปากคำต่อคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณีที่เขาเคยร้องเรียนเจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม เมื่อปี 2562 ที่สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดกรุงเทพมหานคร วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ โดยมีพระวิเชียรโมลี รองเจ้าคณะภาค 1 เป็นประธานในการสอบข้อเท็จจริง
นายชาญณรงค์ กล่าวก่อนเข้าให้ปากคำกับคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงว่า เคยร้องเรียนต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติว่า พระสุธีรัตนบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม ยักยอกเงินวัด 95 ล้านบาท ไปซื้อที่ดิน ส.ป.ก. ที่ จ.สระบุรี และที่ดินมือเปล่าที่ จ.เชียงราย รวมทั้งนำศพที่เผาไหม้ไม่หมดไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อมามีการตั้งเจ้าคณะแขวงยานนาวา ให้สอบสวนข้อเท็จจริง ซึ่งตนทราบว่า การสอบข้อเท็จจริงครั้งนั้น เจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม ยอมรับว่า เบิกจ่ายเงินบัญชีวัดแต่ผู้เดียว ภายหลังได้เปลี่ยนเป็นการเบิกจ่าย 3 คนแล้ว แต่ผลสอบสวนนี้กลับถูกพระผู้ใหญ่เปลี่ยนแปลงผลการสอบสวน เพื่อช่วยเหลือเจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม และหยุดการสอบสวนไว้เพียงเท่านั้น ตนจึงไปร้องเรียนต่อสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กระทั่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แจ้งทางโทรศัพท์ให้ตนมาให้ปากคำต่อคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงในวันนี้ ยืนยันตนมีหลักฐาน ไม่ว่าจะเป็นการยักยอกเงินวัดไปซื้อที่ดินที่ต่างจังหวัด ไม่ได้นำมาบูรณะวัดตามที่เจ้าอาวาสเคยแถลงต่อสื่อมวลชน เช่นเดียวกับการนำศพที่ไหม้ไม่หมดไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา ก็มีหลักฐานเช่นกัน
นายชาญณรงค์ กล่าวด้วยว่า ตนเป็นไวยาวัจกรวัดสุทธิวราราม ช่วงปี 2556-2562 แต่มารู้เรื่องการนำศพที่เผาไม่ไหม้ทั้งหมดไปทิ้งเจ้าพระยา ในปี 2561 จากนั้นในปีเดียวกัน ก็รู้เรื่องเงินวัดที่ถูกยักยอก กระทั่งปี 2562 จึงร้องเรียนต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทำให้ถูกเจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม ปลดออกจากไวยาวัจกร
ด้านพระสุธีรัตนบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดสุทธิวราราม กล่าวว่า การร้องเรียนของนายชาญณรงค์ เป็นเรื่องเดิมทั้งสิ้น และยังมีผลการตรวจยืนยันจากทั้งอดีตผู้รักษาการแทนเจ้าคณะกรุงเทพฯ และสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ด้วยว่า ไม่พบความผิด ส่วนเรื่องการขอขมานั้น ยืนยันว่า มีเอกสารที่นายชาญณรงค์ ลงนามรับรองว่ามีการขอขมาจริง อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการร้องเรียนไปยังเจ้าคณะกรุงเทพฯ รูปปัจจุบัน ทางวัดสุทธิฯ ก็ได้ทำเอกสารชี้แจงไปแล้วทุกเรื่อง โดยเรื่องการนำศพเผาไหม้ไม่หมดไปโยนทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยานั้น เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะเป็นการที่เจ้าหน้าที่ของวัดนำขี้เถ้า อัฐิ ที่ญาติไม่ได้นำกลับไป รวบรวมใส่ภาชนะแล้วนำไปลอยอังคารให้ตามประเพณี จึงอาจทำให้ผู้ร้องเรียนเข้าใจผิดว่าเป็นการนำไปทิ้งในแม่น้ำเจ้าพระยา
ส่วนเรื่องเงิน 95 ล้านบาท ในปี 2562 ทางวัดมีการบริหารจัดการเงินของวัดในรูปแบบคณะกรรมการ และมีบัญชีรายรับ-รายจ่ายที่ชัดเจน ทำตามระบบบัญชีอย่างถูกต้อง มิได้มีพฤติกรรมในทางทุจริต จนเป็นเหตุให้เงินจำนวนดังกล่าวสูญหายแต่อย่างใด ขณะที่เรื่องการซื้อที่ดินก็เป็นไปตามการดำเนินการโครงการพุทธเกษตร และเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของทางวัดสุทธิวราราม. – สำนักข่าวไทย