ชัวร์ก่อนแชร์ : ไม่ควรทิ้ง “หน้ากากอนามัย” ในขวด PET จริงหรือ ?

4 มิถุนายน 2564 ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย : ภริตพร สุธีพิเชฐภัณฑ์

บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์ข้อความว่า ไม่ควรทิ้งหน้ากากอนามัยใช้แล้วในขวดน้ำพลาสติกหรือขวดน้ำ PET เพราะเสี่ยงติดเชื้อกับผู้เก็บขยะ และเสี่ยงต่อการถูกนำมาใช้ใหม่ รวมถึงสร้างมลภาวะจากการเผามากกว่าเดิม ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวกับกรุงเทพมหานคร แล้วพบว่า เป็นเรื่องจริง แชร์ต่อได้


            บทสรุป จริง แชร์ได้
·   ไม่ควรทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วในขวด PET เพราะเสี่ยงต่อการถูกนำกลับมาใช้ใหม่ และเป็นการเพิ่มปริมาณการเผาไหม้
· ขวด PET มีมูลค่าสามารถนำกลับมารีไซเคิลได้ 
·   กทม. แนะทิ้งหน้ากากอนามัยในถุงพลาสติก มัดปากถุงให้แน่น เขียนกำกับหน้าถุงให้ชัดเจน

ภาพ : เฟซบุ๊ก “พลังงานจากขยะ (Energy from Wastes)”

ข้อมูลที่ถูกแชร์


มีการแชร์ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊ก “พลังงานจากขยะ (Energy from Wastes)” เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา ข้อความระบุใจความว่า  “อันตราย ! ไม่ควรทิ้งขยะ ‘หน้ากากอนามัย’ ใส่ขวด PET ! เตือนภัย ! อันตรายขั้นกว่า ! ไม่ควรทิ้ง “หน้ากากอนามัย” ใช้แล้ว ในขวด PET ชี้ กำจัดยาก สร้างมลภาวะมากกว่าเดิม เสี่ยงติดเชื้อต่อผู้เก็บ และกลับมาเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค แนะ แยก “ขยะติดเชื้อ” ใส่ถุงแยก มัดปากถุง เขียนหน้าถุง เพื่อนำไปกำจัดแบบประเภท “ขยะติดเชื้อ” …แต่ต้องขออนุญาตแสดงความคิดเห็น ว่าไม่ควรทิ้งแบบนี้  เพราะ

 1. การบรรจุขยะประเภทติดเชื้อแบบนี้ ในขวดพลาสติก จะไม่สามารถกำจัดได้โดยง่าย นอกจากการเผาตรง ซึ่งเป็นวิธีที่สร้างมลภาวะมากกว่าเดิม เพราะต้องเผาขวดไปด้วย 2. ถ้าไม่เผาตรง พนักงานเก็บขยะก็ต้องเปิดขวดออก แล้วดึงหน้ากากออกมาอยู่ดี โอกาสติดเชื้อก็เพิ่มมากขึ้น เป็นภาระกับพนักงานเก็บและทำลายขยะเข้าไปอีก 3. ขวด PET ใช้แล้ว ยังมีมูลค่าในตัวเอง และราคาค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับขยะพลาสติกอื่น ๆ ถ้าคนเก็บของเก่ามาเจอก่อน มีความเป็นไปได้ว่า เขาจะเปิดขวด เอาหน้ากากออก แล้วเอาขวดไปขาย แบบนี้ยิ่งเสี่ยงมากกว่าเดิม เพราะเชื้อจะแพร่ไปในหลายที่ แบบไม่มีใครทันระวังตัว…”

ข้อความดังกล่าวมีการแชร์ต่อ 1,400 ครั้ง มีผู้กดถูกใจกว่า 1,700 ครั้ง และมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในโพสต์จำนวนมาก กระทั่งมีการแชร์ข้อมูลดังกล่าวเข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงกับศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์     


