fbpx

แม่บริจาคอวัยวะลูกสาว ช่วยชีวิตได้ 6 คน

เพชรบูรณ์ 24 ม.ค.-สาววัย 28 ปี ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต แม่บริจาคอวัยวะช่วยผู้อื่นได้อีกถึง 6 คน เผยลูกเคยเปรยว่าต้องการบริจาคอวัยวะ ขณะที่ ผอ.รพ.เพชรบูรณ์ ระบุตั้งแต่ปี 2563 มีผู้เสียชีวิตบริจาคอวัยวะแล้ว 70 ราย ช่วยผู้ป่วยได้ถึง 122 คน


วันที่ 23 มกราคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์ นิติ เหตานุรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ มอบประกาศเกียรติคุณ และพวงหรีด จากศูนย์ดวงตาสภากาชาดไทย ให้แก่นางสาวชาลิสา วงศาวดี อายุ 28 ปี ที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ และได้บริจาคอวัยวะให้แก่สภากาชาดไทยเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้อื่น โดยมีนางระพีพร วงศาวดี อายุ 59 ปี มารดา เป็นผู้รับมอบ ณ ศูนย์บริจาคอวัยวะ โรงพยาบาลเพชรบูรณ์

นางระพีพร วงศาวดี มารดา นางสาวชาลิสา วงศาวดี ผู้เสียชีวิต เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ลูกสาวของตนเองทำงานเป็นพนักงานประจำสำนักงานฟู้ดแพนด้า อ.เมืองเพชรบูรณ์ และเช่าบ้านพักอยู่ในตัวเมืองเพชรบูรณ์ โดยช่วงค่ำวันที่ 21 มกราคม ที่ผ่านมา ลูกสาวได้ขี่รถจักรยานยนต์ไปบ้านเพื่อน กระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. ได้ขี่รถจักรยานยนต์เพื่อจะกลับมาห้องพัก แต่เมื่อมาถึงหน้าโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ รถจักรยานยนต์ได้ชนท้ายรถยนต์ที่จอดอยู่ข้างทาง จนได้รับบาดเจ็บสาหัส กู้ชีพได้นำตัวส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ โดยแพทย์ได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่เนื่องจากน้องบาดเจ็บสาหัส และก้านสมองตาย ระหว่างนั้นพยาบาลได้มาแจ้งถึงโครงการบริจาคอวัยวะเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ซึ่งตนก็เห็นดีด้วยเพราะเป็นความต้องการของลูกสาว โดยเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา ลูกสาวได้ไปร่วมงานวันเกิดป้าและได้พูดเปรยๆ กับตนเองว่า ตั้งใจที่จะไปแจ้งความประสงค์ที่จะบริจาคอวัยวะที่โรงพยาบาล แต่ยังไม่ได้ไปเลย กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว


น.ส.ปราณี วงศาวดี อายุ 66 ปี ผู้เป็นป้า ที่เลี้ยง น.ส.ชาลิสา มาตั้งแต่เด็กและได้ผูกเป็นบุตรบุญธรรม เปิดเผยว่า น.ส.ชาลิสา หรือน้องติ้ว เป็นเด็กดี ใฝ่ฝันที่จะไปทำงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากน้องติ้วจบเอกภาษาอังกฤษเพื่อการธุรกิจ จากมหาวิทยาลัยพิบูลสงคราม จังหวัดพิษณุโลก แต่ระหว่างรอดำเนินการและจัดทำเอกสาร ก็ได้มาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่สำนักงานของฟู้ดแพนด้าประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อรอเวลาไปก่อน

ล่าสุดที่ตนได้พบน้องติ้วคือ วันที่ 15 ม.ค.65 ซึ่งเป็นวันเกิดของตนเอง น้องติ้วได้มาร่วมงานวันเกิด และเข้ามาขอกอดโดยบอกว่า ขอกอดแก้เหนื่อยหน่อย พร้อมทั้งหอมแก้ม ซึ่งตามปกติก็จะไหว้ธรรมดา ทีแรกก็แปลกใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ไม่คิดว่าการกอดครั้งนั้น จะเป็นการกอดครั้งสุดท้าย

นายแพทย์ นิติ เหตานุรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตรายนี้สามารถบริจาคอวัยวะได้ถึง 6 ส่วน คือ กระจกตา 2 ข้าง ไต 2 ข้าง ลิ้นหัวใจ และหลอดเลือดดำ สามารถนำไปช่วยชีวิต และให้ผู้อื่นได้มองเห็นได้อีกถึง 6 คน ถือว่าเป็นกุศลอย่างสูง และขอให้บุญกุศลดังกล่าว จงส่งผลให้ผู้เสียชีวิตไปสู่ภพภูมิที่ดี


ประเทศไทยมีผู้ป่วยอวัยวะวาย และรอการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะอยู่เป็นจำนวนมาก โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ จึงได้มุ่งเน้นที่จะจัดหาและรับบริจาคอวัยวะ เพื่อไปช่วยเหลือผู้ป่วยดังกล่าวโดยในปี 2563 ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตและได้บริจาคอวัยวะ 23 ราย โดยเป็นไต 12 ข้าง ตับ 1 หัวใจ 1 ลิ้นหัวใจ 3 ดวงตา 27 ข้าง สามารถนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยได้จำนวน 44 ราย ในปี 2564 มีผู้เสียชีวิตบริจาคอวัยวะ 39 ราย เป็นไต 18 ข้าง ลิ้นหัวใจ 12 ตา 45 ข้าง สามารถนำไปช่วยผู้ป่วยได้ 65 ราย และในปี 2565 มีผู้เสียชีวิตบริจาคอวัยวะ 8 ราย เป็นไต 4 ข้าง ตับ 1 หัวใจ 1 ลิ้นหัวใจ 1 ดวงตา 6 ข้าง สามารถนำไปช่วยผู้ป่วยได้ 13 ราย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้

อาลัย “อดีตแข้ง U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา

วงการลูกหนังอาลัย “อดีตนักเตะ U19” ขับเบนซ์พลิกคว่ำดับพร้อมภรรยา ชาวบ้านเผยจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ลงสะพานอย่าขับเร็ว

สอบเพิ่ม “ไอ้แม็ก” ฆ่าชิงทรัพย์หญิงขับโบลท์ ฝากขังพรุ่งนี้

ตำรวจคุมตัว “ไอ้แม็ก” สอบปากคำเพิ่มคดีฆ่าชิงทรัพย์โชเฟอร์สาวขับโบลท์ เจ้าตัวปฏิเสธไปชี้จุด อ้างปวดท้องไม่สบาย เตรียมฝากขังพรุ่งนี้