ยูเครน 3 มี.ค.-ผ่านมาครบ 1 สัปดาห์เต็มแล้วที่รัสเซียบุกยูเครน และเพิ่งยึดเมืองเคอร์ซอน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่แห่งแรกได้สำเร็จ ส่วนที่กรุงเคียฟ ต้องเตรียมโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่
เมืองเคอร์ซอนที่รัสเซียยึดได้ เป็นเมืองท่าทางตอนใต้ติดทะเลดำที่มีประชากรราว 3 แสนคน ซึ่งเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ มีที่ตั้งเป็นปากแม่น้ำพร้อมท่าเรือใหญ่ ซึ่งสามารถใช้เป็นฐานบัญชาการและส่งกำลังบำรุงได้ เมื่อวานนี้นายกเทศมนตรีของเมืองปฏิเสธว่ายังไม่แตกพ่ายและยังยืนหยัดต่อสู้ แต่ในที่สุดก็ต้องยอมรับว่าถูกรัสเซียยึดครองแล้ว โดยเขาได้เจรจาขอให้อย่ายิงประชาชน และขอให้ชาวเมืองทำตามคำสั่งต่างๆ ของรัสเซียรวมทั้งเคอร์ฟิว
ส่วนเมืองอื่นๆ ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ถือว่ารัสเซียเปิดการโจมตีหนักที่สุดตั้งแต่ยกทัพเข้าไปในยูเครนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เช่นที่เมืองมาริอูโพล ซึ่งอยู่ทางใต้เช่นกัน รัสเซียได้ระดมยิงปืนใหญ่อย่างหนัก มีรายงานว่าเมื่อวานนี้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน ที่เมืองคาร์คิฟ เมืองใหญ่อันดับสองของประเทศซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกใกล้พรมแดนรัสเซีย ยังคงต้านทานเอาไว้ได้แม้ว่าเมื่อวานนี้รัสเซียได้ส่งทหารพลร่มเข้าไปและโจมตีทางอากาศและปืนใหญ่อย่างหนัก ทำให้มีหลักฐานเพิ่มอีกมากมายว่า รัสเซียได้โจมตีเป้าหมายพลเรือน
สำหรับกรุงเคียฟ ซึ่งมีกองทหารรัสเซียจำนวนมากที่ระดมเสริมเข้าไปปิดล้อมทางตอนเหนือหลายวันแล้ว ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวมากนัก ซี่งอาจเป็นไปตามการวิเคราะห์ของหลายฝ่ายว่า รัสเซียมีปัญหาด้านการส่งกำลังบำรุง ขาดแคลนอาหารและเชื้อเพลิง จึงมีเพียงการโจมตีประปรายในเมืองหลวง และการสู้รบตามแถบชานเมืองเท่านั้น อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า รัสเซียเตรียมโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่
ต่อมา นายโวโลดีเมียร์ เซเลนสกี้ ประธานาธิบดียูเครน ได้แถลงตอบโต้และปลุกใจว่า ชาวยูเครนจะไม่ยอมถอยเพราะนี่เป็นสงครามของผู้รักชาติ รัสเซียผู้รุกรานจะเผชิญแรงต้านทานอย่างหนัก เขายังได้ขอร้องทหารรัสเซียที่ถูกเกณฑ์มาและหลอกใช้ ส่วนใหญ่อายุ 19-20 ปีให้ถอยหลังกลับบ้าน เพราะพวกเขาเสียขวัญไปแล้ว หลายคนถูกจับกุมได้อย่างง่ายดายและจะไม่สามารถสู้กับชาวยูเครนที่สู้อย่างกล้าหาญได้
ผู้นำยูเครนยังได้ประกาศว่า เท่าที่ผ่านมา รัสเซียต้องสูญเสียทหารไปแล้วเกือบ 9 พันคน แต่ฝ่ายรัสเซีย โดยโฆษกกระทรวงกลาโหมแจ้งตัวเลขน้อยกว่านั้นมาก คือเสียชีวิต 498 คน และบาดเจ็บราว 1,600 คน อย่างไรก็ตามนี่เป็นครั้งแรกที่รัสเซียได้ประกาศยอมรับว่าสูญเสียกำลังพลในการสู้รบ.-สำนักข่าวไทย