 Fact Check : ตรวจสอบข้อเท็จจริง

            ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ตรวจสอบข้อเท็จจริง กับ นายวิรัตน์ มนัสสนิทวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร (กทม.) พบว่า เป็นเรื่องจริง และขอความร่วมมือประชาชนไม่ควรทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วในขวด PET  กทม.ได้รณรงค์ในเรื่อง 3R คือ Reduce, Reuse, Recycle ซึ่งขวดพลาสติกสามารถนำกลับมารีไซเคิลใหม่ได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ โดยที่ไม่จำเป็นต้องไปกำจัด แต่หากมีการนำหน้ากากอนามัยมาทิ้งในขวดพลาสติก ก็จะต้องนำทั้งขวดนี้ไปกำจัด แทนที่ขวดพลาสติกจะได้นำไปใช้ประโยชน์เพิ่มเติม ก็จะเป็นการสูญเสียประโยชน์ไป และอาจจะพบปัญหาที่ซาเล้งหรือพนักงานเก็บขยะอาจนำขวดพลาสติกนั้นไปขายได้เพราะขวดพลาสติกมีมูลค่าสามารถเก็บไปขายเพื่อสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้

กทม. มีวิธีกำจัดขยะติดเชื้อ และกำจัดหน้ากากอนามัยที่ทิ้งในขวด PET อย่างไร?

นายวิรัตน์ ระบุว่า สิ่งที่เป็นพลาสติกจะถูกนำเข้าเตาเผา ไม่ว่าจะเป็นพลาสติก ถุงดำ ถุงก๊อบแก๊บ ถุงแดง หรือขวดพลาสติก เรานำไปเผาทั้งหมด การเผาอาจจะทำได้ยากเพราะเป็นพลาสติกแข็งมีความหนา อาจจะต้องใช้เวลาในการเผามากกว่าปกติ แทนที่จะสามารถนำขวดพลาสติกกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง ก็นำกลับมาใช้ใหม่ไม่ได้ อีกทั้งการทิ้งหน้ากากอนามัยในขวด PET ก็เสี่ยงกับการที่จะมีคนนำไปขาย และเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้  

“กทม. รณรงค์พนักงานหากพบการทิ้งหน้ากากอนามัยในขวดน้ำ หรือทิ้งหน้ากากอนามัยในถุงพลาสติก ได้เน้นย้ำว่าให้นำไปกำจัดให้ถูกวิธี ห้ามแกะปากถุง ห้ามรื้อค้น เพราะอันตราย การกำจัดหน้ากากอนามัย กทม. ได้จ้าง บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ในการจัดการกับขยะติดเชื้อต่างๆ โดยนำไปเผา ณ เตาเผา 2 จุด ได้แก่อ่อนนุช และหนองแขม ซึ่งใช้ความร้อนตามมาตรฐานที่กรมควบคุมโรคได้กำหนดไว้ โดยจะผ่านการเผาจากเตาเผาแรกในอุณหภูมิ 700 องศาเซลเซียส แก๊สที่เกิดขึ้นจากเตาเผาแรกถูกนำเข้าสู่เตาเผาที่สองที่อุณหภูมิ 1,000 องศาเซลเซียส ซึ่งจะเป็นการฆ่าเชื้อ และเผาแก๊สต่างๆ ให้หายไป ทั้งนี้หากพบการทิ้งหน้ากากอนามัยในขวด PET ก็จะต้องถูกกำจัดโดยวิธีการเผาไปพร้อมกัน”นายวิรัตน์ กล่าว  

วิธีการทิ้งหน้ากากอนามัยที่ถูกต้องเพื่อลดการติดเชื้อเป็นอย่างไร?

