fbpx

จับมือยิงรัว 6 นัด ใส่อริรัก

กรุงเทพฯ 24 ม.ค. – พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น.แถลงการจับกุมนายธนาเดช สิริรักษาธรรม อายุ 46 ปี ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืนในครอบครองโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนฯ ตามหมายจับศาลอาญาพระโขนง พร้อมของกลางอาวุธปืน ยี่ห้อนอริงโก้ ขนาด 9 มม.และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ


เจ้าหน้าที่สืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายหลังก่อเหตุทะเลาะวิวาทโดยใช้อาวุธปืน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา มีเหตุทะเลาะวิวาทโดยใช้อาวุธปืน บริเวณ กลางซอยจ่าโสด หน้าหมู่บ้านชวนชม ฝ่ายสืบสวน สน.บางนา และฝ่ายป้องกันและปราบปรามจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุมีชาย 2 หญิง 1 มีเหตุทะเลาะกันก่อนที่จะมีเสียงปืนดังขึ้นที่บริเวณดังกล่าวแล้วหลบหนีไป หลังจากรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางนา จึงได้ออกสืบสวนติดตาม เพื่อเร่งรัดจับกุมคนร้าย จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทราบว่ามีผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจำนวน 3 คน หลังจากก่อเหตุคนร้ายกับแฟนสาวได้ขึ้นรถจักรยานยนต์รับจ้างหลบหนี

ด้าน ผกก.สน.บางนา เปิดเผยว่าจากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ทราบว่าคนร้ายพักอาศัยอยู่ห้องเช่าใกล้ที่เกิดเหตุ และตรวจสอบห้องเช่าของคนร้ายมีเอกสารราชการที่ระบุตัวตนของคนร้ายและได้นำภาพถ่ายให้ผู้บาดเจ็บดู และผู้บาดเจ็บชี้ยืนยันว่าคนร้าย คือนายธนาเดช สิริรักษาธรรม อายุ 46 ปี เป็นผู้ที่ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงตน


ต่อมาวันที่ 17 ม.ค. ทาง สน.บางนา ได้ขอศาลอนุมัติหมายจับ และฝ่ายสืบสวน สน.บางนา ได้ร่วมกับ ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.5 ทำการสืบสวนและเฝ้าติดตามจับกุมคนร้ายมาโดยตลอด จนกระทั่งวานนี้ (23 ม.ค.) ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่บริเวณหาดนาจอมเทียน จ.ชลบุรี จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและได้ร่วมกันวางแผนจับกุมนายธนาเดช ได้พร้อมของกลางอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ

จากการสอบสวน นายธนาเดช ให้การรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหาจริง โดยตนเองชอบและรักเรื่องอาวุธปืนมาก ศึกษาเรื่องอาวุธปืนมาเป็นเวลานานและมีนิสัยชอบพกพาอาวุธปืนเป็นปกติไว้เพื่อป้องกันตัว

ส่วนสาเหตุเนื่องจากตนเองและผู้บาดเจ็บ คบหาผู้หญิงคนเดียวกัน และมีการทะเลาะกันมาเป็นระยะๆ ก่อนที่วันเกิดเหตุ ผู้หญิงได้มาหาที่ห้องพัก และผู้บาดเจ็บจะติดตามมาจนทำให้มีปากเสียงกัน ตนเองจึงตัดสินใจพาแฟนสาวหนีออกมา แต่ผู้บาดเจ็บพยายามขับตาม จนกระทั่งกลับรถจักรยานยนต์วนกลับมาและตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายจำนวนหลายนัด หลังจากก่อเหตุได้นั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างหลบหนีไปยังข้างหลังห้างอิมพิเรียลสำโรง แล้วขึ้นรถโดยสารส่วนบุคคลหลบหนีไปบ้านเพื่อนที่ซอยสุขสวัสดิ์ 70 จ.สมุทรปราการ เป็นเวลา 3 วัน และได้หลบหนีไป จ.สุพรรณบุรี จากนั้นผู้ต้องกับแฟนสาวได้ตัดสินใจกลับมาที่หาดนาจอมเทียน เพื่อมาหางานทำ จนกระทั่งถูกตำรวจเข้าจับกุม จากการตรวจสอบเคยมีประวัติถูกจับกุมดำเนินคดียาเสพติดมาเป็นจำนวน 2 ครั้ง และพ้นโทษมาได้ 2 ปี เบื้องต้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางนา ดำเนินคดีตามกฎหมาย. -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ลุยเชียงใหม่ร่วมบิ๊กคลีนนิ่ง ฟื้นฟูหลังน้ำลด

“อนุทิน” ลงพื้นที่เชียงใหม่ ร่วมทีม จนท.-กู้ภัย-อาสาสมัคร “บิ๊กคลีนนิ่ง” ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำลด เร่งจ่ายเยียวยาผู้ประสบภัย