กาญจนบุรี 26 พ.ย. – เฮลิคอปเตอร์ยกตัวเข้าพื้นที่จุดเกิดเหตุ 2 เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เขาแหลม ทำร้ายกัน เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน แต่ลงจอดไม่ได้ นักบินจึงตัดสินใจบินกลับ ขณะที่ทางภาคพื้นได้วางแผนส่งเจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้าไปสมทบในจุดเกิดเหตุเพิ่มเติม เผยอาการผู้บาดเจ็บยังรู้สึกตัวและพูดคุยโต้ตอบได้
ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ใช้อาวุธทำร้ายกันเอง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายคฑาวุธ กลมเกลียว ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิด ส่วนอีกคนได้รับบาดเจ็บคือ นายภาคภูมิ มะเกิ๋น ถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีด จุดเกิดเป็นหุบเขาลึก ในพื้นที่ป่าบ้านพุเย หมู่ 3 ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี หลังจากผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิต พร้อมกับเพื่อนเจ้าหน้าที่พิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาแหลมอีก 6 คน ได้นำพาเจ้าหน้าที่มูลนิธิฟรีแลนซ์ ประเทศไทย เข้าไปติดตั้งกล้องเพื่อทำการศึกษาหรือวิจัยทางวิชาการในการติดตามสัตว์ตระกูลแมวป่า ในกลุ่มป่าทางทิศใต้ของผืนป่าตะวันตก ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี
โดยเจ้าหน้าที่ชุดเดินเท้าที่พยายามเข้าไปจุดเกิดเหตุตั้งแต่ช่วงค่ำเมื่อวานนี้ เพื่อปรับพื้นที่ทำลานจอดเฮลิคอปเตอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ เพื่อนำพาพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ รวมทั้งแพทย์เวร โรงพยาบาลทองผาภูมิ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าไปยังจุดเกิดเหตุ กระทั่งช่วงเที่ยงที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดเดินเท้าเดินทางถึงจุดเกิดเหตุแล้ว และเร่งตัดต้นไม้เพื่อปรับพื้นที่ทำลานจอดเฮลิคอปเตอร์ให้เข้าไปรับศพและผู้ได้รับบาดเจ็บ พร้อมกับเจ้าหน้าที่อีก 6 คน ออกมา
นายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ได้ประชุมวางแผนกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยและตำรวจ โดยระบุว่าการเข้าออกยากลำบากพอสมควร เดินเท้าก็ต้องใช้เวลานานเป็นวันเป็นคืน รถจักรยานยนต์ หรือพาหนะอื่นๆ ไม่สามารถเข้าได้ ต้องขอการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์เข้าไปในพื้นที่เท่านั้น ส่วนสาเหตุให้เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ สืบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป
ล่าสุดเฮลิคอปเตอร์ที่จะเข้าไปช่วยเหลือได้บินเข้าพื้นที่เมื่อเวลา 15.00 น. และได้รับแจ้งว่าผู้บาดเจ็บยังรู้สึกตัวและพูดคุยโต้ตอบได้ปกติดี แต่เมื่อไปถึงไม่สามารถลงจอดได้ เนื่องจากยังมีต้นไม้ขวางทางลงอยู่ประมาณ 3-4 ต้น นักบินจึงตัดสินใจบินกลับ ขณะที่ทางภาคพื้นได้มีการวางแผนส่งเจ้าหน้าที่เดินเท้าเข้าไปสมทบในจุดเกิดเหตุเพิ่มเติม
ขณะที่พี่สาวของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่เสียชีวิต เปิดเผยว่า จากกระแสข่าวที่มีการระบุว่าผู้เสียชีวิตทำร้ายเพื่อนร่วมงาน ก่อนใช้ปืนยิงตัวเองนั้น ส่วนตัวไม่เชื่อว่าน้องชายจะทำร้ายตัวเอง เพราะก่อนเกิดเหตุยังคุยกันปกติ น้องยังชวนกลับบ้านที่สุโขทัย น้องชายเป็นคนคุยเก่ง รักครอบครัว เป็นไปไม่ได้ที่จะก่อเหตุเช่นนั้น ต้องการขอความเป็นธรรมให้น้องชาย แต่หากผลพิสูจน์ข้อเท็จจริงออกมาเช่นไรก็พร้อมยอมรับ.-สำนักข่าวไทย