  1. ขอรณรงค์ให้ประชาชนแยกขยะติดเชื้อหรือหน้ากากอนามัยออกจากขยะทั่วไป เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรค มัดปากถุงขยะให้แน่น และเขียนกำชับว่าเป็นขยะหน้ากากอนามัย 
  2. ใช้ไฮเตอร์ผสมน้ำราดที่ถุงขยะให้เรียบร้อยเพื่อจะได้เป็นการฆ่าเชื้อโรคในส่วนหนึ่ง 
  3. เมื่อพนักงานของ กทม. เห็นจะนำส่ง บริษัท กรุงเทพธนาคมฯ เพื่อทำการเผาให้ถูกวิธีต่อไป

“ขอเชิญชวนให้ประชาชนแยกขยะหน้ากากอนามัยใส่ถุงพลาสติก หรือถุงก๊อบแก๊บ เขียนกำชับที่ถุงว่าเป็นหน้ากากอนามัย และไม่ส่งเสริมให้นำหน้ากากอนามัยทิ้งใส่ในขวดพลาสติก เพราะขวดพลาสติกมีมูลค่าที่จะนำกลับมารีไซเคิลได้ หากนำหน้ากากอนามัยไปใส่ในขวดพลาสติก การกำจัดก็จะทำได้ยากขึ้น ใช้เวลานานขึ้น และการหมุนเวียนที่จะนำพลาสติกกลับมารีไซเคิลก็จะหมดไป เป็นการเพิ่มการเผาไหม้แทนที่จะนำมาใช้ประโยชน์ได้อีก”นายวิรัตน์ ระบุ

ข้อมูลอ้างอิง

การสัมภาษณ์ นายวิรัตน์ มนัสสนิทวงศ์ ผอ.สำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร (กทม.) เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564
https://www.facebook.com/265237194982/photos/a.10156096110394983/10157468816264983/

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: https://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

รับ 22 แรงงานไทยสิ้นสุดการทำงานจากอิสราเอลกลับถึงไทย

23 มิ.ย.- ‘ปลัดฯ บุญสงค์’ รับ 22 แรงงานไทยสิ้นสุดระยะเวลาการทำงานจากอิสราเอลกลับถึงไทย ขณะที่ล่าสุดแจ้งขอกลับเพิ่ม 9 ราย วันที่ 23 มิถุนายน 2568 เวลา 20.00 น. นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ รองปลัดกระทรวงแรงงาน นายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน นายศักดินาถ สนธิศักดิ์โยธิน ผู้ช่วยปลัดกระทรวงแรงงาน และคณะ รับและพบปะพูดคุยให้กำลังใจแรงงานไทยซึ่งเป็นลูกจ้างของบริษัท Chemo Aharon Ltd. จำนวน 22 ราย ที่ทำงานในภาคอุตสาหกรรม สัญญาจ้าง 2 ปี และเป็นกลุ่มแรงงานที่สิ้นสุดโปรเจคระยะสั้น จึงเดินทางกลับประเทศไทย โดย ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า แรงงานกลุ่มดังกล่าวมีกำหนดเดินทางกลับตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติ จึงทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ตามกำหนด โดยทางบริษัท […]

กองทัพสั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรน ชายแดนไทย-กัมพูชา

23 มิ.ย.- “กองทัพ” สั่งปิด 6 ด่าน 10 จุดผ่อนปรน ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ยกเว้นช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม-นักเรียน วันที่ 23 มิ.ย.68 เวลา 19.10 น. กองทัพภาคที่ 1 ได้เผยแพร่คำสั่งกองทัพภาคที่ 1 เรื่องควบคุมการเปิด – ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท ลงนามโดย พลโท อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 สำหรับเนื้อหาระบุว่า เนื่องด้วยปัจจุบัน ปรากฏข่าวสารทหารกัมพูชามีการรุกลํ้าอธิปไตยในพื้นที่ของประเทศไทยโดยการลาดตระเวน ปรับปรุงที่มั่น และดัดแปลงภูมิประเทศ รวมถึงมีการนำประชาชนเข้ามาแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในพื้นที่ กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ความปลอดภัยของประชาชนตามแนชายแดนได้รับความเดือดร้อน และเกิดความตึงเครียด จากสถานการณ์ดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อพี่น้องประชาชน ที่เดินทางข้ามแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 รวมถึงยังปรากฎการก่ออาชญากรรมข้ามชาติ ขบวนการ Call Center และ Hybrid Scamซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในประเทศ และในภูมิภาคเป็นวงกว้าง กองทัพภาคที่ 1ในฐานะที่เป็นหน่วยรับผิดชอบพื้นที่แนวชายแดนไทย – […]

