ในยุคที่การติดตามข่าวทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ปลายนิ้ว ผู้คนจึงสามารถรับข้อมูลข่าวสารได้มากขึ้นภายในระยะเวลาอันสั้น ส่งผลให้เกิดอาการท้วมท้น (overwhelm) จนจัดการกับอารมณ์ของตนเองได้ยาก
ภาวะ headline anxiety คืออะไร ?
ภาวะ headline anxiety หรือ headline stress disorder ไม่ใช่โรค แต่เป็นภาวะเครียดหรือวิตกกังวลที่เกิดจากการเสพข่าวจากสื่อต่าง ๆ มากเกินไป ซึ่งจัดเป็นปัญหาสุขภาพจิตอย่างหนึ่งที่เกิดจากพฤติกรรมการติดตามข่าวสารของเราในระยะเวลานาน จนมีอาการจิตตก วิตกกังวล และเครียด
อาการโดยทั่วไป
อาการทั่วไปที่เหนได้ชัดเจน คือ อาการใจสั่น แน่นหน้าอก นอนไม่หลับ วิตกกังวล ซึมเศร้า หรืออาจมีอาการฉุนเฉียว โกรธง่าย ซึ่งอาจแสดงออกเพียงชั่วครั้งชั่วคราว และเป็นเฉพาะวันนั้น ๆ ที่เราจดจ่อกับข่าวมากเกินไป
อาการข้างต้นถือเป็นสัญญานเตือนของปัญหาสุขภาพจิตอื่น ๆ ที่อาจตามมาในภายหลังได้ หากเรายังปล่อยให้ความวิตกกังวลคงอยู่ และยังไม่เลิกพฤติกรรมดังกล่าว อาการอาจหนักขึ้นและมีโอกาสส่งผลต่อการเกิดโรคบางอย่างได้ เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรควิตกกังวล หรือโรคซึมเศร้า
กลุ่มทีมีความเสี่ยงต่อภาวะ Headline Anxiety
ผู้ที่มีภาวะเหนื่อยล้าทั้งกายและใจมาก่อน: เช่น คนที่เครียดเรื่องงาน การเงิน หรือมีปัญหาชีวิตส่วนตัวเป็นทุนเดิม อาจมีจิตใจที่อ่อนไหวต่อข่าวต่าง ๆ ง่าย เนื่องจากความเครียดที่มีก่อนหน้านี้ถูกกระตุ้นด้วยเนื้อหาข่าวที่สะเทือนใจ ส่งผลให้มีภาวะ headline anxiety ง่ายกว่าคนทั่วไป
ผู้ที่มีโรควิตกกังวลหรือโรคซึมเศร้า: คนที่มีปัญหาสุขภาพจิตอาจมีอาการแย่ลง หากได้รับข่าวสารที่น่ากังวล หรือเกิดความเครียด โอกาสที่จะเกิดภาวะ headline anxiety จึงสูงกว่าคนปกติ
ผู้ที่ใช้เวลาอยู่ในโลกออนไลน์บ่อย ๆ: คนที่ติดโซเชียลมีเดีย หรือใช้เวลาอยู่กับโลกออนไลน์นาน ๆ เสี่ยงเป็นภาวะ headline anxiety เนื่องจากมีข่าวมากมายหลายประเภทที่ยังไม่ถูกตรวจสอบและคัดกรอง ปะปนกันอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ ทำให้คนกลุ่มนี้มีโอกาจที่จะได้รับข่าวปลอมสูง และเกิดอาการเครียดจากเนื้อหาที่ปลุกปั่นได้ในเวลาต่อมา
คนที่ขาดวิจารณญาณในการเสพข่าว: ผู้รับสารแต่ละคนมีวุฒิภาวะหรือบุคลิกภาพที่แตกต่างกัน บางคนอาจไม่มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์ข่าวมากพอ ทำให้พวกเขามีแนวโน้มเชื่อพาดหัวข่าวได้ง่าย โดยที่ไม่ได้อ่านรายละเอียดเนื้อหาข้างใน จึงมีโอกาสตื่นตระหนกกับข้อความบนพาดหัวข่าวที่มีลักษณะค่อนข้างรุนแรงและกระตุ้นความรู้สึกผู้อ่าน
คำแนะในการรับมือที่เหมาะสม
การจำกัดเวลาในกรเสพข่าว: พยายามกำหนดเวลาในการเล่นโซเชียลอย่างเคร่งครัด แบ่งเวลาให้ชัดเจนว่าตอนไหนควรพอ ตอนไหนควรตามข่าว และหากอาการยังไม่ดีขึ้น ลองงดเสพข่าวสักพัก หยุดรับข่าวสารที่ไม่ได้มีผลกระทบกับตนเองโดยตรง หรืออาจจะงดการใช้โซเชียลมีเดียไปสักพักใหญ่ ๆ
อย่าเชื่อพาดหัวข่าวที่เห็นในทันที: ลักษณะการใช้คำของพาดหัวข่าวมักจะเกินจริงเสมอ เพื่อต้องการให้คนอ่านสนใจกดเข้าไปดู เพราะฉะนั้นเราไม่ควรให้ความสำคัญมากไปกว่าเนื้อหาภายใน เพราะสิ่งที่พาดหัวข่าวสื่ออาจไม่ได้ตรงกับสิ่งที่เนื้อข่าวเล่าก็ได้
ตรวจสอบข่าวก่อนปักใจเชื่อ: การตรวจสอบข็อเท็จจริงจะช่วยกรองข่าวที่ส่งผลกระทบกับจิตใจเราออกไปได้มาก เนื่องจากข่าวปลอมข้อมูลเท็จส่วนใหญ่มักจะมีเนื้อหาที่สร้างความตื่นตระหนกและหวาดกลัว
ลองเปลี่ยนไปทำกิจกรรมอื่น ๆ ดูบ้าง: การหมกหมุ่นอยู่กับข่าวคนเดียวยิ่งทำให้มีอาการแย่ลง เนื่องจากไม่มีเรื่องอื่นมาช่วยหันเหความสนใจ ลองหากิจกรรมที่ผ่อนคลายทำเมื่อรู้ตัวว่ากำลังมีอาการเครียดอาจช่วยได้ เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือออกไปพูดคุยกับคนอื่นเพื่อให้เลิกจมอยูกับความคิดด้านลบ
พยายามมองหาสิ่งดี ๆ ในข่าวที่อ่าน: ทุกสิ่งทุกอย่างมีทั้งด้านดีและด้านร้ายเสมอ ข่าวสารก็เช่นกัน อย่ามองโลกในแง่ร้ายจนเกินเหตุและพยายามหาประโยชน์หรือข้อดีของข่าวนั้น ๆ แต่หากไม่เป็นผล การเปลี่ยนเนื้อหาข่าวในการติดตามอาจช่วยได้ ลองเปลี่ยนไปอ่านข่าวที่ทำให้รู้สึกมีกำลังใจ หรือดีใจไปกับบุคคลในข่าวนั้น ๆ
ทั้งนี้ หากทำตามคำแนะนำข้างต้นแล้วยังไม่ดีขึ้น อาจลองปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านปัญหาสุขภาพจิต เช่น การโทรสายด่วนสุขภาพจิต 1323 หรือไปพบนักจิตวิทยา หรือจิตแพทย์ด้วยตนเอง
เรียบเรียงบทความโดย: ชณิดา ภิรมณ์ยินดี
ที่มา: Mahidol Chanel
- 🎯 หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์” 🎯
- LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
- FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
- Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
- IG :: https://instagram.com/SureAndShare
- Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
- TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter