ตูริน 15 พ.ค.- คาลูช ออร์เคสตรา (Kalush Orchestra) วงดนตรีฮิปฮอปที่ใช้เครื่องดนตรีพื้นบ้านยูเครน คว้ารางวัลชนะเลิศการประกวดเพลงยูโรวิชัน (Eurovision Song Contest) ในเช้าวันนี้ตามเวลาท้องถิ่นที่เมืองตูรินของอิตาลี ด้วยคะแนนสนับสนุนอย่างล้นหลามในยามที่ประเทศกำลังเผชิญสงคราม
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนโพสต์ในแอปพลิเคชันเทเลแกรมแสดงความยินดีต่อชัยชนะดังกล่าว และรับปากว่าจะพยายามอย่างเต็มที่เมื่อยูเครนเป็นเจ้าภาพการแข่งขันในปีหน้าที่เมืองมารีอูปอล โดยย้ำว่ามารีอูปอลของยูเครนเป็นอิสระ สันติ และฟื้นฟูแล้ว เขามั่นใจว่าชัยชนะของยูเครนในการทำสงครามก็กำลังจะมาถึงในอีกไม่นาน ด้านนายโอเลห์ ซุก นักร้องนำวัย 27 ปีของวงชายล้วนที่มีสมาชิก 6 คน กล่าวบนเวทีหลังเสร็จสิ้นการแสดง เรียกร้องขอให้ช่วยเหลือนักรบที่ยังคงติดอยู่ชั้นใต้ดินของโรงงานเหล็กอาซอฟสตอลในเมืองมารีอูปอล และแถลงข่าวในเวลาต่อมาว่า ผู้คนสามารถช่วยกระจายข่าวเรื่องนี้ให้ไปถึงรัฐบาลประเทศต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือนักรบเหล่านั้น
วงคาลูช ออร์เคสตราใช้เพลงสเตฟาเนีย (Stefania) เอาชนะผู้แข่งขันอื่น ๆ ที่เข้ารอบชิงชนะเลิศทั้งหมด 25 ราย โดยชนะแซม ไรเดอร์ ดาวติ๊กต็อกชาวอังกฤษ ด้วยคะแนนโหวตจากคนดูทางบ้าน 439 คะแนน สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ยูโรวิชันที่จัดการประกวดมาตั้งแต่ปี 2499 แม้ว่าได้คะแนนจากคณะกรรมการตัดสินระดับประเทศ 40 ชาติน้อยกว่าก็ตาม นับเป็นชัยชนะครั้งที่ 3 ของยูเครนหลังจากเข้าร่วมการแข่งขันครั้งแรกในปี 2546 แล้วคว้าชัยชนะในปี 2547 และ 2559 โอเลห์ ซุก ผู้แต่งเพลงนี้ขอบคุณทุกคนที่โหวตให้เพราะเป็นชัยชนะที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อยูเครนโดยเฉพาะในปีนี้ เขาแต่งเพลงนี้เพื่อยกย่องมารดา แต่ได้กลายเป็นเพลงประจำชาตินับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากโจมตียูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เป็นเพลงภาษายูเครน เนื้อเพลงท่อนหนึ่งมีใจความว่า “ฉันจะหาทางกลับบ้านให้ได้ แม้ว่าถนนทุกสายถูกทำลายพังหมดแล้วก็ตาม”.-สำนักข่าวไทย