นายกฯ ขีดเส้น 3 เดือนเห็นผล แก้อาชญากรรมข้ามชาติ

ทำเนียบ 23 มิ.ย.- นายกฯ นำแถลงไทยประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ สั่งตัดอินเทอร์เน็ตที่ส่งให้หน่วยงานมั่นคงกัมพูชาทั้งหมด เข้มการเข้า-ออก จำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด สกัดนักพนันบินไปเสียมราฐ จ่อระงับส่งออกน้ำมัน ด้านทหาร-ตำรวจ จับมือ ปปง. คว่ำบาตรขบวนการฟอกเงินข้ามประเทศ ขีดเส้น 3 เดือนสถิติแจ้งความต้องลดลง ไทยประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ พร้อมอาสาเป็นเจ้าภาพร่วมมือนานาชาติ ขณะ “นายกฯ” สั่ง ตัดอินเทอร์เน็ตที่ส่งให้หน่วยงานมั่นคงกัมพูชาทั้งหมด เข้ม การเข้า-ออก จำกัดเวลาเปิดด่านชายแดนกัมพูชา ทั้ง 7 จังหวัด สกัดบินเล่นพนัน – จ่อระงับส่งออกน้ำมัน ด้าน ทหารตำรวจ จับ มือ ปปง.คว่ำบาตร กระบวนการฟอกเงินข้ามประเทศ ขีดเส้น 3 เดือน เห็นผล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมติดตามมาตรการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ ว่า รัฐบาลประกาศยกระดับการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ โดยที่ไทยอาสาเป็นเจ้าภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในการหาความร่วมมือกับนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่กระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงความเชื่อมั่นของประเทศไทยในระดับนานาชาติ […]

ผบ.ตร.ยันเอาผิด “ฮุน เซน” ได้หรือไม่ขึ้นกับพยานหลักฐาน

23 มิ.ย. – ผบ.ตร. ระบุสอบสวนปมคลิปเสียง “ฮุน เซน” อาจเชิญนายกฯ ไทย ขึ้นอยู่กับดุลพินิจพนักงานสอบสวน ส่วนการดำเนินคดีเอาผิด “ฮุน เซน” ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย และอดีต ผบ.ตร. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา (อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา) ในความผิดต่อกฎหมายไทย ว่าก่อนหน้านี้ทางเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เดินทางมาเพื่อขอให้ดำเนินคดีกับผู้นำของประเทศกัมพูชา ตนเองเชื่อว่าทั้งหมดมีความรักชาติ รักแผ่นดิน จึงมีการนำข้อมูลมามอบให้กับตำรวจ แต่ต้องยอมรับว่า 2 กรณีเป็นคนละเหตุการณ์ และเกิดในพื้นที่แตกต่างกัน ย้ำตำรวจไม่หนักใจ และได้สั่งการให้หน่วยงานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่เกี่ยวข้องนำเรื่องไปพิจารณาตามหน้าที่และอำนาจเพื่อนำมาเสนอกลับให้ตนเอง การที่มีหลักฐานต่างๆ ยิ่งเป็นเรื่องดี เพื่อยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทำตามหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ต่อให้เป็นเรื่องนอกราชอาณาจักร ส่วนจะมีการสอบปากคำในส่วนของผู้ถูกกล่าวถึง อย่างสมเด็จฮุน เซน ด้วยหรือไม่นั้น การจะเอาผิดได้หรือไม่อยู่ที่การสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน แต่เบื้องต้นต้องสอบสวนในส่วนของผู้กล่าวหาก่อน ส่วนข้อมูลของอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะสามารถเอาผิดผู้นำประเทศกัมพูชา ได้หรือไม่ต้องเป็นการพิจารณาของพนักงานสอบสวนก่อนเช่นกัน ส่วนกรณีที่นายสมคิด เชื้อคง […]